คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

นุชจรี แรกรุ่น / สุรเชษฐ์ แรกรุ่น

เรื่อง/ภาพ

“ยามแรกรัก น้ำต้มผัก ยังว่าหวาน พอเริ่มนาน น้ำตาลทราย ยังว่าขม” กลอนสุภาษิต ที่เป็นความจริงแท้ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ความรักนั้นจืดจางหมดไปได้ หมดรักกันแล้ว ก็ควรแยกกันไป

แต่ในสังคมไทยที่ยึดถือหน้าตาในสังคมเป็นเรื่องใหญ่ หลายคนทนไม่ได้ที่ถูกมองว่าไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องครอบครัว โดยเฉพาะฝ่ายหญิงมักถูกสั่งสอนมาให้อดทน จนตกเป็นเบี้ยล่าง ทนถูกทำร้ายทั้งจิตใจและร่างกาย จนไม่ต่างกับระเบิดเวลาที่รอวันระเบิดทำลายทุกอย่าง

เช่นเหตุการณ์เมื่อเช้าวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สุริยา คงอินทร์ รองสว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่ถนนเอเชีย 41 สายทุ่งสง-หาดใหญ่ เขตเทศบาลเมืองทุ่งสง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.วันชัย เอกพรภิชย์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.คมสัน พฤกษวานิช ผกก.สภ.ทุ่งสง พ.ต.ท.สมศักดิ์ แก้วแสน รองผกก.สส. ชุดสืบสวน แพทย์ร.พ.ทุ่งสง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่กลางถนนห่างจากปั๊มน้ำมัน ปตท. ประมาณ 300 เมตร พบผู้เสียชีวิตชื่อ ร.ต.ท.วิชัย สีดารอด อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/16 หมู่บ้านทวีวัลย์ ถนนท่าแพใต้ เขตเทศบาลเมืองทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นอนคว่ำหน้าคร่อมรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ดรีม สีขาวแดง ทะเบียน คทฉ 701 นครศรีธรรมราชในสภาพเลือด ท่วมตัว นุ่งกางเกงขาสั้นลายพรางทหาร สวมเสื้อยืดคอปกแขนสั้นสีเทา

มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .357 เข้ากลางแผ่นหลัง 3 นัด ทะลุหน้าอก 1 นัด กระสุนฝังใน 2 นัด และแขนขวา 1 นัด ในที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนขนาด .357 ตกอยู่ 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนทรัพย์สินมีค่าของผู้ตายยังอยู่ครบ แต่อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม. ที่ผู้ตายพกติดตัวหายไป คาดว่าถูกคนร้ายเอาไปด้วย

สอบสวนทราบว่า ร.ต.ท.วิชัย ผู้ตาย เป็นอดีตตำรวจ สังกัดตชด.ที่ 42 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง เพิ่งเกษียณราชการเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา มีนิสัยพูดจาโผงผางตรงไปตรงมา มีภรรยาชื่อ นางเรวดี สีดารอด อายุ 55 ปี เป็นครูสอนที่โรงเรียนเทศบาลวัดชัยชุมพล ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขี่รถคันดังกล่าวไปส่งภรรยาที่โรงเรียน จากนั้นขี่รถกลับบ้าน

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้าย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ ทะเบียน เป็นพาหนะขับตามหลังมา เมื่อได้จังหวะคนร้ายที่นั่งซ้อนท้าย ชักอาวุธปืนจ่อกระหน่ำยิงกลางหลัง 3 นัดซ้อน จนล้มทั้งรถทั้งคน จากนั้นคนร้ายตามเข้าไปยิงซ้ำอีก 1 นัด เพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิตแน่แล้ว จึงเข้าไปหยิบปืนพกของผู้ตาย ขึ้นรถจยย.ที่พรรคพวกติดเครื่องรออยู่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ ตอนแรกยังไม่ทราบแน่ชัดว่า มาจากเรื่องใด เพราะในทางสอบสวนไม่พบว่าผู้ตายเคยมีเรื่อง ขัดแย้งกับใครอย่างรุนแรง เพียงแต่ผู้ตายเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาโผงผาง จึงสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากโกรธแค้นส่วนตัว ซึ่งผู้ตายอาจจะไปพูดจาขัดหูอริคนใดคนหนึ่งทำให้ไม่พอใจจึงตามยิง ขณะที่ในส่วนที่ทำงานที่ผ่านมาไม่ได้มีเหตุโกรธเคืองกับใคร

พ.ต.อ.คมสันสั่งการให้ชุดสอบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด รวมทั้งสอบปากคำพยานเพิ่มเติม ทั้งตัวภรรยาผู้ตายและคนใกล้ชิดครอบครัว จนได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าผู้ตายเป็นคนเจ้าชู้ นอกจากภรรยาที่เป็นครูแล้วก็ยังมีหญิงสาวอีกหลายคน โดยเฉพาะรายล่าสุดผู้ตายคบหาอยู่กับเด็กสาวหน้าตาดีคนหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นชนวนสังหารได้

หลังเกิดคดีตำรวจชุดสอบสวนมือดีออกสืบสวนสอบสวนเพื่อเร่งคลี่คลายคดี ซึ่งช่วงแรกพยานบางคนไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับตำรวจเท่าที่ควร ทำให้เกิดข้อสงสัยหลายอย่างว่าคนร้ายและ ผู้บงการนั้นน่าจะเป็นคนใกล้ตัว ร.ต.ท.วิชัย ในที่สุดตำรวจได้ตรวจเช็กภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุได้อย่างชัดเจน

ในที่สุดตำรวจก็สามารถจับตัวผู้ต้องหาได้ ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน คือ นางเรวดี ภรรยาผู้ตายนั่นเอง ส่วนมือปืนที่ลั่นไกสังหารคือ นายอรุณเดช จันทร์ปรุง อายุ 39 ปี โดยนายอรุณเดชถูกจับพร้อมยึดอาวุธปืนขนาด .357 และรถจักรยานยนต์คันที่ ใช้ก่อเหตุ

ตำรวจสอบเค้นผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 อยู่นานหลายชั่วโมง ในที่สุดนางเรวดียอมรับสารภาพทั้งน้ำตาว่า เป็นคนว่าจ้างมือปืนให้ฆ่า ร.ต.ท.วิชัย สามีเอง โดยให้ นางอารีรัตน์ สิทธิรักษ์ อายุ 55 ปี ที่ยังหลบหนี เป็นคนติดต่อนายอรุณเดช โดยให้ค่าจ้างฆ่าสามีเป็นเงินจำนวน 150,000 บาท ซึ่งได้วางมัดจำให้มือปืนไปแล้ว 17,000 บาท หลังจากงานสำเร็จก็จะจ่ายส่วนที่เหลือ แต่ยังไม่ทันได้จ่ายก็โดนเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน

นางเรวดียังให้การอีกว่า สาเหตุที่ต้องจ้างฆ่าสามีเนื่องจากโกรธแค้นที่สามีแอบไปมีหญิงอื่นเป็นเด็กสาวหน้าตาดี พอตน จับได้ก็มีปากเสียงทะเลาะกัน และถูกสามีทุบตีอย่างรุนแรง จะขอเลิกก็ไม่ยอมเลิก และยังแอบติดต่อกับหญิงสาวคนนั้นอยู่ตลอด พอทะเลาะกันเรื่องนี้ก็ถูกสามีทำร้ายจนตนเองทนต่อไปไม่ไหว จึงจ้างมือปืน ไปยิงสามีจนเสียชีวิตดังกล่าว

ขณะที่นายอรุณเดชให้การปฏิเสธ ระบุว่าไม่รู้เห็นกับการตายของร.ต.ท.วิชัย แต่อย่างใด

ต่อมาตำรวจจับกุม นางอำนวย ใจหาญ อายุ 48 ปี ม.5 ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช คนขี่รถจยย.พานายอรุณเดชไปก่อเหตุได้ ซึ่งการสอบสวนเจ้าตัวสารภาพสอดคล้องกับนางเรวดี

พ.ต.อ.คมสันเผยว่า ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐาน แม้นายอรุณเดชจะปฏิเสธ แต่เชื่อว่าสามารถเชื่อมโยงกันได้ ส่วนนางอารีรัตน์ มั่นใจจะจับกุมตัวได้ในเร็วๆ นี้

อีกหนึ่งเหตุสลดที่เริ่มต้นด้วยความรัก แต่จบลงด้วยความตาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน