คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ณัฐวุฒิ ทิพย์ประโภชน์

เรื่อง/ภาพ

ช่วงเย็นวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา เกิดคดีสยองขวัญขึ้นในพื้นที่เมือง กรุงเก่า เมื่อมีผู้พบศพเปลือยของหญิงสาวหน้าตาดี ไว้ผมยาวสีทอง ถูกมัดมือทิ้งหมกริมถนน ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา

เพียงไม่นานหลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.อ.ณพล กลัดเข็มเพชร รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อม พ.ต.อ.กิติศักดิ์ เกตุอร่าม ผกก.สภ.เสนา พ.ต.ท.สุกรี ผ่องโอภาส รอง ผกก.สส. ร.ต.อ.อดิศร พันธุมาส รอง สว.(สอบสวน) เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาล เสนา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ ก็รุดไปถึง

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณป่าหญ้าริมถนนติดกับคลองชลประทาน พบศพหญิงสาวโกรกผมสีทอง สภาพเน่าเปื่อยกลิ่นเหม็นคลุ้ง ตามตัวมีหนอนไต่ยั้วเยี้ย

ตามร่างกายมีรอยถูกตัวเงินตัวทองกัดแทะ โดยกางเกงวอร์มขายาวสีดำถูกรูดออกติดอยู่ข้อเท้าข้างเดียว กางเกงในถูกรูดมากองอยู่ที่หัวเข่า เสื้อในถูกถอดออก ที่ข้อมือถูกมัดติดกันด้วยสกอตเทปใส

ใกล้กับจุดที่พบศพ พบกองน้ำเหลือง สันนิษฐานว่าถูกตัวเงินตัวทองลากมาจากจุดดังกล่าว จึงนำศพส่งชันสูตรที่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรูปพรรณของผู้ตาย พบว่าใกล้เคียงกับ นางเอ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี ชาว อ.บางปะหัน ที่ญาติแจ้งความคนหายที่ สภ.บางปะหัน ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา จึงประสานให้สามีของนางเอมาดูศพ ซึ่งก็ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน

สามีผู้ตายให้ข้อมูลว่า นางเอ ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปเมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 ม.ค. บอกว่าออกมาทำงาน มีทรัพย์สินติดตัวไปเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท เลสข้อมือทองคำหนัก 1 บาท เเหวนทองคำหนัก 2 สลึง 2 วง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

กระทั่งเวลาเลิกงานไม่เห็นภรรยากลับบ้านจึงไปสอบถามเพื่อนที่โรงงานจนทราบว่าไม่ได้มาทำงาน

นอกจากนี้ยังพบว่าภรรยานำ บัตรเอทีเอ็มของตนกดเงินสดไป 4,500 บาทด้วย

หลังจากหายตัวไปได้ออกตามหาตามบ้านเพื่อนและญาติแต่ไม่มีใคร รู้เลย จนกระทั่งมาพบว่ากลายเป็นศพ

โดยก่อนหน้านี้ทั้งคู่มีปากเสียงกัน เรื่องที่สงสัยว่าผู้ตายกำลังปันใจให้ชายอื่น

จากคำให้การทั้งหมดตำรวจไม่พบพิรุธอะไร จึงพุ่งเป้าไปยังข้อมูลเรื่องที่สามีสงสัยว่าผู้ตายจะปันใจให้ชายอื่น จึงเริ่มแกะรอยจากบรรดาโปรแกรมและแอพพลิเคชั่นซึ่ง ผู้ตายใช้ท่องโลกโซเชี่ยล

กระทั่งพบว่า ผู้ตายมีการแช็ตพูดคุยกับชายคนหนึ่งผ่าน ‘เฟซบุ๊ก’ และ ‘บีทอล์ก’ เจ้าหน้าที่จึงขุดคุ้ยล้วงลึกลงไปจนทราบว่าชายคนดังกล่าวคือ นายปัญญา หรือ เบียร์ จันทร์เปรม อายุ 25 ปี รปภ.ร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่ง ริมถนนโรจนะ อ.พระนคร ศรีอยุธยา จึงนำกำลังไปเชิญตัวมาสอบปากคำ

ทันทีที่เห็นตำรวจจำนวนมากบุกไปหาถึงที่ทำงานในช่วงเย็นวันที่ 28 ม.ค. นายปัญญาก็ถึงกับเข่าอ่อนยอมรับผิด ในทันใด

นายปัญญาสารภาพว่า รู้จักกับผู้ตายผ่านเฟซบุ๊ก และพูดคุยกันผ่านโปรแกรมแช็ตบีทอล์ก โดยนำรูปของชายหนุ่มที่หน้าตาดีมาเป็นรูปโปรไฟล์

เมื่อพูดคุยกันมาได้ระยะหนึ่งจนมีความสนิทสนมกันแล้ว ก็นัดแนะพบกันในปั๊มน้ำมันในพื้นที่ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ในวันที่ 21 ม.ค. แล้วพามาร่วมหลับนอนที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง

นายปัญญาอ้างว่า หลังมีอะไรกันเสร็จก็ขอกลับบ้าน เพื่อจะไปช่วยงานบวช แต่ผู้ตายไม่ยอมทำให้เกิดมีปากเสียงกัน จึงใช้หมอนและเชือกรัดปลอกหมอนรัดที่คอจนผู้ตายแน่นิ่งไป จากนั้นก็ออกไปช่วยงานบวช

เมื่อย้อนกลับไปที่รีสอร์ตเดิมอีกครั้ง พบว่านางเอเสียชีวิตไปแล้ว จึงปลดทรัพย์สินทั้งหมดของผู้ตายแล้วนำศพใส่ท้ายรถเก๋งนำไปทิ้งตรงจุดที่พบศพ แล้วขับรถกลับบ้านพัก

ช่วงเช้าวันถัดมาก็นำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปแยกชิ้นส่วนขาย จากนั้นไปทำงานตามปกติจนกระทั่งถูกตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด

พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง รอง ผบช.ภ.1 เผยว่า นายปัญญามีประวัติเคยต้องโทษในคดีลักรถจักรยานยนต์และคดียาเสพติดมาก่อน และยังก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อย่างต่อเนื่องมาตลอด

จึงฝากเตือนถึงผู้หญิงในการพูดคุยและการนัดพบกับคนแปลกหน้าที่รู้จักกันทางโปรแกรมแช็ตคุยต่างๆ ต้องใช้ความระมัดระวังอันตรายของอาชญากรที่แฝงตัวมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน