คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

พีระพล จันฝาก, เมธี เมืองแก้ว, กฤษณะ เชิญธงไชย ,พิรยุทธ นิ่มนนท์

เรื่อง/ภาพ

หลังตำรวจทลายเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ทั้ง “เล่าต๋า” และ “ไซซะนะ” เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมยาเสพติดจำนวนมากได้อย่างต่อเนื่อง ไม่รู้ว่าตร.ถือฤกษ์งานยามดีอะไร หรือเปล่า เฉพาะวันที่ 9 ก.พ. วันเดียวสามารถจับกุมยาเสพติดได้หลายราย รวมยาบ้าที่ยึดได้หลายล้านเม็ด

รายแรก พล.ต.ต.สมพงษ์ ทองใบ ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.อ.ธวัชชัย รักอาชีพ รอง ผอ.กอ.รมน.ตรัง พ.ท.ณัฐวัฒน์ นุ่นชูผล หน.ชรต.ปขร.สขว.กอ.รมน. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ขกท.ศปก.ทภ.4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัษฎา จ.ตรัง นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 18 ม.2 ต.ควนเมา อ.รัษฎา จ.ตรัง จับกุม นายวุตติภัทร ทองอ่อน อายุ 27 ปี พร้อมยาบ้า จำนวน 1 ล้าน 2 แสนเม็ด ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในตู้เย็นขนาดใหญ่ ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ จำนวน 2 ตู้

นายวุตติภัทรให้การปฏิเสธว่ายาบ้าดังกล่าวไม่ได้เป็นของตนเอง แต่เป็นของเพื่อน 2 คนที่นำมาฝากไว้เท่านั้น แต่จากการสอบสวนพบว่า บ้านหลัง ดังกล่าวถูกใช้เป็นแหล่งพักยาบ้ามานานแล้ว ก่อนที่จะมีการลำเลียงออกไปขาย โดยล็อตล่าสุดมีการส่งมาเก็บไว้เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา จำนวน 230 มัด หรือประมาณ 4 ล้าน 6 แสนเม็ด แต่ถูกนำออกไปขายแล้วบางส่วน จนเหลือยาบ้าเฉพาะจำนวนที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมได้

ตกค่ำวันเดียวกัน “บิ๊กเป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรารอง ผบช.น. ร่วมกันแถลงจับกุม นายอานนท์ หรือ ต่อ ลาวเกษม อายุ 24 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 2,671,400 เม็ด ยาไอซ์ 7 กิโลกรัม ยาเค 5 กิโลกรัม และยาอี 34,000 เม็ด โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 61/579 หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอย สุวินทวงศ์ แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กทม.

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ออกสืบสวนติดตามมากว่า 2 เดือน จนเริ่มแน่ชัดจึงนำกำลังเข้าจับกุม นายอานนท์สารภาพว่ามีคนชื่อเสี่ย ซึ่งรู้จักกับเพื่อน ให้หาสถานที่เก็บของ จึงมาเช่าบ้านหลังดังกล่าวในราคา 19,000 บาทต่อเดือน จากนั้นให้ไปรับยาเสพติดล็อตแรกที่ อ.เสนานิคม จ.พระนครศรีอยุธยา จึงขับรถกระบะ อีซูซุ ดีแมคซ์ ทะเบียน ผฉ 3922 อุดรธานี ไปรอรับยา โดยจะมีคนโทร.มาถามทะเบียนรถ หลังจากนั้นก็มีรถหกล้อขับมาเทียบข้างรถแล้วช่วยกันขนยาบ้าใส่กระสอบป่านโยนลงมา ให้นำขึ้นรถกระบะกลับมาพักที่บ้านหลังดังกล่าว

หลังจากนั้นจะมีคนส่งไลน์เข้ามาสั่งยาว่าต้องการแบบไหน ก็จะจัดยาไปส่งตามที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ โดยนำไปโยนทิ้งไว้กลางทาง ส่วนเรื่องเงินค่ายามีคนจัดการอีกครั้ง เมื่อส่งยาบ้าหมดเสี่ยได้โอนเงินให้เป็นค่าจ้างล็อตแรกจำนวน 7 แสนบาท และล่าสุดเสี่ยก็โทร.มาให้ตนไปรับยาเสพติดล็อตที่ 2 ที่อ.เสนานิคม จ.พระนครศรีอยุธยา โดยยาเสพติดล็อตที่ 2 พอเอายามาเก็บยังไม่ได้ขายก็ถูกตร.จับกุมเสียก่อน ซึ่งจะสอบสวนขยายผลว่าเกี่ยวข้องกับแก๊งไซซะนะหรือไม่

รายสุดท้ายก่อนหมดวัน เป็นผลงานของ ชุดสืบสวนภูธรภาค 5 ชุดสืบสวน ภ.จว.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร และฝ่ายปกครอง ที่วางแผนรับจ้างขนยาเสพติดจากขบวนการค้ายา จนสามารถยึดยาเสพติดได้จำนวน 2,000,000 เม็ด และไอซ์อีกราว 150 กิโลกรัม พร้อมขยายผลจับกุม นายพิสิษฐ์ เชาวนางกูร ผู้ต้องหาที่จ้างขนยาเสพติดได้ในวันถัดมา

“บิ๊กอวบ”พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. เผยเบื้อง หลังการจับกุมขณะร่วมกับ พล.ต.ท. พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ท.ธนา จารุวัฒน์ แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะ ผบ.ศป.ปส.ชน. และ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แถลงผลจับกุมเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ว่า คดีนี้ขยายผลมาจากการจับกุมยาบ้า 794,000 เม็ด ไอซ์ 10 กิโลกรัมเมื่อ 4 ธ.ค. 2559 ที่ด่านตรวจแม่ต๋ำ สภ.แม่กา จ.พะเยา

ตร.ขยายผลทราบว่า นายพิสิษฐ์ เชาวนางกูร มีส่วนร่วมในการลำเลียง ยาเสพติดในคดีดังกล่าว จึงสืบสวนติดตามพฤติการณ์ นายพิสิษฐ์มาโดยตลอด กระทั่งสามารถส่งสายลับเข้าไปติดต่อตามแผนจนสามารถจับกุมตัวได้ ในบ้านเช่าแห่งหนึ่ง ในเขตพื้นที่สันทราย จังหวัดเชียงใหม่ จากการตรวจค้น ในบริเวณบ้าน มีการขุดพบกระสอบหลายใบที่เป็นลักษณะเดียวกันกับที่ใช้บรรจุยาเสพติดในรถกระบะที่ตรวจยึด ไว้ได้

เจ้าตัวสารภาพว่า ร่วมกับเพื่อนอีกคนเป็นตัวกลางใน การประสานว่าจ้างคนไปขับรถขนยาเสพติด โดยหากส่งไปถึงกรุงเทพฯ จะได้ค่าจ้าง 3,000,000 บาท แต่มาถูก เจ้าหน้าที่วางแผนจับกุมได้เสียก่อน และจากข้อมูลของทาง ป.ป.ส. และบช.ปส.ขณะนี้พบว่าภาคเหนือยังมีเครือข่ายลักลอบขนยาเสพติดอีกกว่า 60 เครือข่าย

ด้าน พล.ท.ธนากล่าวว่า แม้จะถูกจับแล้วแต่นายเล่าต๋า แสนลี่ นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ยังมีเครือข่ายอิทธิพลอยู่ในเขตพื้นที่อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ซึ่งในทางการข่าวการรับส่งยาครั้งนี้ อาจเป็นการทำงานร่วมกันของเครือข่ายของ พ.อ.จะลอโบ่ ซึ่งจ้างกลุ่มว้ากับกลุ่มของนายเล่าต๋า เพราะเป็นเขตอิทธิพลของ 2 กลุ่มดังกล่าว

จับยาบ้าเกือบ 5 ล้านเม็ด ยาไอซ์อีกกว่า 150 กิโลกรัม รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาทในวันเดียว ยังไม่นับ รายย่อยๆ ที่จับกันอยู่เป็นประจำ แสดงให้เห็นว่านโยบาย ตัดเส้นทางการเงิน ตามยึดทรัพย์นั้นใช้ได้ผล เพราะแม้น กลุ่มขบวนการเครือข่ายค้ายาเสพติดจะมีตัวตายตัวแทนอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อเงินขาดมือจึงต้องเร่งระบายของออกมาคราวละมากๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน