ผ่าคดีรัวฆ่าว่าที่เจ้าบ่าว ที่แท้มือปืน-คนกันเอง พยานได้ยินร้องขอชีวิต
คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ผ่าคดีรัวฆ่าว่าที่เจ้าบ่าว – มีความเชื่อแต่โบราณว่า คนเราเวลาจะบวชหรือแต่งงาน ให้ระมัดระวังตัวให้มาก เพราะอาจเกิดเหตุร้ายได้ทำให้ไม่ได้บวช ไม่ได้แต่งงาน หรือที่ร้ายแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิต ผู้หลักผู้ใหญ่บางคนถึงกับห้ามลูกหลานออกจากบ้านกันเลยทีเดียว
เช่นเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับว่าที่เจ้าบ่าว รายหนึ่งใน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ที่มีกำหนดจัดงานมงคลสมรสในวันที่ 18 ม.ค. 2562 หากเจ้าตัวไม่เสียชีวิตลงเสียก่อน
นายธนวัฒน์ เผียงสูงเนิน
ย้อนไปเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2561 ร.ต.อ.มติชน วงษ์เบ้ากุล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตภายในหมู่บ้านแก่นท้าว หมู่ 14 ต.เสมา อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.สูงเนิน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างแสงธรรมสูงเนิน
จนท.พยายามยื้อชีวิต
ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนในหมู่บ้าน พบศพ นายธนวัฒน์ เผียงสูงเนิน อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ 14 ต.สูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่ราวนมขวา 1 นัด เสียชีวิตคาที่ ห่างออกไปเล็กน้อยพบรถจยย.ฮอนด้า เทน่า สีแดงขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนล้มคว่ำอยู่
รถจยย.ผู้ตาย
จากการสอบสวนทราบว่า นายธนวัฒน์ ขี่รถจยย.ออกจากงานวัดภายในหมู่บ้านเพื่อเดินทางกลับที่พัก ในขณะขี่ผ่านบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งพยานระบุได้ยินเสียงคนตะโกนว่า “อย่า อย่า” 2 ครั้ง ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด จากนั้นได้ยินเสียงรถจยย.ประมาณ 2 คัน เร่งเครื่องหลบหนีไป เมื่อหันไปมองอีกครั้งก็พบร่างผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือด
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งประเด็นการสังหารไว้ว่า อาจเกิดจากเหตุทะเลาะวิวาทกันมาก่อนหรือปัญหาชู้สาว เนื่องจากผู้เสียชีวิตมีโครงการจะแต่งงานในวันที่ 18 ม.ค.ปีหน้านี้ อย่างไรก็ตามชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาข้อมูล โดยเฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวคนที่รู้จักกับผู้เสียชีวิต ที่มีการพูดคุยก่อนลงมือประกอบเหตุ ซึ่งจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
หลังผ่านมาเดือนเศษตำรวจก็ปิดคดีลงได้ โดยเมื่อวันที่ 11 ก.พ. พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พร้อม พ.ต.อ.ราเชน ไผ่เกาะ ผกก.สภ.สูงเนิน ร่วมแถลงผลการจับกุม นายอุไร คอยสูงเนิน อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 บ้านแก่นท้าว หมู่ 2 ต.เสมา อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ผู้ก่อเหตุ
พล.ต.ต.วัชรินทร์เปิดเผยว่า จากการสอบทราบพยานที่เกี่ยวข้อง ระบุพบเห็นนายธนวัฒน์ ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากไปเที่ยวงานวัดเหมือดแอ่ มุ่งหน้าไปบ้านพัก ในขณะรถกำลังแล่นใกล้ถึงที่หมาย พยานแวดล้อมได้ยินเสียงคนตะโกนว่า “อย่า อย่า” 2 ครั้ง ติดตามด้วยเสียงปืนดัง 3 นัด
จากนั้นมีชายรูปพรรณสัณฐานคล้ายนายอุไร ขับรถจักรยานยนต์เร่งความเร็วหลบหนี ส่วนนายธนวัฒน์ มีบาดผลถูกยิงเข้าราวนมขวาเป็นเหตุให้เสียชีวิต ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ตรวจสถานที่เกิดเหตุพร้อมแกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิด รวมทั้งนำเสื้อผ้าของนายอุไร ผู้ต้องสงสัยส่งไปตรวจสอบหาเขม่าดินปืน
เสียชีวิตหลังส่งร.พ.
ผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์พบเขม่าดินปืน จากเสื้อของนายอุไร ประกอบกับคำให้การของพยานได้ยืนยันสอดคล้องกัน โดยเฉพาะประเด็นนายธนวัฒน์ ผู้เสียชีวิตเดินทางกลับจากทำงานต่างประเทศ เพื่อเตรียมจัดงานมงคลสมรสในวันที่ 18 มกราคม 2562
นายอุไรผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าหนี้ ทราบข่าวจึงไปทวงเงินนายธนวัฒน์ ที่ติดค้างก่อนไปทำงานต่างประทศ จนมีปากเสียงและทะเลาะถึงขั้นชกต่อยกันมาแล้ว แต่ผู้เป็นพ่อของผู้เสียชีวิตยินยอมชดใช้ให้บางส่วน วันเกิดเหตุผู้ตายและนายอุไร ได้ไปเที่ยวงานประจำปีฉลองหลวงพ่อโสธรนครเสมา ที่วัดบ้านเหมือดแอ ต.เสมา
ทั้งคู่น่าจะดื่มสุราและเกิดเขม่นกันในงานดังกล่าว หลังกลับจากวัดผู้ตายได้บอกกับเพื่อนว่าจะเข้าไปเอาเงินที่บ้านและหายเงียบ ไปนาน ในขณะเดียวกันก็มีคนเห็นนายอุไรขี่รถจยย.หลบหนีออกจากบ้าน ผู้ตาย จนมีคนมาพบศพดังกล่าว
สอบปากคำนายอุไร คอยสูงเนิน
จึงรวบรวมพยานหลักฐานเสนอต่อศาลจังหวัด สีคิ้วออกหมายจับนายอุไร ก่อนตามจับกุมได้ที่สวนผักหวาน ท้ายหมู่บ้านดอนมะนาว หมู่ 7 ต.กุดน้อย อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา แต่นายอุไรยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ตำรวจแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนาย ทะเบียนและพกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนโดยใช่เหตุในหมู่บ้านหรือชุมชน” ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมาย
“ถือเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ที่จะปฏิเสธในกระบวนการของกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการตามพยานหลักฐานตามที่ปรากฏ เพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย” พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวยืนยัน
ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ
เกษม ชนาธินาถ
เรื่อง/ภาพ
