เจาะนาทีตร.เมืองรถม้า
พิชิตโจรคู่รักปล้นแบงก์
ตาไว-โดดล็อกทันควัน
คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
โจรคู่รักปล้นแบงก์ – สมกับคำขวัญ ‘พิทักษ์สันติราษฎร์’ ที่ประดับใต้ตราแผ่นดิน อันเป็นสัญลักษณ์บนหน้าหมวกของตำรวจไทย
แม้จะอยู่ระหว่างการพักรับประทานอาหาร แต่ด้วยสัญชาตญาณความเป็นตำรวจยังบ่มเพาะให้คอยสอดส่ายสายตาสังเกตสิ่งผิดปกติ เป็นกิจวัตร ทำให้ผู้หมวดสามารถพิชิตโจรบุกเข้าไปชิงเงินสดเกือบล้านจากธนาคารกลางเมือง รถม้าในเวลาไม่ถึงนาทีหลังก่อเหตุ
คดีจับทันควันโจรปล้นแบงก์ครั้งนี้เกิดขึ้น ในช่วงสายวันที่ 18 มี.ค. เมื่อ พ.ต.ต.วิเชียร ใจสันกลาง สว.สอบสวน สภ.เมืองลำปาง รับแจ้งเกิดเหตุบุกจี้ ชิงทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ สาขา ฉัตรไชย เลขที่ 341/3-4 ถนนฉัตรไชย ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง
แต่คนร้ายที่ก่อเหตุหนีไปไหนไม่รอด เพราะถูกตำรวจที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงตะครุบตัวไว้ได้
หลังรับแจ้งสารวัตรวิเชียรก็นำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนบก.ภ.จว.ลำปาง และสภ.เมืองลำปางทันที
ที่เกิดเหตุพบ ร.ต.ท.วิชญ์พล คาวันดี รอง สว.จร.สภ.เมืองลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ กำลังควบคุมตัวชาย 1 ราย บริเวณด้านหน้าธนาคาร ขณะกำลังจะหลบหนีขึ้นรถเก๋งฟอร์ด สีขาว หมายเลขทะเบียน กง 2727 พะเยา ที่จอดรออยู่หน้าธนาคาร พร้อมกับกระเป๋าสีดำ 1 ใบ ภายในบรรจุธนบัตรไว้แน่น รวม 8.5 แสนบาท
นอกจากนี้ยังพบแฟนสาวนั่งรออยู่ภายในรถ จึงคุมตัวทั้งคู่เข้าไปสอบสวนภายในธนาคารที่เกิดเหตุ
ทราบชื่อว่า นายสุรสิทธิ์ มังคลาด อายุ 28 ปี เป็นชาว อ.เชียงคำ จ.พะเยา และ น.ส.พรรษา ริวรรณา อายุ 35 ปี เป็นชาว อ.ภูซาง จ.พะเยา
เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายสุรสิทธิ์ถือกระเป๋าสีดำเข้ามายังเคาน์เตอร์ที่ 2 ของธนาคาร ขณะนั้นมีนางปฏิมา กิตติเวช ผู้จัดการสาขา ยืนประจำอยู่พอดี โดยเคาน์เตอร์ด้านข้างมีพนักงานประจำอยู่อีก 2 คน ต่างทำงานของตัวเอง
จากนั้นนายสุรสิทธิ์เปิดกระเป๋าสีดำและบอก ให้ส่งเงินมา ทางพนักงานต่างตกใจคิดว่ามีอาวุธปืน ผู้จัดการธนาคารจึงบอกให้ทุกคนเข้าไปหลบอยู่ด้านหลังเพื่อความปลอดภัย
นายสุรสิทธิ์จึงกระโดดข้ามเคาน์เตอร์เข้าไป ด้านใน และหยิบเงินในลิ้นชักออกไปจำนวนหนึ่ง และวิ่งหลบหนีออกจากธนาคาร จะไปขึ้นรถเก๋งที่จอดรอไว้ด้านหน้าธนาคาร
แต่ขณะนั้นเอง ร.ต.ท.วิชญ์พล ที่กำลังนั่งรับประทานก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่ร้านฝั่งตรงข้าม รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ ที่เกิดขึ้น
เมื่อเห็นนายสุรสิทธิ์วิ่งหอบกระเป๋าหนีออกมา จึงทราบว่าเกิดเหตุร้าย
ผู้หมวดรีบทิ้งชามก๋วยเตี๋ยวและช้อนตะเกียบ ที่อยู่ในมือ วิ่งข้ามถนนไปกระโดดล็อกตัวนายสุรสิทธิ์ไว้ได้ ก่อนที่จะขึ้นรถขับหลบหนีไป จากนั้นจึงใช้วิทยุสื่อสารแจ้งสารวัตรวิเชียรนำกำลังมาจับกุมตาม ขั้นตอนของกฎหมาย
เบื้องต้นนายสุรสิทธิ์ให้การรับสารภาพว่า ตกงานจึงเกิดอาการเครียด และมาก่อเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาชิงทรัพย์กับทั้ง 2 คน ซึ่งนายสุรสิทธิ์ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ส่วนแฟนสาวที่มาด้วยกันให้การภาคเสธว่า ขับรถมาส่งนายสุรสิทธิ์ที่ธนาคารจริง แต่ไม่รู้ว่ามาทำอะไรที่ธนาคารดังกล่าว
แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อน.ส.พรรษา เพราะสืบทราบมาว่าทั้ง 2 คนเป็นแฟนกัน ซึ่งน.ส.พรรษาเองอาศัยอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ และได้ขับรถเก๋งคันดังกล่าวมาหา นาย สุรสิทธิ์ที่นัดมาพบกันที่ จ.ลำปาง ซึ่งเมื่อคืนนี้ก็ได้เข้าพักด้วยกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองลำปาง ก่อนจะมาก่อเหตุในวันนี้
หลังแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จจึงคุมตัวนาย สุรสิทธิ์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนคุมตัวไปยังสภ.เมืองลำปาง สอบปากคำทั้งคู่อย่างละเอียดอีกครั้ง
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กระจายกำลังลงพื้นที่ในจุดต่างๆ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ว่าทั้ง 2 คน มีการวางแผนร่วมกันในการก่อเหตุครั้งนี้หรือไม่ เพื่อหาหลักฐานมัดตัวให้แน่นหนาที่สุด
รวบรวมเป็นสำนวนประกอบคดีส่งอัยการจังหวัด พิจารณาส่งฟ้องต่อศาลสถิตยุติธรรม เป็นผู้พิจารณาบทลงโทษต่อความผิดที่ได้กระทำลงไป
คอลัมน์ สดจากสนามข่าว โดย… ติรยา ใจแก้ว, ภูษณิศา สัญญารักษกุล – เรื่อง/ภาพ
….อ่าน…