คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
พิรยุทธ นิ่มนนท์
เรื่อง/ภาพ
ในทางกฎหมายแล้วเมื่อเราเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง ก็ต้องมีหน้าที่คอยดูแลไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนรำคาญ หรือสร้างความเสียหายให้กับผู้อื่น สุนัขหรือหมาก็เช่นกัน หากปล่อยปละละเลยจนมันไปกัดคนอื่นเข้า เจ้าของย่อมหนีความรับผิดชอบไปไม่พ้น
พอเป็นเรื่องหมากัดกัน หลายคนมักไม่ให้ความสำคัญ คิดว่าเป็นเรื่องของหมามัน แต่อย่าลืมว่าตามกฎหมายสัตว์เลี้ยงถูกจัดให้เป็นทรัพย์สินชนิดหนึ่ง จึงเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ เมื่อหญิงสาวขึ้นโรงพักบางเขน แจ้งความว่า หมาพันทางที่เลี้ยงไว้ โดนหมาพิตบูล 3 ตัวของเพื่อนบ้านรุมขย้ำ เหวอะทั้งตัว เย็บ 50 เข็ม หมดค่ารักษาไป 15,000 บาท แต่เมื่อไปเจรจากับคู่กรณีกลับตกลงกันไม่ได้
เรื่องของหมาที่ส่งผลสะเทือนถึงคน เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 ม.ค. ที่ สน.บางเขน เมื่อน.ส.สุดารัตน์ อบอุ่น อายุ 24 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง พาเจ้าช็อปเปอร์ สุนัขพันทางอายุ 5 ปี ที่เลี้ยงเอาไว้ เข้าพบร.ต.อ.จตุพงศ์ อาจหาญ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางเขน เพื่อลงบันทึกประจำวันร้องทุกข์ว่า ถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลจำนวน 3 ตัว ของเพื่อนบ้าน รุมกัดจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องเย็บแผลถึง 50 เข็ม แต่ไม่สามารถตกลงค่าเสียหายกับทางเจ้าของสุนัขพิตบูลได้
น.ส.สุดารัตน์เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลา 17.00 น. ของวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา ภายในซอยวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. โดยทุกวันในช่วงเช้าน้าชายของตนจะต้องจูงเจ้าช็อปเปอร์ออกจากบ้านพักซึ่งเปิดเป็นร้านท่อไอเสียรถยนต์ เพื่อเอาไปเลี้ยงที่บ้านอีกหลัง ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร เนื่องจากมีพื้นที่กว้างกว่าที่ร้าน จากนั้นช่วงเย็นหลังจากปิดร้านก็จะนำเจ้าช็อปเปอร์กลับมานอนที่เดิมเป็นประจำทุกวัน
น.ส.สุดารัตน์เปิดเผยต่อว่า วันที่เกิดเหตุขณะน้าชายกำลังจูงเจ้าช็อปเปอร์เดินผ่านบ้านที่เลี้ยงสุนัขพิตบูลเอาไว้ อยู่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร โดยใกล้จะถึงบ้านอยู่แล้ว จู่ๆ สุนัขพิตบูล 3 ตัว ก็วิ่งออกมาจากประตูบ้าน ตามเข้ามารุมกัด เจ้าช็อปเปอร์จนบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่ เจ้าของหมาพิตบูลจะวิ่งตามมาแยกหมา กลับเข้าบ้านไป จากนั้นทางบ้านรีบนำตัว เจ้าช็อปเปอร์ส่งโรงพยาบาล
สัตวแพทย์ต้องเย็บแผลที่บริเวณลำตัว 30 เข็ม หูข้างขวา 6 เข็ม ขาหน้าข้างขวา 9 เข็ม ขาหน้าข้างซ้าย 4 เข็ม ขาหลังข้างซ้าย 3 เข็ม และยังต้องมีการรักษาพยาบาลต่อเนื่องอีก รวมแล้วค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท แต่คาดว่าค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมดจนหายดีจะไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท ทางตนได้เจรจาเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลจากคู่กรณี แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาตลอด จึงเดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.บางเขน เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา
“วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจนัดให้มาเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี แต่ก็ตกลงกันไม่ได้เพราะเขาเสนอเงินให้เพียง 3,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อการรักษาต่อเนื่อง หลังจากนี้จึงจะดำเนินการฟ้องร้องทางแพ่ง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายตามกฎหมายต่อไป” น.ส.สุดารัตน์กล่าว
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายเดือนก.พ.2559 เจ้าช็อปเปอร์ก็เคยถูกหมาพิตบูลทั้ง 3 ตัว รุมกัดมาแล้วโดยตอนนั้นเสียค่ารักษาพยาบาลไป 20,000 บาท แต่ไม่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดี และทางคู่กรณีก็ไม่ได้มีการช่วยเหลือในค่ารักษาแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีผู้คนกับสุนัขของเพื่อนบ้านบริเวณใกล้เคียงถูกกัดมาแล้วหลายครั้งที่ผ่านมาไม่มีใครเอาเรื่อง
“หมากัดคนไม่เป็นข่าว คนกัดหมาเป็นข่าว” ทฤษฎีที่ถูกสั่งสอนกันมาทุกยุคสมัย ความหมายที่ซ่อนอยู่ ไม่ได้แค่ว่าใครเป็นฝ่ายกัดใคร แต่แท้จริงแล้วเหตุการณ์นั้นๆ มันมีความสำคัญ เป็นสิ่งที่ไม่ปกติธรรมดา เป็นเรื่องราวที่ผู้คน ควรได้รับรู้ ควรนำเสนอเป็นข่าวหรือไม่ต่างหาก
เหตุการณ์นี้จึงได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนแขนงต่างๆ พากันมาทำข่าวกันคึกคัก หลังเป็นข่าวออกไปงานก็เข้าตำรวจเต็มๆ เมื่อมีกระแสไม่พอใจการทำงานของพนักงานสอบสวน ที่ไม่ได้ดำเนินการอะไรกับทางเจ้าของหมาพิตบูล
รุ่งขึ้นร.ต.อ.จตุพงศ์ เจ้าของคดีต้องออกมาเปิดเผยว่า เบื้องต้นได้เรียกตัวเจ้าของ สุนัขพิตบูลเข้ามาเปรียบเทียบปรับในข้อหาปล่อยปละละเลยให้สุนัขของตนเองไปกัดสุนัขซึ่งเป็นทรัพย์สินของผู้อื่นให้เกิดความเสียหาย เข้ามาตรา 377 โดยอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ร.ต.อ.จตุพงศ์กล่าวต่อว่า ผู้เสียหายสามารถนำข้อมูลการเปรียบเทียบปรับไปประกอบการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในการรักษาพยาบาลต่อเนื่องกับคู่กรณีได้ ทั้งนี้อยากชี้แจงว่าหลังจากที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวดังกล่าวออกไป มีประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจโทร.มาสอบถามเรื่องราวจากเจ้าหน้าที่
“จริงๆ แล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นฝ่ายที่นัดคู่กรณีทั้งสองฝ่ายให้เข้ามาไกล่เกลี่ย โดยก่อนหน้าผมก็ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง และได้มีการชี้แจงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทั้งสองฝ่ายได้เข้าใจ โดยอยู่บนความถูกต้องและเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ในส่วนของผู้เสียหายก็ยินยอมสมัครใจที่จะไปเรียกร้องค่าเสียหายตามกระบวนทางกฎหมายเอาเอง” ร.ต.อ.จตุพงศ์กล่าว
เหตุการณ์นี้พิสูจน์แล้วว่า “ชั่วโมงนี้หมากัดอะไรก็เป็นข่าวได้ทั้งนั้น”
