ผ่าแผนตร.ล่าจับลูกทรพีฆ่าพ่อเลี้ยงข่มขืนแม่แท้ๆ จนมุมคาป่า‘ดอยสะเก็ด’
ผ่าแผนตร.ล่าจับลูกทรพีฆ่าพ่อเลี้ยงข่มขืนแม่แท้ๆ : ช่วงวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองเชียงใหม่เปิดปฏิบัติการ ไล่ล่าตัว นายไชยา ต๊ะนา อายุ 31 ปี ชาว ต.แม่โป่ง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ลูกทรพี ที่ ก่อเหตุฆ่าพ่อ ข่มขืนแม่ ทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว
นายไชยา ต๊ะนา
แม้จะก่อเหตุและหลบหนีหายตัวไปตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 61 แต่เมื่อโลกโซเชี่ยลมีการโพสต์แชร์เรื่องราวความหวาดผวาของชาวบ้านในพื้นที่ เนื่องจากเชื่อว่านายไชยา ยังคงหลบซ่อนตัวและวนเวียนอยู่ในพื้นที่ป่าเขาของ อ.ดอยสะเก็ด เรื่องราวประวัติของนายไชยาก็กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง
ภายหลังเป็นข่าวพล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รอง ผบช.ตร.ภาค 5 พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร ผบก.สส.ภ.5 พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ. จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ปกรณ์ ผาทอง ผกก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ นำชุดสืบสวนลงพื้นที่ร่วมกับพ.ต.ท.สถิตชัย นิตยวัน สว.สภ.แม่โป่งพร้อมด้วยฝ่ายปกครองและท้องถิ่น ระดมกดดัน-ไล่ล่า ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่านายไชยาขโมยปืนล่าสัตว์ของชาวบ้านติดตัวไปด้วย จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
ชาวบ้านบ้านตลาดขี้เหล็ก รายหนึ่งบอกว่า เวลานี้ชาวบ้านต่างหวาดผวาอย่างมากที่นายไชยา ยังคงหลบหนีไปได้ พร้อมกับอาวุธปืนล่าสัตว์ที่ขโมยไปจากชาวบ้าน ทำให้ต่างไม่กล้าอยู่บ้านหรือออกไปไหนมาไหนเพียงลำพัง โดยเฉพาะช่วงกลางคืน รวมทั้งไม่กล้าออกไปหาของป่าด้วย เพราะกลัวว่าจะตกเป็นเหยื่อของนายไชยา เนื่องจากชาวบ้านต่างทราบประวัติและพฤติกรรมของนายไชยาเป็นอย่างดี จึงอยากวิงวอนขอให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยเร่งติดตามจับกุมตัวนายไชยาให้ได้โดยเร็วที่สุด
หิ้วปีกออกจากป่า
สําหรับประวัติของนายไชยานั้น เคยต้องโทษคดีฆ่าพ่อเลี้ยงเมื่อครั้งที่อายุ 14 ปี และพ้นโทษออกมาเมื่ออายุ 17 ปี ทั้งนี้เมื่อออกมา ยังคงมีพฤติกรรมเป็นอันธพาล ชอบพกอาวุธมีด ดื่มสุราเมามาย และมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับชาวบ้านอยู่บ่อยครั้ง จนเป็นที่เอือมระอา ทั้งนี้ หลังจากพ้นโทษออกมา นายไชยาอาศัยอยู่บ้านเดียวกับแม่และน้องสาว ซึ่งมักจะก่อเหตุทำร้ายร่างกายทั้งแม่และน้องสาวอยู่เป็นประจำที่ดื่มเหล้ามึนเมา รวมทั้งข่มขืนแม่ที่ปัจจุบันอายุ 66 ปี มาหลายครั้งแล้ว จนกระทั่งล่าสุด วันที่ 11 ธ.ค. 2561 ได้ก่อเหตุข่มขืนแม่อีกครั้ง จนแม่ทนไม่ไหวเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
Advertisement
ค้นหาอยู่หลายวันยังไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่จึงเพิ่มแรงกดดัน ด้วยการตั้งรางวัลนำจับเป็นเงิน 2 หมื่นบาท พร้อมส่งคนตาม ประกบภรรยาของนายไชยาเอาไว้ชนิดไม่ให้คลาดสายตา เนื่องจากเชื่อว่าหากถูกกดดันหนักเจ้าตัวจะต้อง ติดต่อภรรยาเพื่อขอความช่วยเหลืออย่างแน่นอน
แล้วก็จริงตามคาด โดยเมื่อวันที่ 15 ม.ค. อิสรภาพของลูกทรพีก็สิ้นสุดลง ภายหลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ล่าติดตามอยู่หลายวัน ในที่สุดก็สืบจนทราบว่านายไชยาพักอยู่ในกระท่อมกลางป่า อยู่ใกล้กับโรงโม่หินในพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด โดยเมื่อคืนวันที่ 14 ม.ค. นายไชยาติดต่อหาภรรยาว่าไม่มีข้าวกิน หาได้แต่ไข่มดแดงและขอให้เอาอาหารไปส่งให้
หาข้อมูลจากชาวบ้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจที่คอยประกบตัวอยู่จึงทราบข้อมูล จึงวางแผนให้ภรรยาเอากล้วยและเหล้าผสมยานอนหลับไปให้ที่กระท่อมพร้อมเกลี้ยกล่อมให้ยอมมอบตัว โดยเพื่อนหญิงดังกล่าวได้ประสานกับตำรวจไว้แล้ว เมื่อผู้ต้องหาได้กินเหล้า กล้วยก็มีแรง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ปิดล้อมป่าไว้ โดยในเหล้านั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ใส่ยานอนหลับไปด้วย แต่ประกอบกับเป็นเวลากลางคืน เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน จึงต้องรอให้สว่างก่อน
ตำรวจหวังว่านายไชยาจะยอมมอบตัวแต่ผิดคาด เพราะเจ้าตัวกลับหลบหนีเข้าป่าไปอีก จากคำบอกเล่าของภรรยา ทราบเพียงว่านายไชยาแต่งตัวสวมเสื้อลายพรางคล้ายทหาร และสวมกางเกงขายาวสีดำ มีอาวุธปืน และยังตัดผมสั้นด้วย
พล.ต.ต.ชูรัตน์พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายไปทั่วบริเวณป่า พร้อมตั้งจุดสกัดตามถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย ในเขตพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ทั้งหมดหลายจุด พร้อมประสานกำลังเจ้าหน้าที่ทหารรวมกำลังประมาณ 200 นาย ปูพรหมค้นหา จนพบกำลังหลบหนีอยู่ในป่า บ้านตลาดขี้เหล็ก หมู่ 1 ต.แม่โป่ง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ในสภาพอิดโรย จึงบุกเข้าชาร์จตัวสามารถจับกุมได้ โดยเจ้าตัวไม่ทันต่อสู้เจ้าหน้าที่
“อยากจะขอโทษแม่ผมผิดไปแล้ว และหากพ้นโทษออกมาคราวนี้จะกลับตัวเป็นคนดี ไม่กระทำผิดอีก” ลูกทรพีกล่าวภายหลังถูกจับกุม
กฤษณะ เชิญธงไชย
วิชัย ทาเปรียว
เรื่อง/ภาพ
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
