สดจากสนามข่าว : ตร.ปิดคดีฉกเพชร 10 ล. จับ‘เสี่ยเอ’คาด่านเขมร ขาย 5 แสนเล่นพนันหมด
สดจากสนามข่าว : “จบเกมแล้ว เกมก็คือเกม” คำพูดที่นายภิพัศพงษ์ พัศฐ์ สุขสวัสดิ์พิพัฒน์ หรือเสี่ยเอ อดีตนักธุรกิจค้าเพชร พูดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างยอมรับชะตากรรม ภายหลังถูกรวบตัวคาด่านตรวจคนเข้าเมืองบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ในคดีที่เจ้าตัววางแผนเหนือเมฆ ฉกเพชร 10 กะรัต มูลค่า 10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ในท้องที่ สน.บางรัก
อะไรทำให้เสี่ยใหญ่ มีฐานะร่ำรวย เป็นที่รู้จักในวงการค้าเพชรพลอย กลายมาเป็นโจรฉกเพชรไปได้
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ร.ต.ท. ชนะชาติ เจริญผล รองสว. (สอบสวน) สน.บางรัก รับแจ้งเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์แหวนเพชร น้ำหนัก 10 กะรัต บริเวณห้องแถวเลขที่ 426/2-3 ถนนสี่พระยา แขวงมหาพฤษฒาราม เขตบางรัก จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.บางรัก พ.ต.ท.ภูริส จิตรานันท์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.พงษ์นรินทร์ เหล่าเขตกิจ รอง ผกก.สส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.คุมทำแผนฯ
ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถว 5 ชั้น 2 คูหา แบ่งพื้นที่ให้เช่า โดยด้านล่าง 1 คูหา มีร่องรอยการทุบทำลายกระจกประตูแตกละเอียด เศษกระจกกระจายเต็มหน้าร้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เป็นชาวอินเดีย 1 ราย และชาวไทย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายเจนหรือวีกี้ ไวบัส อายุ 44 ปี และนายพิสิษฐ์ รอดกุล โดนเศษกระจกบาดตามร่างกาย
ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น.6 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.บางรัก, พ.ต.ท.พงศ์นรินทร์ เหล่าเขตกิจ รอง ผกก.สส.สน.บางรัก และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก ร่วมกันสอบปากคำผู้เสียหาย พร้อมประชุมเร่งคลี่คลายคดี
ที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา มีนายเอ (ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง) อายุประมาณ 45-50 ปี สูงประมาณ 170 ซ.ม. รูปร่างผอม ผิวสองสี ซึ่งเป็นผู้ต้องหา ติดต่อขอเช่าอาคารพาณิชย์หลังดังกล่าว เดือนละ 10,000 บาท เพื่อต้องการเปิดร้านแลกเปลี่ยนและรับทำอัญมณี โดยขอเคลื่อนย้ายเครื่องตกแต่งเข้าร้านให้เรียบร้อยก่อน แล้วจะตกลงเซ็นสัญญาเช่ากับทางเจ้าของในภายหลัง เนื่องจากนายเอต้องการเปิดร้านโดยเร็วที่สุด
กระทั่งวันนี้ นายเจน หรือวีกี้ ไวบัส อายุ 44 ปี ผู้เสียหายชาวอินเดีย นายหน้าค้าเพชรและเพื่อน 1 คน นำเพชรขนาดประมาณ 10 กะรัต มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท เดินทางมาติดต่อขายให้กับนายเอ ที่ร้านดังกล่าว
จากนั้นนายเอ ออกอุบายขอดูเพชร โดยทำท่าตรวจดู บอกว่าต้องการส่องกับแสงธรรมชาติ จากนั้นได้บอกกับนายเจน ที่นั่งรออยู่ว่าจะขอนำไปส่องดูกับแสงแดดด้านนอกหน้าประตู
ภาพวงจรปิด
พอสบโอกาส นายเอจึงกดรีโมตปิดประตูขังผู้เสียหายไว้ภายใน ก่อนจะวิ่งไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ไม่ทราบรุ่น สี และทะเบียน ที่ผู้ร่วมก่อเหตุติดเครื่องรอไว้แล้วขับหลบหนีไป เมื่อนายเจนและเพื่อนซึ่งนั่งอยู่ในร้าน เห็นนายเอนำเพชรหลบหนีไป จึงพยายามจะตามไป แต่ประตูกลับเป็นประตูอัตโนมัติ ไม่สามารถเปิดออกได้
นายเจนจึงใช้มือทุบประตูจนแตก ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว และพยายามวิ่งตาม แต่ไม่ทัน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะไปปฐมพยาบาลที่ร.พ.มเหสักข์ เย็บแผลจำนวน 20 เข็ม ล่าสุดอาการปลอดภัย
ตำรวจใช้เวลาไม่นานก็ทราบว่า คนร้ายคือนายภิพัศพงษ์พัศฐ์ สุขสวัสดิ์พิพัฒน์ อายุ 59 ปี ชาวจ.ลพบุรี โดยอดีตเคยเป็นเจ้าของกิจการค้าขายอัญมณีที่จ.จันทบุรี จนมีฐานะร่ำรวย ในวงการค้าเพชรมีชื่อว่า ‘เสี่ยเอ’ แต่ตอนหลังติดการพนันอย่างหนัก จนประสบปัญหาทางธุรกิจต้องปิดกิจการ ก่อนอาศัยความรู้ความชำนาญในวงการเพชรที่สั่งสมมา ใช้วางแผนก่อเหตุลักเพชรเสียเอง
เมื่อเช็กประวัติพบว่าเคยก่อคดีมาแล้ว 8 ครั้ง เปลี่ยนชื่อมา 5 รอบ กระทั่งมาก่อเหตุในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 9
สุดท้ายก็หนีไม่รอด เมื่อตำรวจพบเสี่ยเอ ขณะกำลังเดินผ่านด่านชายแดนบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี จึงควบคุมตัวไว้พร้อมเพชรจำนวนหนึ่ง
เสี่ยเอสารภาพแต่โดยดีว่า ก่อนลงมือก่อเหตุ มีเงินติดตัว 40,000 บาท จึงวางแผนใช้เงิน 10,000 บาทมาเช่าร้าน อีก 10,000 บาท มาติดตั้งระบบประตูล็อกอัตโนมัติ อีก 10,000 บาท ใช้จ่ายระหว่างอยู่ที่อาคาร จากนั้นจ้างนายตั้ม คนเข็นผักชาว กัมพูชาจากจ.จันทบุรี 10,000 บาท ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์พา หลบหนีไปแถววัดดวงแข ก่อนแยกย้ายกัน
จากนั้นก็ขึ้นรถเมล์ รถแท็กซี่ ไปที่คลอง 6 ปทุมธานี เพื่อเอารถของตัวเองขับไปชายแดนจ.จันทบุรี ขายเพชรให้กับชาวต่างชาติคนหนึ่งในกาสิโน ราคา 550,000 บาท นำเงินมาจ่ายนายตั้มคนพาหลบหนี 100,000 บาท เหลืออีก 400,000 บาทนำไปเล่นการพนันในบ่อนจนหมดตัวจนมาถูกจับกุม
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ เผยภายหลังสอบสวนว่า ผู้ต้องหาเป็นคนฉลาดมีการวางแผนเป็นอย่างดี เช่าห้อง ทำนามบัตรปลอม มีซิมโทรศัพท์มือถือจำนวนมากไว้ใช้ติดต่อกับทีมงาน และรู้ว่าตำรวจจะไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เส้นทางหลบหนี จึงพยายามเปลี่ยนรถ
ตั้งแต่หลบหนีขึ้นรถเมล์ รถแท็กซี่ และไปขับรถวอลโว่สีเขียว รุ่นเอส 80 หมายเลขทะเบียน ฌห 7271 ที่จอดทิ้งไว้ในพื้นที่จ.ปทุมธานี ก่อนจะหลบหนีไปจ.จันทบุรีและถูกจับกุมในที่สุด ทันทีที่ถูกจับกุมผู้ต้องหาพูดว่า “จบเกมแล้ว เกมก็คือเกม”
สาเหตุก็หนีไม่พ้นเพราะผีพนันเข้าสิงนั่นเอง
โดย : อดิศร จิตตเสวี / สมศักดิ์ ชฎารัตน์ เรื่อง/ภาพ
