จับเจ้าของร้านมือถือแสบ
แอบติดตั้งแอพฯในมือถือ
นศ.สาวกรี๊ดถูกหาขายตัว
คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
จับเจ้าของร้านมือถือแสบ – ด้วยเทคโนโลยีที่ทำให้เราสามารถย่อโลกทั้งใบให้มาอยู่ในมือถือได้ ในทางกลับกันชีวิตตัวตนของเราก็ถูกย่อใส่เข้าไปด้วย การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลในมือถือจึงเป็นเรื่องสำคัญ
เพราะพลันที่มีคนเข้าถึงข้อมูลรหัสผ่านต่างๆ ในเครื่องมือถือ ความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัวของเราก็มลายหายไป จนอาจนำความยุ่งยากเดือดร้อนมาให้ได้
น.ศ.สาวแจ้งตำรวจ
แต่กลับถูกแอบติดตั้งแอพพลิเคชั่น “อัลเฟรด” ซึ่งเป็นแอพที่ทำงานคล้ายกับกล้องวงจรปิด ที่สามารถดูภาพจากมือถือที่เชื่อมต่อกันอยู่ได้ และเมื่อตรวจสอบแอพก็พบว่า อีเมล์ที่ใช้ล็อกอินเป็นอีเมล์ของเจ้าของร้านซ่อมโทรศัพท์
หลักฐานแช็ต
และยังพบว่ามีผู้นำเอาไอดีไลน์ส่วนตัวไปแชร์ในกลุ่มรับงานขอนแก่น ซึ่งเป็นกลุ่มซื้อขายบริการทางเพศ ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ โดยได้มีการเชิญเจ้าของร้านมาสอบสวน ซึ่งได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีเจตนาติดตั้งแอพดังกล่าว แต่อาจเกิดจากความผิดพลาดในระหว่างการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ และยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มซื้อขายบริการ
สอบเจ้าของร้านมือถือ
ภายหลังเป็นข่าว พล.ต.ต.พรหมณัฎฐเขต ฮามคำไพ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.สุทธิพงศ์ เป็กทอง รองผบก.ภ.จว.ขอนแก่น, พ.ต.อ.จีราวัฒน์ คงกระพันธ์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกับชุดสืบสวนรวบรวมหลักฐานจนมัดแน่น
นายเอกวัตร ทองบ้านทุ่ม สารภาพ
ก่อนจะจับกุมตัว นายเอกวัตร ทองบ้านทุ่ม อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เจ้าของร้านมือถือได้ขณะซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านพัก
พล.ต.ต.พรหมณัฎฐเขต กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้แกะรอยจากร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือตามคำให้การของผู้เสียหาย ประกอบกับข้อมูลที่ระบุแน่ชัดว่าเจ้าของร้านโทรศัพท์มือถือได้ใช้รหัสส่วนตัวรวมทั้งอีเมล์ส่วนตัว สมัครใช้งานแอพพลิเคชั่นดังกล่าวในเครื่องของผู้เสียหาย
อย่างไรก็ตาม จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ แยกการสืบสวนออกเป็น 2 ประเด็น คือ การหาข้อเท็จจริงว่าเจ้าของร้านมีเจตนาในการติดตั้งแอพ พลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายหรือไม่ อีกประเด็นคือ จะต้องสอบสวนบุคคลที่ทักแช็ตไลน์เข้ามาหาผู้เสียหายว่าได้ไอดีไลน์มาจากใคร ซึ่งหากต้นทางมาจากที่เดียวกันหรือจากบุคคลเดียวกันก็จะต้องเรียกมาสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง
ให้ข้อมูลตำรวจ
“หลังพยานและหลักฐานแน่ชัดแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ไปตรวจสอบที่บ้านซึ่งพบนายเอกวัตรอยู่ภายในบ้านจึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวน ที่สภ.เมืองขอนแก่น จนกระทั่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ติดตั้งแอพพลิเคชั่นดังกล่าวจริง เพื่อแอบดูพฤติกรรมของผู้เสียหายเนื่องจากผู้เสียหายนั้นมีรูปร่างหน้าตาดี อย่างไรก็ดีชุดสืบสวนได้ตรวจอายัดคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือภายในร้านของ ผู้เสียหายมาตรวจสอบ ซึ่งก็พบว่ามีหญิงสาวหลายรายถูกผู้ต้องหาแอบติดตั้งแอพพลิเคชั่นและแฮ็กไลน์ส่วนตัวไว้ด้วย จึงยึดมาตรวจสอบทั้งหมด”
ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ได้ตรวจยึดคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือที่ร้านของผู้ต้องหามาตรวจสอบทั้งหมด ทั้งนี้ภายหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จจึงตั้ง ข้อกล่าวหาว่าทำให้เสียหาย ทำลายแก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับก่อนควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
กรณีดังกล่าวผู้เชี่ยวชาญด้านไอที ออกมาเผยวิธีการป้องกันว่าเราควรจะเปลี่ยนรหัสผ่านต่างๆ ทั้งอีเมล์และบัญชีเฟซบุ๊ก ไอจี ให้บ่อยครั้ง เพื่อป้องกันการถูกแฮ็ก หรือเมื่อต้องนำมือถือไปซ่อม ควรให้เฉพาะรหัสปลดล็อกหน้าจอกับช่างเท่านั้นไม่ควรให้รหัสอื่นของเราเพื่อความปลอดภัย
