คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

สุพล บุญชื่นชม

จักรพันธ์ นาทันริ

เรื่อง/ภาพ

การสืบสวนติดตามตัวคนร้ายใน คดีต่างๆ มาลงโทษตามกฎหมายไม่มีใครบอกได้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ บางคดีสามารถจับได้ในเวลาไม่กี่วัน แต่บางคดีอาจต้องใช้เวลาเป็นปี หรือหลายๆ ปี แต่ที่แน่ๆ คือหากคดี ไม่หมดอายุความเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ ไม่ได้หยุดการสืบสวนติดตาม

เช่น เมื่อวันที่ 22 ก.พ. พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4 (ปป.) พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.โผนชัย ครองยุทธ ผกก.สภ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ร่วมกันสอบสวน นายนิวัฒน์ หรือ กบ ทับศรีแก้ว อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/33 หมู่ 5 ต.สำนักท้อน อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น

หลังเจ้าตัวถูกชุดสืบสวน บก.สส. ภ.4 ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.บ้านฝาง จับกุมตัวในคดีที่ก่อเหตุฆ่า น.ส. อารีรัตน์ หรือ แมว อินละม่อม อายุ 28 ปี ม่ายสาวฐานะดี เหตุเกิดเมื่อ วันที่ 26 ก.พ. 2558 แล้วหลบหนีมาเป็นโชเฟอร์ขับรถบรรทุกสิบล้อ ที่บริเวณหมู่ 12 ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพง แสน จ.นครปฐม

ย้อนกลับไปเช้าวันที่เกิดเหตุ ตำรวจ สภ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในบ้านพักเลขที่ 189 หมู่ 2 ต.โนนฆ้อง อ.บ้านฝาง หลังได้รับแจ้งว่าพบศพน.ส.อารีรัตน์ อินละม่อม อายุ 28 ปี ม่ายสาวฐานะดีเจ้าของบ้าน ใช้ผ้าม่านรัดคอตัวเองกับประตูของตู้เสื้อผ้าจนเสียชีวิต

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเจ้าหน้าที่พบว่าปลาย ผ้าม่านที่ผู้เสียชีวิตใช้ผูกคออีกข้าง หนึ่งนั้น ผูกอยู่กับที่จับของตู้เสื้อผ้า แบบหลวมๆ ส่วนสภาพภายในห้องไม่มีร่องรอยการต่อสู้ มีเพียงหน้าต่างของบริเวณห้องโถงใหญ่ที่เปิดแง้ม อยู่ 2 บาน และมีรอยเลือดหยดไปตามทางจากประตูห้องผู้ตายจนมาถึงตรงหน้าต่าง และยังพบเชือกไนลอนสีแดงตกอยู่บนที่นอน

ขณะที่นายอำพร อินละม่อม บิดาของผู้เสียชีวิต เชื่อว่าบุตรสาวถูกฆาตกรรม เนื่องจากเจ้าตัวเล่าให้ ฟังว่า หลังจากที่หย่าร้างกับแฟนเก่าได้เล่นเฟซบุ๊กกับชายคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า “นายอภิวัฒน์” พร้อมกับมีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์เป็นระยะๆ

จนกระทั่งในช่วงปลายปีที่แล้ว นายอภิวัฒน์ได้ให้บุตรสาวเดินทางไปหาที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง แต่บุตรสาวปฏิเสธ พร้อมกับบอกว่า ถ้าต้องการเจอหน้าและพูดคุยกันให้มาหาที่บ้าน ซึ่งนายอภิวัฒน์ก็ไม่ยอมมา ทำให้ บุตรสาวไม่อยากคบหาต่อ หลังจากนั้น นายอภิวัฒน์ก็ได้ส่งข้อความขู่ฆ่าบุตรสาวหลายครั้ง

เมื่อมีเหตุให้สงสัยตำรวจได้ส่งศพผู้ตายไปชันสูตรพลิกศพที่ภาควิชานิติเวช คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทั่งวันที่ 17 มี.ค. 2558 รายงานการตรวจศพของแพทย์ยืนยันว่า สภาพศพผู้ตายพบร่องรอยช้ำที่ลำคอ ในลักษณะขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซ.ม. ขนานกับลำคอผู้ตาย ซึ่งผิดหลักธรรมชาติ ซึ่งหากเป็นการผูกคอตายรอยรัดของเชือกจะต้องเป็นแนวเฉียงกับลำคอผู้ตาย น่าเชื่อว่าถูกคนอื่นทำให้ตาย

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานสหวิชาชีพสอบสวนลูกชายผู้ตาย อายุ 7 ขวบ ที่นอนอยู่กับแม่ในขณะเกิดเหตุ ทราบว่าเห็นนายอภิวัฒน์ใช้เชือกสีแดงรัดคอแม่ของตนเอง ขณะนอนคว่ำหน้ากับที่นอน แต่เด็กไม่กล้าร้อง เพราะความกลัวเลยแกล้งหลับตาและเผลอหลับไป กระทั่งเช้าเห็นแม่นั่งพิงตู้เสื้อผ้าจึงรีบไปบอกตากับยายให้ไปดูแม่ในห้อง ปรากฏว่าแม่ตายแล้ว

ชุดสืบสวนจึงตรวจสอบประวัติ พบว่า หนุ่มที่ผู้ตายคุยด้วยชื่อ นายนิวัฒน์ พรหมภักดี หรือกบ เป็นชาว จ.ระยอง อยู่บ้านเลขที่ 69/33 หมู่ 5 ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง แต่มาทำงานเป็น รปภ.คุมผับแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น

หลังได้ข้อมูลครบถ้วนพนักงานสอบสวนจึงนำพยานหลักฐานไปขอศาลจังหวัดขอนแก่นอนุมัติออกหมายจับนายนิวัฒน์ ในข้อหาฆ่าคนตาย แต่พบว่านายนิวัฒน์หลบหนีออกจากพื้นที่ไปตั้งแต่หลังก่อเหตุ

ตํารวจส่งชุดสืบสวนติดตามสืบสวนเรื่อยมาไม่ได้ทิ้งคดี จนในที่สุดผ่านมา 2 ปีจึงได้เบาะแสว่า นายนิวัฒน์หนีมาทำงานเป็นโชเฟอร์ขับรถสิบล้ออยู่ที่จังหวัดนครปฐม จึงติดตามมาตรวจสอบ ก่อนเข้าจับกุมตัวไว้ได้ดังกล่าว

ขณะที่นายนิวัฒน์ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และยังรับอีกว่า ก่อคดีลักทรัพย์รถยนต์ในพื้นที่ สภ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เมื่อปี’58 ก่อเหตุลักทรัพย์รถยนต์ท้องที่ สน. ลาดพร้าว กทม. เมื่อปี ’59

นอกจากนี้ยังหนีคดีฆ่าชิงทรัพย์ นางกนกพร ทางธนกุล เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2546 เหตุเกิดบริเวณหมู่ 2 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี กระทั่งสุดท้ายมาก่อเหตุฆ่า น.ส.อารีรัตน์ ในพื้นที่ สภ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น โดยสาเหตุเพราะหึงหวงที่ผู้ตายได้เล่นเฟซบุ๊กกับคนอื่นๆ อีก 1-2 คน

ทำความผิดเอาไว้อย่านึกว่า จะรอดเงื้อมมือกฎหมาย อย่างไรเสียก็ต้องถูกจับตัวได้สักวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน