คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

สันติ ประหร่ำภากรณ์

เรื่อง/ภาพ

ชาวบ้านย่านปากซอยวัดกู้ ใน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ต่างพากันเศร้าใจ เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญของ นางเพียรพร อินทะชัย เมื่อต้องมาเห็นร่างอันไร้วิญญาณของ นายจิระวัฒน์ หรือ ก๊อต แตงเพชร บุตรชายที่เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 17 ปี จากการถูกวัยรุ่นคนหนึ่งใช้มีดจ้วงแทงใส่ ทั้งที่ไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องกันมาก่อน

เหตุการณ์เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 ก.พ. เมื่อ ร.ต.อ.สวิช สืบเพ็ง รอง สว.สอบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้รับแจ้งมีวัยรุ่นถูกแทงเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณปากซอยวัดกู้ ถ.สุขาประชาสรรค์ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

หลังรับแจ้งผู้กองสวิช รีบรายงาน ให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต. สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.นนทบุรี พ.ต.อ.ณัฐพล ศุกกระศร รอง ผบก. พ.ต.ท.มงคล อ่อนแก้ว รอง ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.พลเทพ นันทสำเริง รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตนอนอยู่ ริมฟุตปาธตรงที่จอดรถวินจยย.รับจ้างปากซอยวัดกู้ ทราบชื่อว่านายจิระวัฒน์ หรือก๊อต แตงเพชร อายุ 17 ปี พบบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดที่ชายโครงซ้าย 2 แผล หัวไหล่ขวา 2 แผล โดยมี นางเพียรพร อินทะชัย มารดาพร้อมด้วยแฟนสาวของผู้ตายนั่งร่ำไห้อยู่ข้างๆ ศพ

ห่างไปเล็กน้อยพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน 5 กศ-1738 กรุงเทพ ของผู้ตายจอดอยู่ ขณะที่ ชาวบ้านนับร้อยคนต่างมาดูเหตุการณ์ เพราะจุดเกิดเหตุอยู่ ติดกับตลาดสดพิชัยและตลาดสดของเทศบาลนครปากเกร็ด ทำให้มีผู้คนผ่านไปมาพลุกพล่าน

จากการสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งมีอาชีพขี่รถจักรยาน ยนต์รับจ้างตรงจุดเกิดเหตุ เล่าว่า ระหว่างรอรับผู้โดยสารพร้อมเพื่อนๆ ที่ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างวินเดียวกัน มีกลุ่ม วัยรุ่นสองกลุ่มขี่รถจักรยานยนต์มา หลายสิบคัน ก่อนที่จะเปิดฉากใช้อาวุธมีดลงมาไล่ตีไล่ฟันกันชุลมุน

พยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าต่อว่าจังหวะเดียวกัน คนตายซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยขี่จักรยานยนต์ผ่านมาพอดี ก่อนตกใจกับเหตุการณ์จนรถล้มลงข้างๆ ตน จากนั้นมีวัยรุ่น 2 คน เดินตรงเข้ามาแล้วถามว่า “เอ็งชื่อเกมใช่หรือเปล่า” ผู้ตาย ลุกขึ้นจะวิ่งหนีจึงถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดจ้วงแทงเข้าที่กลางหลังหลายครั้งจนล้มลง ก่อนจะแยกย้ายพากันขี่รถหลบหนีออกไปทางห้าแยกปากเกร็ด

ขณะที่นางเพียรพรมารดาผู้ตายกล่าวทั้งน้ำตาว่า บุตรชายเคยเรียนอยู่ที่ช่างกล ขส.ทบ. แต่เรียนไม่จบ ก่อนจะมาช่วยพี่ชายทำงานที่ร้านซ่อมเครื่องยนต์ ก่อนเกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งแฟนสาวที่ย่านถนนแจ้งวัฒนะ ตนมา ทราบอีกทีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าลูกชายถูกแทงเสียชีวิต “ปกติเขาก็ไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองกับใคร ช่วยพี่ชายทำงานที่ร้านซ่อมเครื่องยนต์ตลอด” นางเพียรพรกล่าวด้วยเสียงปนสะอื้น

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สุศักดิ์ สั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรีและสืบสวน โรงพักปากเกร็ด เร่งขอภาพจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครปากเกร็ด เพื่อติดตามตัวแก๊งวัยรุ่นทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว

ผ่านไปเพียงแค่ข้ามวัน บรรดา ผู้ปกครองของนายเอ(นามสมมติ)อายุ 17 ปี นักเรียนโรงเรียนเทคนิคแห่งหนึ่ง มือมีดที่ก่อเหตุพร้อมกับพวกเพื่อนอีก 3 คน ก็เข้ามอบตัวกับตำรวจปากเกร็ด โดยนายเอให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่า ที่ลงมือก่อเหตุแทงนายจิระวัฒน์จนเสียชีวิต เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคู่อริ

พ.ต.ท.พลเทพ นันทสำเริง รองผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด นำ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคุมตัวนายเอไปยังท่าเทียบเรือใกล้วัดปากเกร็ด เพื่อหาอาวุธมีดของกลางที่นายเอกับพวกนำมาทิ้งไว้หลังก่อเหตุ แต่เนื่องจากกระแสน้ำที่เชี่ยวทำให้ไม่พบของกลาง

ขณะที่นายเอผู้ต้องหาสารภาพว่า วันเกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์มากับรุ่นพี่อีกหลายคน แต่มาเจอฝ่ายตรงข้ามซึ่งเป็นวัยรุ่นเจ้าถิ่นย่านวัดบางพัง ขี่รถจักรยานยนต์สวนทางมา ก่อนจะลงมาไล่ทำร้ายพวกตน จึงเกิดการต่อสู้กันทั้งสองฝ่าย

“ระหว่างชุลมุนไม่รู้ใครเป็นใครเห็นผู้ตายคิดว่าเป็นกลุ่มคู่อริฝ่ายตรงข้ามเลยตรงเข้าใช้อาวุธมีดแทง ก่อนหลบหนีและนำมีดไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งนี้นายเออ้างว่า ก่อนหน้านี้เคยถูกทำร้ายฟันแขนจนต้องเย็บหลายสิบเข็ม จึงต้องพกมีดเมื่อมาเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกก็อ้างว่าต้องป้องกันตัวไว้ก่อน ทั้งยอมรับว่าเป็นคนแทงผู้ตายจริงและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย” นายเอกล่าว

วัยรุ่นใจร้อน พอของขึ้นไม่สนว่าใครเป็นใคร เห็นเป็นศัตรูไปเสียหมด สุดท้ายก็ต้องลงเอยด้วยการถูกตร. จับดำเนินคดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน