คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ธานี ทวีเกิด

เรื่อง/ภาพ

ธรรมชาติของมนุษย์ ตั้งแต่สมัยโบราณยังอาศัยอยู่ในถ้ำ คือกลัวสิ่งที่อยู่ในการควบคุมของตัวเอง ไม่ว่าจะเรื่องฟ้าร้อง ฟ้าผ่า น้ำท่วม ฝนแล้ง แผ่นดินไหว

เมื่อไม่สามารถหาข้ออธิบายต่อปรากฏการณ์ที่เกิดได้ ก็ผลักให้ไปอยู่ในความรับผิดชอบของสิ่งเร้นลับ กราบไหว้บูชาหวังไม่ให้มาทำอันตรายต่อชีวิต อีกรูปแบบหนึ่งของการบูชาเรื่องลี้ลับคือ ‘ทรงเจ้าเข้าผี’ ที่มีผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างเชื่อมั่นศรัทธา

เห็นได้จากสำนักทรงบางแห่งที่มีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก ต่างอู้ฟู่ด้วยทรัพย์ สินที่ลูกศิษย์นำมาประเคนให้ จนทำให้เป็นอีกหนึ่งแหล่งขุมทรัพย์ให้กลุ่มมิจฉาชีพใช้กอบโกยเงินทองจากผู้ที่หลงเชื่อนำไปปรนเปรอความสุขส่วนตัว

ล่าสุดตำรวจกองปราบปราม ก็บุกทลายสำนักร่างทรงเก๊ที่กาญจนบุรี ที่หลอกต้มตุ๋นผู้คนจนร่ำรวย

คดีนี้เริ่มจากมีสาวนักธุรกิจชาวไทยในสหรัฐอเมริกา และกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมาก เข้าร้องเรียนที่กองปราบปรามว่า เมื่อประมาณปี 2556 เพื่อนได้แนะนำให้รู้จักร่างทรง “เจ้าหญิงเมืองแก้ว” แสดงปาฏิหาริย์ต่างๆ ทั้งทำนายทายทักดวงชะตาได้ถูกต้องหลายอย่าง ทำให้เหยื่อหลงเชื่อถูกชักชวนให้ร่วมทำบุญสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมรวมกันแล้วมากกว่า 49 ล้านบาท

แต่ด้วยคำสอนหลายอย่างที่ไม่ชอบกล จึงเริ่มรู้สึกผิดสังเกต ก่อนพากันเข้าร้องเรียนให้ตำรวจกองปราบปรามช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง

หลังรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5บก.ป. พ.ต.ท.พารินท จันทร์เลิศ พ.ต.ท.สุทธิชัย ไชยรัตน์ พ.ต.ท.ชัยฏิภูมิ อำนวยชัย พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา รอง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.มนต์ชัย เพ็งเลิศ สว.กก.5 บก.ป. เข้าสืบสวนข้อมูลใน เชิงลับ

กระทั่งได้ข้อมูลว่า ร่างทรง “เจ้าหญิงเมืองแก้ว” เป็นสาวประเภทสอง มีชื่อจริงว่า นายอาทิตย์ตยา แสนยาธรรมโฆษ อายุ 34 ปี เปิดสำนักทรงเจ้าเป็นเรือนไทยใหญ่โต ตั้งอยู่เลขที่ 134 ม.6 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ชักชวนเหยื่อซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีฐานะและพักอยู่ในต่างประเทศ เพื่อให้เข้ามาปฏิบัติธรรม โดยเริ่มจากการสอนธรรมะผ่านทางกลุ่ม “ไลน์” หลังจากผู้เสียหายหลงเชื่อ ก็จะหลอกให้เดินทางมาปฏิบัติธรรมที่ประเทศไทย

เมื่อเหยื่อหลงเชื่อไปเยือนสำนักปฏิบัติธรรมที่ จ.กาญจนบุรี ก็จะมีกลุ่มผู้ร่วมขบวนการทำตัวเป็นหน้าม้าคอยพูดโน้มน้าวให้เชื่อในอิทธิฤทธิ์ของเจ้าหญิงเมืองแก้ว พร้อมทั้งแสดงปาฏิหาริย์ต่างๆ การพูดก็ดัดเสียงได้หลายรูปแบบทั้งเสียงผู้หญิงและผู้ชาย หรือแม้แต่เสียงเด็ก

พร้อมหลอกล่อลวงถามข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อ ป้อนข้อมูลให้นายอาทิตย์ตยารู้ล่วงหน้า จนทำนายทายทักดวงชะตาของเหยื่อได้อย่างถูกต้องแม่นยำราวกับตาเห็น จนมีผู้หลงเชื่อจำนวนมาก

หลังจากเหยื่อมีความศรัทธามากจนถึงขั้นงมงาย ก็จะใช้คำสอนที่เข้าข่ายฉ้อฉล ฉ้อโกง ไม่ตรงกับหลักธรรมในพุทธศาสนา โดยอบรมบรรดาลูกศิษย์ว่าการทำบุญที่ดีที่สุด คือการทำทาน ยิ่งบริจาคทานมากเท่าไหร่ก็ยิ่งได้บุญมาก ยิ่งทำมากยิ่งได้มาก และต่อให้เงินที่นำมาทำบุญได้มาโดยการทุจริตก็ตาม ก็จะได้กุศลมากเช่นกัน และหากทำบุญสูงถึง 18 ล้านบาท กุศลก็จะส่งให้ถึงขั้นบรรลุโสดาบันได้ โดยไม่ต้องฝึกฝนสมาธิให้เสียเวลา

ทำให้บรรดาลูกศิษย์ต่างพร้อมใจประเคนทรัพย์สินให้มากมาย มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 90 ล้านบาท

เมื่อได้ความผิดครบถ้วน เจ้าหน้าที่จึงเดินหน้านำหลักฐานทั้งหมดส่งให้ศาลพิจารณา กระทั่งศาลจังหวัดกาญจนบุรีสั่งออกหมายจับในข้อหา “ฉ้อโกง”

จากนั้นตำรวจกองปราบฯ สนธิกำลังทหาร และตำรวจ บก.ภ.จว.กาญจนบุรี บุกสำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา

ภายในมีการสร้างอาคารที่พักลักษณะเป็นปูนและไม้ กว่า 10 หลัง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีอาคารปูนสูง 2 ชั้น ชั้นบนถูกแบ่งซอยเป็นห้องพักกว่า 10 ห้อง นอกจากนี้มีอาคารไม้ขนาดใหญ่เป็นเหมือนที่ปฏิบัติธรรม ภายในอาคารไม้ดังกล่าวมีการตกแต่งประดับประดาด้วยรูปภาพของผู้ที่เคยมาปฏิบัติธรรม รวมทั้งมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่

เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุม นาย อาทิตย์ตยาขณะกำลังเข้าทรง โดยมีลูกศิษย์ ลูกหากว่าร้อยคนรายล้อมให้ทำนายดวงชะตา ด้วยความศรัทธา ทำให้ทั้งหมดต่างตกตะลึงที่ทราบว่ากลายเป็นเหยื่อหลงเชื่อร่างทรงจอมลวงโลก

นอกจากร่างทรง “เจ้าหญิงเมืองแก้ว” จะถูกจับข้อหาฉ้อโกงแล้ว ยังถูกอายัดทรัพย์สินทั้งหมดที่ได้มาอย่างไม่ถูกกฎหมาย

นอกจากนั้นยังมีอีกหลายหน่วยงานแจ้งดำเนินคดีตามมาเป็นพรวน เพราะดันไปสร้างสำนักทรงในพื้นที่สาธารณ ประโยชน์ของแผ่นดิน และอยู่ในการดูแลของทหาร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน