ย้อนคดีสยองสันกำแพง – เฒ่าวัย72ฆ่ากิ๊กสาววัย26 – ไม้ทุบหัวก่อนผูกคอตาม
สดจากสนามข่าว
ย้อนคดีสยองสันกำแพง – เฒ่าวัย72ฆ่ากิ๊กสาววัย26 – ไม้ทุบหัวก่อนผูกคอตาม – แม้นจะผ่านร้อนผ่านหนาวมาถึง 72 ปี แต่ความแก่ชราหาเป็นอุปสรรคต่อความรักของ นายสมพงษ์ ชื่นใจ ที่มีต่อนางศศิธร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สาวรุ่นหลานไม่ เฒ่าหัวใจหนุ่มดูแลปรนเปรอให้หญิงสาวทั้งร่างกายและเงินทอง ทั้งที่รู้ดี แก่ใจว่าเป็นได้เพียงแค่กิ๊ก ด้วยหญิงสาวนั้นมีสามีและลูกถึง 3 คนแล้ว แต่ก็ยังหวังว่าจะสามารถยื้อใจหญิงสาวไว้ได้
แต่เมื่อรู้สึกว่าความทุ่มเทของตนเองนั้นมันช่างสูญเปล่า ด้วยเข้าใจว่าอีกฝ่ายเพียงต้องการเงินทองของตนเท่านั้น จึงกลายเป็นที่มาของคดีสยอง!
บ้านที่เกิดเหตุ
เรื่องราวสยองถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 22 ม.ค. ร.ต.อ. ทินกร โชติชัยพิกุล รองสว.สอบสวน สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ภายในบ้านเลขที่ 147/48 ม.8 บ้านสันป่าค่า ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว ผกก.สภ.สันกำแพง และแพทย์จากโรงพยาบาลสันกำแพง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านลักษณะทาวน์เฮาส์ ชั้นเดียว บริเวณทางเดินหน้าห้องน้ำใกล้ประตูหลังบ้าน พบศพนางศศิธร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ สภาพศพนอนตะแคง ที่ศีรษะพบรอยถูกตีด้วยของแข็ง จนกะโหลกยุบ รวมทั้งเป็นแผลฉกรรจ์หลายแผล นอกจากนี้ ยังพบไม้หน้าสาม ขนาดยาวประมาณ 1 ฟุตครึ่ง 1 ท่อน มีคราบเลือดติดอยู่ ตกอยู่ใกล้ ศพนางศศิธร
ขณะที่เมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในห้องนอนพบศพ นายสมพงษ์ ชื่นใจ อายุ 72 ปี ผูกคอเสียชีวิต โดยพบขวดเบียร์มีกลิ่นยาฆ่าหญ้า ฆ่าแมลงตั้งอยู่ใกล้ๆ ศพ เจ้าหน้าที่ จึงทำการชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เสียชีวิตมาไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง ก่อนนำศพส่งไปตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริง ที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
สภาพศพกิ๊กสาว
จากการสอบสวน นายพรชัย วงศ์ซาว ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีนายสามารถ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี สามีของ นางศศิธรมาตาม ให้ช่วยมาตรวจ สอบบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านของนายสมพงษ์ เนื่องจากสงสัยว่าภรรยาที่หายตัวไป จะแอบมาหานายสมพงษ์ที่บ้าน
สามีของนางศศิธรให้ข้อมูลว่า ภรรยาหายออกจากบ้านมาตั้งแต่เวลา 13.00 น.ของวันเดียวกัน และมาพบรถจักรยานยนต์ของนางศศิธรจอดอยู่หน้าบ้านที่เกิดเหตุ แต่พบความผิดปกติ ด้วยด้านในบ้านปิดไฟมืด ประตูบ้านถูกปิดล็อกจากข้างใน แม้นจะพยายามเรียกอยู่นานเท่าใดก็ไม่มีเสียงตอบออกมาจากด้านในบ้าน
ทั้งสองคนช่วยงัดหน้าต่างไม้ของตัวบ้านออก จึงพบผู้ตายทั้งสองเสียชีวิตดังกล่าว
ตํารวจสอบสวนเพื่อนบ้านให้ข้อมูลว่าเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ยินเสียงผู้ตายทั้งสองทะเลาะกันภายในบ้านก่อนจะเงียบเสียงไป จนทางฝ่ายสามีของนางศศิธรมาตามหา และพาผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านให้มาช่วยตรวจสอบ จนพบว่าทั้งคู่เป็นศพอยู่ในบ้านแล้ว
ดื่มกินกันก่อนลงมือ
จากการสอบสวนในเชิงลึกเจ้าหน้าที่พบข้อมูลว่า นางศศิธรซึ่งมีสามีคือนายสามารถและมีลูกด้วยกัน 3 คน ได้ลักลอบคบหาและมีความสัมพันธ์กับนายสมพงษ์ ซึ่งหย่าร้างกับภรรยามานานแล้ว และอยู่อาศัยเพียงลำพังในบ้านที่เกิดเหตุ
โดยระหว่างคบหากัน นางศศิธรได้ขอเงินจากนายสมพงษ์ใช้เป็นประจำ จนนายสมพงษ์ต้องไปหาเงินโดยการ กู้ยืมเงินตามละแวกใกล้เคียงอยู่บ่อยครั้ง โดยจะแอบมาพบกันยังบ้านที่เกิดเหตุเป็นประจำ
ผู้ตายทั้งสองได้แอบคบหากันฉันชู้สาวมานาน และ จะนัดมาพบกันที่บ้านที่เกิดเหตุเป็นประจำ อีกทั้งชาวบ้านได้ให้ข้อมูลว่า นายสมพงษ์ได้หาเงินโดยไปหยิบยืมจากชาวบ้านในละแวกดังกล่าวไปดูแลนางศศิธรมาโดยตลอด จึงสันนิษฐานว่านายสมพงษ์เกิดความหึงหวงกัน ด้วยเกรงว่านางศศิธรที่มีสามีและมีลูกด้วยกันถึง 3 คน จะกลับไปมีใจให้กับสามีและหลอกเอาเงินเพียงเท่านั้น จนมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง
คาดว่านายสมพงษ์ใช้ไม้หน้าสามกระหน่ำตีศีรษะ ของนางศศิธรหลายครั้งอย่างแรง จนนางศศิธรเสียชีวิต ในจุดเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุนายสมพงษ์อาจกลัวความผิด หรือเสียใจในการกระทำที่เกิดขึ้น จึงนำยาฆ่าแมลงมา ผสมกับเบียร์แล้วดื่ม พร้อมกับใช้เชือกผูกคอตายในบ้านที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นได้ติดตามญาติของผู้ตายทั้งสองฝ่ายมาดูศพและที่เกิดเหตุ ซึ่งทั้งสองฝ่ายไม่ติดใจว่าจะเป็นเหตุอื่นหรือมีบุคคลอื่น เข้าไปกระทำแต่อย่างใด
โดย กฤษณะ เชิญธงไชย
เรื่อง/ภาพ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
