ตร.ปิดคดีโจรเท้าเปล่า
บีบคอฆ่าแม่เฒ่าวัย74
ประวัติเหี้ยมก่อคดีอื้อ
คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ตร.ปิดคดีโจรเท้าเปล่าบีบคอฆ่าแม่เฒ่า : บ่ายวันที่ 23 มี.ค. ที่ บก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดสุพรรณบุรี แถลงจับกุม นายจักรกฤษณ์ หรือ อาร์ท การภักดี อายุ 30 ปี ผู้ต้องหา ฆ่าโหด นางทองมา ส่ำสมบูรณ์ชัย ยายวัย 74 ปี เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ ผ่านมา ภายในบ้านพัก ต.ทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
คดีนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ร.ต.อ.ปัญญา อยู่พิทักษ์ รองสว.สอบสวน สภ.ทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุมีคนถูกฆ่าตาย ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ม.1 บ้านหนองพง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ตร.แถลงปิดคดี
หลังรับรายงานเหตุร้าย พล.ต.ต. คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.วริทธิ์พงษ์ ทัฬหวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ธนกฤต จันทร์ชีระ ผกก.สภ.ทุ่งคอก พ.ต.ท.อำนวย ศรีสงคราม รอง ผกก.ป. พ.ต.ท. อดิเศรษฐ์ บำรุง รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.พิสิษฐ์ ชัยโชค สวป. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร ร.พ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบศพนางทองมา ส่ำสมบูรณ์ชัย อายุ 74 ปี สภาพศพตาเหลือก มีรอยช้ำที่คอ ลักษณะคล้ายถูกบีบคอมีหมากคาปาก นอนหงายตายอยู่บนเตียงคาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 8-10 ชั่วโมงและยังพบข้าวของถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย ที่หน้าต่างพบร่องรอยถูกงัด จึงเก็บลายนิ้วมือและรอยเท้าของคนร้ายที่ทิ้งไว้เป็นหลักฐาน
น. ส.สายบัว นิ่มเภา อายุ 53 ปี ลูกสะใภ้ผู้ตาย กล่าวว่า ตั้งแต่เช้ายังไม่เห็นหน้า นางทองมา แม่สามี จึงมาตะโกนเรียกที่ประตูหน้าบ้านซึ่งปิดอยู่ แต่ไม่มีเสียงตอบ จึงเดินไปที่หลังบ้านเห็นประตูเปิดอยู่ เมื่อเดินเข้าไปดูภายในบ้านพบว่า นางทองมา นอนตัวแข็งเสียชีวิตอยู่บนที่นอน จึงร้องเรียกให้คนช่วย จากการตรวจสอบพบว่าสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง และเงินสดหายไป
เอาทองไปขาย
ด้านนายสม ส่ำสมบูรณ์ชัย อายุ 55 ปี ลูกชายผู้ตาย กล่าวว่า คนร้ายต้องเป็นคนในละแวกใกล้บ้านแน่นอน เนื่องจากไม่ได้ยินเสียงหมาเห่า
หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.ทุ่งคอก และ ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี เร่งทำงานเพื่อคลี่คลายคดีอย่างต่อเนื่อง นำผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำหลายราย มีการตรวจดีเอ็นเอ โดยเฉพาะรอยเท้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุนับเป็นหลักฐานสำคัญที่ใช้สืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้าย
ตำรวจพบว่ามีจนทราบว่าในละแวกบ้านผู้ตาย มีนายจักรกฤษณ์หรืออาร์ท การภักดี อายุ 30 ปี หายหน้าไป จากการตรวจสอบพบว่า นายอาร์ท เป็นคนอ.ด่านช้าง แต่มาได้ภรรยาและมีครอบครัวที่นี่ และบ้านอยู่ห่างจากบ้านผู้ตายไปประมาณ 3-4 ก.ม.
จุดทิ้งของกลาง
จากการตรวจสอบพบว่า มีประวัติอาชญากรอย่างโชกโชนในหลายพื้นที่ มีหมายจับของสภ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ก่อคดีลักทรัพย์ สภ.เมืองปทุมธานี คดีหลบหนีที่คุมขัง สภ.สามโคก ปทุมธานี คดีข่มขืน สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง ที่สำคัญนายอาร์ทมีพฤติกรรมชอบเดินเท้าเปล่า ไม่ชอบใส่รองเท้าซึ่งตรงกับคนร้ายในคดีนี้พอดี
ตํารวจออกสืบสวนสอบสวนติดตาม ก่อนจะสามารถตามจับกุมตัวที่ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี พล.ต.ต.คมศักดิ์ เผยว่าภายหลังถูกจับกุม นาย อาร์ทให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่าที่ทำไปเพราะไม่มีเงินเลี้ยงดูครอบครัวต้องหาเงินเลี้ยงลูก 2 คน และที่ทำร้ายยายไม่คิดว่าจะเสียชีวิต แค่ให้เค้าสลบไปเฉยๆ
ชี้จุดตามคำสารภาพ
ภายหลังแถลงข่าว ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ทุ่งคอก และ ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี นำกำลังกว่า 30 นาย ควบคุมตัวนายอาร์ท ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จุดแรกคือจุดที่นายอาร์ทนำทองรูปพรรณของยายไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งในอ.อู่ทอง และจุดที่สองนำกระเป๋าเงินและบัตรประชาชนของยายไปทิ้งคลองชลประทาน ในหมู่บ้านที่ต.ทุ่งคอก
ก่อนนำตัวกลับมาดำเนินคดีในข้อกล่าวหา “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยเข้าในทางช่องทางที่ทำขึ้นไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้า เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยใช้ยานพาหนะหรือรับของโจร และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”
ด้านนายสม ลูกชายของผู้เสียชีวิตกล่าวขอบคุณพล.ต.ต.คมศักดิ์ และตำรวจสุพรรณบุรีทุกนายที่ทำคดีนี้ ที่ได้ช่วยติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด จนสามารถจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ อย่างน้อยแม่ก็จะได้รับรู้ว่าใครคือคนฆ่า และได้รับโทษกรรมที่ทำไว้ ครอบครัวรู้สึกเสียใจมาก ไม่คิดว่ามาขโมยทรัพย์สินจะต้องมาลงมือโหดเหี้ยมฆ่าคนแก่วัย 74 ปีที่ไม่มีทางสู้ได้
หนึ่งฤทัย หนูสวัสดิ์
เรื่อง/ภาพ
