คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ยุทธศักดิ์ สุขเจริญ / ศุภมาศ จงสกุล / ทนงศักดิ์ ศุภการ

เรื่อง-ภาพ

ชีวิตคู่ผัว-เมีย ไม่ได้อยู่กันด้วยความรักเพียงอย่างเดียว แต่ต้องประกอบด้วยความเข้าใจ เชื่อใจและไว้วางใจ หากขาด สิ่งใดไป ย่อมหาความสุขสงบในครอบครัว ได้ยาก

คดีพิศวาสฆาตกรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้น ล้วนมีต้นเหตุมาจากความหวาดระแวง จนนำมาสู่การทะเลาะเบาะแว้งกัน หนักเข้าก็ลงมือลงไม้ทำร้ายร่างกาย หรือถึงขั้นฆ่ากันตายก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ

ล่าสุดเกิดเหตุขึ้นไล่ๆ กัน 2 คดี โดยคดีแรกเปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 มกราคม เมื่อ ร.ต.อ.ธารา น้าวานิช รองสว. สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้ง มีเหตุฆ่ากันตาย จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ. ทศพล ปทุมยา ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.อุทัย นามงาม สวป. พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์

ที่เกิดเหตุบ้านชั้นเดียว เลขที่ 220 ม.3 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พบ ศพนางสังเวียน สุขสี อายุ 65 ปี นอนตะแคง บริเวณหน้าผากถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซอง 1 นัด บริเวณหน้าอกถูกยิง 1 นัด นอนเสียชีวิตข้าง รถจักรยานยนต์สภาพเก่า 1 คัน

ที่พื้นพบปลอกกระสุนปืนลูกซองตกอยู่ 2 ปลอก จากการตรวจสอบ บริเวณหลังบ้าน เจ้าหน้าที่พบศพ นายสมาน เนาเครือ อายุ 64 ปี เจ้า ของบ้านนอนเสียชีวิตอยู่บนแคร่ใต้ต้นขนุน ถูกยิงด้วยปืนลูกซองที่อกซ้าย ใกล้กันพบปืนลูกซองยาวตกอยู่เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่า นางสังเวียนกับนายสมานเป็นสามีภรรยากันมีลูก 3 คน แต่ไปทำงานต่างจังหวัดเหลือหลานไว้เลี้ยง 1 คน ซึ่งทั้งคู่แม้นจะมีอายุมากแล้ว แต่นายสมานมักจะมีเรื่องทะเลาะกับนางสังเวียนเรื่องหึงหวงเป็นประจำ

ตอนเช้าที่ผ่านมานางสังเวียนขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งหลานที่โรงเรียน กลับมาถึงบ้านเกิดทะเลาะกับสามีเรื่องความหึงหวงว่านางสังเวียนจะปันใจให้ชายอื่น จึงใช้อาวุธปืนลูกซองยิงนางสังเวียนเสียชีวิต

จากนั้นก็นำปืนลูกซองไปหลังบ้านบริเวณแคร่เอาปากกระบอกปืนลูกซองไว้ที่หน้าอกซ้าย จากนั้นใช้เท้าเหนี่ยวไกปืนยิงตนเองเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งญาติพร้อมนำศพส่งโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาต่อไป

อีกคดีเกิดขึ้นในวันที่ 24 ม.ค. พ.ต.ท.สมบูรณ์ กาญจนะ สารวัตร (สอบสวน) สภ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตในบ้านพักมหาดไทย เขตเทศบาลตำบลพะโต๊ะ จึงรุดไปตรวจสอบเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพะโต๊ะ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจำนวนหนึ่ง

ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเรือนไม้ 2 ชั้น ซึ่งเป็นบ้านพักของข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ภายในห้องพักห้องที่ 2 ที่ชั้นล่าง พบศพ ส.อ.กฤษณะ กำปา อายุ 39 ปี สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน อ.พะโต๊ะ นอนจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ขมับขวาทะลุหน้าผากซ้าย 1 นัด โดยมีอาวุธปืนขนาด .357 ตกอยู่ข้างกาย ใกล้กันพบศพ น.ส.อุทุมพร จินาคม อายุ 35 ปี ภรรยา มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ท้ายทอยซ้ายกระสุนตุงที่หน้าผาก

จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุชาวบ้านใกล้กับห้องพักได้ยินเสียง ส.อ.กฤษณะ ทะเลาะกับ น.ส.อุทุมพร อย่างรุนแรงด้วยเหตุหึงหวง ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 ครั้ง เพื่อนบ้านจึงรีบวิ่งออกมาดู ก็พบทั้งคู่นอนเสียชีวิตดังกล่าวแล้ว

พ.ต.ท.สมบูรณ์ เปิดเผย ว่าทั้ง 2 คนอยู่กินกันมานานร่วม 5 ปี โดยที่ทั้งคู่ผ่านการมีครอบครัว มีลูกติดฝ่ายละ 1 คน ก่อนหน้านี้ น.ส.อุทุมพร เป็นผู้จัดการปั๊มน้ำมัน ปตท.พะโต๊ะ ด้วยความที่ น.ส.อุทุมพรเป็นสาวสวย ทำให้มีหนุ่มๆ มาติดพันมากหน้าหลายตา

ส.อ.กฤษณะจึงให้ น.ส. อุทุมพร ลาออกจากงานที่ปั๊มน้ำมัน มาทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน แล้วพากันมาอาศัยอยู่ในห้องพักดังกล่าว “แต่ก็ยังคงหึงหวงภรรยาอย่างหนัก ถึงขนาดจะออกไปไหนมาไหนลำพังไม่ได้ ต้องคอยไปคุมด้วยเสมอ ขนาดจะไปเยี่ยมแม่หรือญาติพี่น้อง ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านพักมากนัก ก็ต้องติดตามไปด้วยเสมอ ทำให้ทั้งคู่มีเรื่องทะเลาะกันบ่อย กระทั่งวันนี้ทั้งคู่ก็ได้มีปากเสียงกันในเรื่องเดิมๆ สุดท้ายเจ้าตัวชักปืนจ่อยิงภรรยาจนเสียชีวิต แล้วยิงตัวเองตายตาม ทิ้งลูกน้อยอายุ 8 ขวบ และ 12 ปี ให้ต้องเป็นกำพร้า”

สำหรับ ส.อ.กฤษณะ เป็น อส.ที่มีความขยัน ทำหน้าที่ช่วยเหลืองานราชการของอำเภอพะโต๊ะอย่างดี โดยเฉพาะตอนน้ำท่วมที่เพิ่งผ่านไป ได้ทุ่มเทช่วยเหลือชาวบ้านอย่างหนัก จนเป็นที่รักใคร่ของผู้บังคับบัญชาและชาวบ้านมาก

ขณะที่ น.ส.อุทุมพร ก็เป็นที่รักใคร่ของชาวบ้านในตลาดพะโต๊ะ เนื่องจากอัธยาศัยดีเป็นกันเอง และชอบช่วยเหลือคนอยู่ตลอด เวลา ข่าวการตายของทั้งคู่ทำให้ชาวบ้านหลายคนถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความสงสารคนทั้ง 2 คน รวมถึงลูกทั้ง 2 ที่ต้องอยู่โดยขาดพ่อ และแม่

ผู้ใหญ่ทะเลาะใช้อารมณ์ ใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหา แต่สุดท้ายผู้ต้องรับเคราะห์กรรมกลับกลายเป็นเด็กน้อยทุกครั้งไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน