สดจากสนามข่าว – ย้อนคดีจับหนุ่มหัวร้อน ฉุนง้อไม่สำเร็จเผาบ้านเมีย ลามติดชุมชนวอด5หลัง

ย้อนคดีจับหนุ่มหัวร้อน – คนเราที่วุ่นวายกันอยู่ทุกวันนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากการไม่ส่องกระจกดู ตัวเอง ไม่เห็นว่าตัวเองบกพร่องอะไร เมื่อไม่เห็นความผิดพลาดของตัวเอง คิดแต่ว่าอะไรๆ ก็เป็นความผิดของคนอื่น เมื่อเอาแต่โทษแต่คนอื่นเช่นนี้แล้วก็ยากที่จะเยียวยา

เพลิงไหม้ลามชุมชน

ค่ำวันที่ 28 ธ.ค. ร.ต.อ.นฤเศรษฐ์ เอมกริช รองสารวัตร (สอบสวน) สน.บางกอกน้อย รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 127/50 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 28 (แยกตรอกสิงโต) แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม. จึงประสาน รถดับเพลิง รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ศรีอัศวอมร ผกก.สน.บางกอกน้อย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

ที่เกิดเหตุเป็นชุมชนแออัด ส่วนบ้านต้นเพลิงเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้สูง 2 ชั้น พบกลุ่มควันและแสงเพลิงกำลังพวยพุ่งจากชั้นล่างขึ้นสู่ชั้นบนอย่างรวดเร็ว ก่อนลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง เจ้าหน้าที่จึงเร่งระดมฉีดน้ำ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเพลิงจึงสงบ เบื้องต้นพบว่ามีบ้านถูกไฟไหม้เสียหายรวม 5 หลังคาเรือน

จากการสอบถาม น.ส.ยา (นามสมมติ) อายุ 15 ปี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้มี นายพงษ์ธนา แก้วนึก อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นสามีของพี่สาว พาลูกสาวอายุ 3 ขวบ มาตามหาพี่สาวที่บ้าน หลังจากเลิกกันได้ประมาณ 1 เดือน

เนื่องจากตัวพี่เขยซึ่งมีอาชีพเก็บเงินกู้อยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 ไม่ยอมทำงาน ติดเกมและชอบแช็ตติดต่อกับผู้หญิง ตนกับพี่สาวก็แอบอยู่ที่บ้านป้าที่อยู่ด้านหน้าบ้านที่เกิดเหตุ โดยตัวพี่เขยได้เข้าไปทุบบ้านเรียกพี่สาวอยู่สักพักก็เดินออกไป

จากนั้นก็เดินกลับเข้ามาอีกรอบหนึ่ง สักพักก็ได้ยินเสียงระเบิดเกิดขึ้น ที่บ้าน 1 ครั้ง แล้วก็เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น ในบ้าน จากนั้นก็เห็นตัวพี่เขยก็วิ่งหลบหนีออกไป

เมื่อเหตุการณ์กลายเป็นคดีวางเพลิง จึงเป็นหน้าที่ของ พ.ต.ท.อดิเรก อติสัจจา สว.สส.สน.บางกอกน้อย พร้อมด้วย ร.ต.อ.ทวี จัดสนาม รอง สว.สส.สน.บางกอกน้อย ร.ต.อ.กิติศักดิ์ รอดวิมุต รอง สว.สส.สน.บางกอกน้อย และฝ่ายสืบสวนที่ต้องรีบมาสอบสวนเพื่อเร่งติดตามจับกุมนายพงษ์ธนามาสอบสวนดำเนินคดี

ไม่ต้องรอนาน เพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุตำรวจก็ตามไปจับตัวนายพงษ์ธนาได้ หลังหลบมาอยู่ที่บ้านเลขที่ 99/92 หมู่ 10 ซอยบางกร่าง 16 ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี พร้อมของกลางรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ 110 สีขาว-ดำ ทะเบียน 1 กฆ 2840 สระบุรี

นายพงษ์ธนา แก้วนึก

จากการสอบสวนนายพงษ์ธนาให้การรับสารภาพ อ้างว่าตนแยกกันอยู่กับภรรยาได้ประมาณ 1 เดือน เนื่องจากภรรยาจับได้ว่าตนแอบไปมีกิ๊กและเมาจนเสียงานเสียการอยู่บ่อยครั้ง จากนั้นตนก็ไปทำงานก่อสร้างในซอยแจ้งวัฒนะ 40 ได้ประมาณ 10 วัน

จนมุมที่เมืองนนท์

ระหว่างนั้นตนก็พยายามตามง้อขอคืนดีภรรยาตลอดแต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งช่วงเย็นวันเกิดเหตุตนอุ้มลูกสาวไปง้อภรรยาที่ร้านที่ภรรยาทำงานอยู่ก่อนจะออกมาคุยนอกร้าน แต่มีเพื่อนใน ร้านโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ตนจึงขี่รถ จยย.ไปหลบอยู่ที่ไซต์งานก่อสร้างซอยแจ้งวัฒนะ 40

อดีตสามีมือเผาเล่าถึงนาทีก่อเหตุต่อหน้าลูกว่า หลังจากนั้นก็ได้นั่งดื่มสุราแล้วตัดสินใจย้อนกลับไปง้อภรรยาอีกครั้งที่บ้านพัก แต่ภรรยาไปหลบอยู่ที่บ้านป้าที่อยู่ใกล้ๆ กัน ไม่ยอมมาพูดคุย จึงเกิดความโมโหเข้าไปในบ้านชั้นสอง ก่อนจุดไฟเผาเสื้อผ้าทั้งหมด เมื่อแน่ใจว่าไฟติดแล้วจึงอุ้มลูกหนีออกมา กระทั่งถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว

นาทีคุมตัว

ส่วนบรรยากาศที่ สน.บางกอกน้อย ได้มีบรรดาผู้เสียหาย ที่บ้านถูกเพลิงไหม้พากันเข้ามาแจ้งความ โดย นายชวลิต พิมพ์เก่า อายุ 34 ปี หนึ่งในผู้เสียหายกล่าวว่า ตนอยู่บ้าน หลังนี้มานานกว่า 30 ปี อยู่รวมกัน 7 ชีวิต ปกติเห็นว่าทั้งคู่ทะเลาะมีปากเสียงกันบ่อย แต่ก็ไม่คิดว่านายพงษ์ธนาจะ กล้าก่อเหตุโดยไม่นึกถึงคนรอบข้างขนาดนี้ อยากให้เจ้า หน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะครอบครัวตน เดือดร้อนมาก

ตรวจค้นตัว

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่ามีคดีเสพสารเสพติดเมื่อประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา ในท้องที่ สน.บางกอกน้อย ถูกศาลสั่งจำคุก 50 วัน เบื้องต้นได้ตรวจหาสารเสพติดในร่างกายก็ไม่พบแต่อย่างใด

คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าอาจไม่มีการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะมีกลุ่มผู้เสียหายชาวชุมชนที่มีไม่น้อยกว่า 40 คนต่างโกรธแค้นผู้ต้องหา รอจัดหนักให้อยู่ จึงอาจเกิดความไม่ปลอดภัยได้

อดิษัยต์ พรวนพิมพ์

อดิศร จิตตเสวี

เรื่อง/ภาพ