ปิดคดี!ผัวเก่าดักฉุดสาว

ตร.ล่าจนมุมเมืองกาญจน์

อ้างแค่มาตามไปเลี้ยงลูก : สดจากสนามข่าว

ปิดคดี!ผัวเก่าดักฉุดสาว – แม้นจะเลิกรากันมาเป็นปีแล้ว แต่ นาย ปิยพงษ์ อุสาสาน หรือ ต้น อายุ 35 ปี ชาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ยังไม่อาจตัดใจจาก น.ส.จิญาดา เว้นบาป อายุ 26 ปี ชาว อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ด้วยความผูกพันที่อยู่ด้วยกันมานานร่วม 10 ปี จนมีลูกด้วยกัน 2 คน อายุ 5 ขวบ และ 7 ขวบ เจ้าตัวพยายามตามง้ออดีตภรรยาให้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันเป็นครอบครัวอีก ครั้ง

น.ส.จิญาดา เว้นบาป

เรื่องราวของหนุ่มท่าม่วงรายนี้ถูกเปิดเผย ขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.พ. พ.ต.อ.กิตติพงษ์ สุขวัฒนพันธ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงราย สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย ออกติดตามตัว 3 คนร้ายที่ก่อเหตุฉุด น.ส.จิญาดา เว้นบาป หรือ มิ้น อายุ 26 ปี ชาว อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่ที่ด้านหลังห้างสรรพสินค้า อภิสแควร์ ถ.อุตรกิจ เขตเทศบาลนครเชียงราย ซึ่งเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.30 น. ของวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ น.ส.จิญาดากำลังเดินอยู่บริเวณที่จอดรถด้านหน้าอพาร์ตเมนต์ จู่ๆ ก็มีชายขับรถเก๋งสีขาวเข้ามาจอด แล้วมีคนร้ายลงมาจากรถก่อนจะฉุดตัว น.ส.จิญาดาขึ้นรถไปต่อหน้าผู้พักอาศัยหลายคน แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือ เนื่องจากชายในกลุ่มดังกล่าวมีอาวุธ หลังจากนั้นได้พาขึ้นรถเก๋งคันดังกล่าวออกไป

จากการตรวจสอบพบว่า 1 ในชายที่ก่อเหตุคือ นายปิยพงษ์ อุสาสาน อายุ 35 ปี ชาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นอดีตสามีของ น.ส.จิญาดา ที่เลิกรากันไปนานกว่า 1 ปีแล้ว

ภาพวงจรปิด

แม้นจะเป็นเรื่องผัวเมีย แต่พฤติกรรมที่อุกอาจไม่เกรงสายตาคนอื่นเช่นนี้เป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับ พ.ต.อ.กิตติพงษ์จึงสั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวมาสอบสวน พร้อมขอความร่วมมือกับ สภ.พื้นที่ข้างเคียงให้ช่วยติดตามจับตัวมาสอบสวนถึงสาเหตุดังกล่าว

ตํารวจสอบปากคำญาติของ น.ส.จิญาดา ทราบว่านายปิยพงษ์ก่อเหตุลักษณะเช่นนี้มาแล้ว 2 ครั้ง โดยต้องการให้กลับไปเลี้ยงลูก โดยนายปิยพงษ์สืบจนทราบว่า น.ส.จิญาดา มาเรียนหลักสูตรบริบาล จึงได้ติดตามมา และก่อเหตุดังกล่าว

ภายหลังเป็นข่าว พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. มอบหมายให้ พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. พ.ต.อ.จิระเดช พระสว่าง รอง ผบก.ปคม.นำตำรวจ กก.4 ปคม.ร่วมกับตำรวจท้องที่ สภ.เมืองเชียงราย เข้าคลี่คลายคดี

พ่อ-ลูกโผกอด

เจ้าหน้าที่พุ่งเป้าไปที่บ้านของนายปิยพงษ์ ที่ อ.ท่าม่วง แต่ไม่พบตัว จึงใช้วิธีกดดันผ่านทางญาติๆ เพื่อให้ปล่อยตัวอดีตภรรยากลับมา

กระทั่งเวลา 21.00 น. คืนวันที่ 2 ก.พ. จนท.กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ กองบัญชาการสอบสวนกลาง ได้รับตัว น.ส.จิญาดา จากที่บริเวณ บขส.ลำปาง ก่อนนำตัวมาส่งที่ห้องปฏิบัติการพม. ตั้งในอาคารศาลากลาง จ.เชียงราย ภายหลังหลบหนีออกมาได้ ท่ามกลางความดีใจของครอบครัว โดยเฉพาะนายสวัสดิ์ผู้เป็นพ่อได้โผเข้ากอดลูกสาวด้วยความดีใจ ก่อนที่ จนท.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะรับตัวไปดูแลและซักถามข้อมูล ขณะที่นายปิยพงษ์และพวกเจ้าหน้าที่ยังไม่พบตัว

นายปิยพงษ์ อุสาสาน จนมุม

นายสวัสดิ์กล่าวว่า ตนดีใจมากๆ ที่น้องมิ้นหนีออกมาได้ ที่ผ่านมาตนนอนไม่หลับกังวลว่าลูกสาวจะถูกทำร้าย หรือโชคร้ายอาจถูกฆ่าไปพร้อมกับ ผู้ต้องหาและหลานอีก 2 คน โดยระหว่างถูกจับไปนั้น นายปิยพงษ์ได้พาลูกสาวไปอยู่ที่ จ.กาญจนบุรี

นายปิยพงษ์บอกว่า มีเจตนาพาน้องมิ้นมากินข้าวกับลูกและอยู่กับลูกๆ สัก 2 วัน โดยจะนำตัวขึ้นไปบนเขา แต่เมื่อเหตุการณ์เกินเลยถึงขั้นเป็นคดีความและออกสื่ออย่างแพร่หลายก็ รู้สึกกังวลใจ

“น้องมิ้นบอกกับพ่อว่า หลังจากน้องมิ้นหลุดออกมาได้ นายต้นไลน์หาและข่มขู่ว่าหากทางครอบครัวเอาเรื่องเป็นคดีความ จะฆ่าทีละคนจนหมดครอบครัว เขาเป็นคนโมโหร้าย ทราบว่าตอนอยู่กินกันในอดีตก็เคยมีเรื่องตบตีกันเป็นประจำ จนลูกสาวทนไม่ไหว พยายามตีตัวออกห่าง ยืนยันจะเอาผิดกับนายปิยพงษ์จนถึงที่สุด” นายสวัสดิ์กล่าว

สุดท้ายก็ไม่รอด ค่ำวันที่ 6 ก.พ. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท. สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบก.ป. พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.ประเสริฐ หวังบุญสร้าง พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง สว.กก.4 บก.ป.

นำตัวนายปิยพงษ์มาสอบสวนภายหลังติดตาม จับกุมตัวได้ พร้อมลุงลือ (นามสมมติ) และป้าผึ้ง (นามสมมติ) ที่ร่วม ก่อเหตุด้วยกัน หลังสามารถจับกุมตัวได้ที่ ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

นายปิยพงษ์ยังให้การภาคเสธว่า โดยในวันที่เกิดเหตุเป็นคนขับรถคันก่อเหตุจริง โดยชักชวนลุงลือ และป้าผึ้ง นั่งรถมาด้วยกัน เพื่อช่วยเกลี้ยกล่อม น.ส.จิญาดา อดีตภรรยา อ้างว่าเพียงแค่ต้องการให้กลับมาช่วยเลี้ยงลูก อีกทั้งยังให้การว่าไม่เคยมีการขู่ฆ่ายกครัวอดีตภรรยาตามที่เป็นข่าวแต่ อย่างใด

หลังสอบสวน ทั้งสามคนถูกควบคุมตัวส่งไปดำเนินคดีที่ สภ.เมืองเชียงราย ต่อไป

เหตุผลอาจจะพอฟังได้ แต่เจ้าตัวกลับเลือกใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้อง นอกจากจะง้อเมียไม่สำเร็จแล้ว ตัวเองยังถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหา “กักขังหน่วงเหนี่ยว” ต้องระเห็จไปนอนในคุกอีกด้วย

ชายชาญ ไชยมั่น