ย้อน2เหตุโฉ่วงการสงฆ์ พระตีนดุตื้บดับหลวงลุง อีกคดีทำร้ายชายสติไม่ดี : สดจากสนามข่าว
สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อ ในตน กินกัดเนื้อเหล็กจน กร่อนขร้ำ บาปเกิดแต่ตนคน เป็นบาป บาปย่อมทำโทษซ้ำ ใส่ผู้บาปเอง ฉันใดก็ฉันนั้น บทโคลงโลกนิติ สอนให้รู้จักความดีความชั่ว การที่เราได้รับผลอย่างไรย่อมมีเหตุจากการกระทำของเราทั้งสิ้น
พุทธศาสนาที่ดำรงอยู่มาถึง 2,500 กว่าปีก็เช่นกัน หากจะเกิดความเสื่อมถอย ก็ไม่ใช่เพราะคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หากแต่เป็นเพราะวัตรปฏิบัติของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสาวก ผู้สืบทอดศาสนานั่นเอง
เช่น 2 กรณีล่าสุดก็เป็นผลงานของพระภิกษุที่สร้างความมัวหมองให้กับพระพุทธศาสนาอีกคำรบหนึ่ง
นาทีจับพระตีนโหด
เรื่องราวเหตุการณ์แรกถูกเปิดเผยขึ้น ภายหลังเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 14 เม.ย. พ.ต.อ.ทูน เดชคุณมาก ผกก.สภ.คลองห้า พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ อ่อนสง สว.สส. สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี นำกำลังชุดสืบสวน เข้าจับกุมตัวพระภิกษุสาคร บุญโน่น อายุ 46 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน อยู่บ้านเลขที่ 303 ม.3 ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ตามหมายศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 187/2562 ลงวันที่ 13 เม.ย. 2562 ในข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย”
ตัวหลบหนีมาจำวัดอยู่ที่วัดบางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ต้นสายปลายเหตุของการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สุนทร รัตนาพร สารวัตรสอบสวน สภ.คลองห้า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองห้า ได้รับแจ้งจากแพทย์โรงพยาบาลคลองหลวง ว่า มีพระภิกษุถูกทำร้ายร่างกายและต่อมามรณภาพ ที่โรงพยาบาลคลองหลวง จึงไปตรวจสอบพบพระภิกษุที่มรณภาพชื่อ พระสนั่น ทั่งทอง อายุ 63 ปี
โดยพระภิกษุสนั่นมาเข้ารับการรักษาอาการที่โรงพยาบาล เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. วันที่ 12 เม.ย. ทางด้านพ.ต.ท.สุนทร จึงส่งศพไปผ่าชันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ
พระสนั่น ผู้ตาย
ผลการชันสูตรปรากฏว่ามีเลือดออกในช่องท้อง และมีเลือดออกในตับ ซึ่งเป็นผลมาจากการถูกทำร้ายร่างกาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนจนทราบว่า พระภิกษุสนั่น ทั่งทอง ที่มรณภาพนั้น พักอาศัยอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ใน ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ชุดสืบสวนเดินทางไปสอบสวนที่เกิดเหตุ และสอบปากคำพระภิกษุที่จำพรรษาอยู่ในวัด จนทราบว่า พระสนั่นที่มรณภาพมีเรื่องชกต่อยกับ พระภิกษุสาคร บุญโน่น อายุ 46 ปี สาเหตุเนื่องจากพระสนั่นเข้าไปต่อว่า ผู้ก่อเหตุที่แอบกินเหล้าในวัด จนมีปากเสียงกัน พระภิกษุสาครจึงเข้าชกต่อย และกระทืบที่หน้าท้องของพระสนั่นไปหลายครั้งจนบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนจะมรณภาพในเวลาต่อมา
หลังเกิดเหตุพระภิกษุสาครหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ออกจากวัดไปตั้งแต่วันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าของคดี จึงรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำประจักษ์พยาน จนออกหมายจับพระสาคร ก่อนสามารถจับกุมตัวได้ที่วัดบางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จากนั้นจึงให้ เจ้าอาวาสวัดบางพูดทำการสึก เพื่อนำตัวมาสอบปากคำ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพและดำเนินคดีตามกฎหมาย
คุมตัวทำแผนฯ
ด้านนายสาคร บุญโน่น หรืออดีตพระสาคร ให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุทำร้ายร่างกายพระภิกษุสนั่น จนมรณภาพจริง สาเหตุเนื่องจากมาต่อว่าที่ตนแอบกินเหล้าในวัด ต่อมาเกิดมีปากเสียงทะเลาะกับพระสนั่น จึงเข้าไปชกต่อยและใช้เท้ากระทืบหน้าท้องพระสนั่นจำนวนหลายครั้งจนแน่นิ่ง ก่อนหลบหนีไปกบดานที่วัดบางพูดจนมาถูกจับได้ ในที่สุด
ส่วนอีกคดีเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 เม.ย. แต่มาเป็นข่าวเอาเมื่อโลกโซเชี่ยลโพสต์คลิปความยาวนาทีกว่าๆ เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดภาพพระภิกษุไล่กระทืบชายคนหนึ่ง โดยระบุเวลา 07.59 น. วันที่ 8 เม.ย. พร้อมให้ข้อมูลว่าชายที่ถูกทำร้ายเป็นคนสติไม่ดี
โดยเหตุเกิดภายในวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จากคำบอกเล่าผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่าชายสติไม่ดีได้ไปเล่นกับสามเณรรูปหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกชายของพระที่ก่อเหตุ แล้วไปทำให้สามเณรหกล้ม ทำให้พระรูปนี้เกิดความไม่พอใจ จึงได้ไล่ชกชายสติไม่ดี จนได้รับบาดเจ็บ
สำนักสงฆ์ที่เกิดเหตุ
พร้อมทั้งระบุอีกด้วยว่า ล่าสุดทางครอบครัวของชายสติไม่ดีเข้าแจ้งความและร้องเรียนสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแล้ว ส่วนพระที่ก่อเหตุหอบข้าวของเณรลูก ย้ายไปอยู่วัดแถวชลบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามไปจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
เมื่อคำสอนของพระพุทธองค์ไม่สามารถขัดเกลาจิตใจได้ ก็ให้เป็นหน้าที่ของกฎหมายเอาไปดูแลขัดเกลาต่อก็แล้วกัน
