เปิดคำพิพากษาศาล เจ้าสัวเปรมชัยโดนอีก คุก1ปี-คดีติดสินบน ได้ประกัน-สู้อุทธรณ์ : แฟ้มคดี

 

เปิดคำพิพากษาศาล เจ้าสัวเปรมชัยโดนอีก คุก1ปี-คดีติดสินบน ได้ประกัน-สู้อุทธรณ์ : แฟ้มคดี – เป็นคดีที่สังคมทั่วประเทศให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง สำหรับกรณีเจ้าสัวอิตาเลียนไทย เปรมชัย กรรณสูต ถูกจับกุมดำเนินคดีภายในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พร้อมซากเสือดำและไก่ฟ้า

ส่งตัวดำเนินคดีในข้อหาล่าเสือดำ ซึ่งศาลพิพากษาจำคุก 16 เดือน แต่ยกฟ้องเรื่องล่าเสือดำ

เป็นเรื่องที่ต้องต่อสู้กันในชั้นอุทธรณ์

ขณะเดียวกันอีกคดีที่สังคมให้ความสนใจไม่แพ้กัน ก็คือเรื่องการติดสินบน ที่นายเปรมชัยเสนอให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า

เปิดคำพิพากษาศาล เจ้าสัวเปรมชัยโดนอีก คุก1ปี-คดีติดสินบน ได้ประกัน-สู้อุทธรณ์ : แฟ้มคดี

เปรมชัยได้ประกัน

ล่าสุดศาลอาญาคดีทุจริต ก็มีคำพิพากษาให้จำคุก 1 ปีไม่รอลงอาญา

เพราะมีพฤติกรรมเชื่อได้ว่าพยายามติดสินบน เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีจริง

โดยที่เจ้าตัวยื่นหลักทรัพย์เงินสด 2 แสนบาทประกันตัว

ต่อสู้อีกครั้งในชั้นอุทธรณ์

ก็ต้องรอดูว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร

● คุก 1 ปีเปรมชัยติดสินบน

ช่วงสายวันที่ 11 มิ.ย. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อท.10/2561 คดีหมายเลขแดงที่ อท.13/2562 ระหว่างพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 7 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1 และนายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 ในคดีติดสินบนเจ้าพนักงาน จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

โดยศาลพิเคราะห์แล้ว สำหรับนาย เปรมชัย จำเลยที่ 1 โจทก์มี นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เป็นประจักษ์พยาน เบิกความยืนยันข้อความที่จำเลยที่ 1 พูดต่อนายวิเชียรว่า “จะให้นายนพดล พฤกษะวัน มาเคลียร์ มีหนทางช่วยเหลือกันได้ไหม มีเงื่อนไขอะไรไหม ถ้าปล่อยพวกผมอยากได้อะไร ผมก็จะหามาให้”

ขณะที่พยานโจทก์ปากอื่นเบิกความสนับสนุนว่าจำเลยที่ 1 พูดข้อความดังกล่าวต่อนายวิเชียร เมื่อพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 1 พูดต่อนายวิเชียร ภายหลังที่ถูกจับขณะที่มีการสอบถามข้อเท็จจริงภายในอาคารนิทรรศการและศูนย์บริการของสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ที่ควบคุมจำเลยที่ 1 กับพวกไว้

เห็นว่าเป็นสถานที่ไม่กว้าง ไม่มีเสียงแวดล้อมอื่นใดรบกวน การพูดในขณะที่ถูกควบคุมตัวอยู่นั้น จำเลยที่ 1 และนายวิเชียรกับพยานโจทก์ย่อมอยู่ใกล้กัน มีโอกาสได้ยินข้อความที่พูด ทั้งข้อความดังกล่าวเป็นข้อความที่สั้นๆ ไม่ยืดยาว ย่อมอยู่ในวิสัยที่น่าจะจดจำได้

 

ประกอบกับพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 1 พูดหลังจากที่ตนเอง โดนจับ แม้ข้อความจะไม่ได้ระบุว่าจะให้อะไรโดยตรงก็ตาม แต่ก็น่าจะสื่อได้ว่าจำเลยที่ 1 ต้องให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด เป็นการตอบแทน เพื่อให้ปล่อยตัวจำเลยที่ 1 ไป การกระทำของจำเลยที่ 1 นั้น มีลักษณะเป็นการ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด แก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ อันมิชอบด้วยอันเป็นความผิดฐานให้สินบนแก่ เจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ตามฟ้องโจทก์

ส่วนจำเลยที่ 2 ได้พูดคุยกับพยานโจทก์ 2 คน คือนายจิตติ สวัสดิ์สาย นายศุภกิต พรหมมี เป็นการสนทนาพูดคุยในระหว่างกันเองโดยลำพังเท่านั้น ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ร่วมรู้เห็นด้วยแต่ประการใด จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดตามฟ้อง

พิพากษาจำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 จำคุก 1 ปี ให้นับโทษต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญา หมายเลขแดงที่ อ.63/2562 ของศาลจังหวัดทองผาภูมิ

ขณะที่จำเลยที่ 2 ยกฟ้อง

หลังรับฟังคำพิพากษา ทนายนาย เปรมชัยยื่นหลักทรัพย์ 2 แสนบาท ศาลอนุมัติให้ประกัน โดยระบุห้ามเดินทางออกนอกประเทศหากไม่ได้รับอนุญาต

สู้คดีชั้นอุทธรณ์

รอตัดสินอีก-คดีมีงาช้าง

ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่าเป็นคดีตัวอย่างที่ยืนยันได้ว่ากฎหมายไม่ได้เลือกปฏิบัติ คำกล่าวที่เป็นอคติต่อกระบวนการยุติธรรม ที่ว่า “คุกมีไว้ขังแต่คนจน คนรวยไม่ติดคุก ควรเลิกคิดกันได้แล้ว ทุกคนไม่ว่าจะมีฐานะทางสังคมเช่นไร ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน มีสิทธิ์ และเสมอภาคเท่าเทียมกันตามกฎหมาย”

สำหรับคดีของนายเปรมชัย ที่ยังไม่ได้พิพากษามี 2 คดี 1.คดีครอบครองงาช้างแอฟริกา 2 คู่(4 กิ่ง) ไว้ในครอบครองฯ โดยพนักงานอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 ยื่นฟ้องนางคณิตดา กรรณสูต อายุ 64 ปี ภรรยาของนายเปรมชัย จำเลยที่ 1, นายเปรมชัย จำเลยที่ 2, น.ส.วันดี สมภูมิ(แม่บ้าน) อายุ 71 ปี จำเลยที่ 3 ฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง(งาช้าง) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันนำหรือพาของที่ยังไม่ได้เสียภาษี ของต้องห้ามซ่อนเร้นเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาหรือรับไว้โดยประการใดๆ ที่รู้ว่าเป็นของนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้ามฯ (ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560)

ซึ่งคดีนี้ศาลอาญากำหนดนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 8-9 ส.ค. และสืบพยานจำเลยในวันที่ 13-14 ส.ค.เช่นกัน

2.คดีครอบครองอาวุธปืนไรเฟิลโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 ยื่นฟ้องนายเปรมชัย(มีอาวุธปืนยาวไรเฟิล 3 กระบอก และปืนแก๊ป 1 กระบอกไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตภายในบ้านพักเลขที่ 12/3 ซ.ศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.) ศาลอาญา กำหนดนัดสืบพยานเริ่มวันที่ 9 ก.ค.นี้

เปิดคำพิพากษาศาล เจ้าสัวเปรมชัยโดนอีก คุก1ปี-คดีติดสินบน ได้ประกัน-สู้อุทธรณ์ : แฟ้มคดี

ลุ้นต่อคดีงาช้าง

เป็นวิบากกรรมทางคดีของเจ้าสัว

● ย้อนคดีเก่า-จำคุก 16 เดือน

สำหรับเหตุการณ์นี้สืบเนื่องจากกรณีที่นายเปรมชัย พร้อมคณะพรานบรรดาศักดิ์ ถูกเจ้าหน้าที่ทุ่งใหญ่นเรศวรจับกุมคาแคมป์พักภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เมื่อวันที่ 5 ก.พ.2561 โดยพบซากสัตว์ไก่ฟ้าหลังเทา และซากเสือดำอยู่ภายในแคมป์

เปิดคำพิพากษาศาล เจ้าสัวเปรมชัยโดนอีก คุก1ปี-คดีติดสินบน ได้ประกัน-สู้อุทธรณ์ : แฟ้มคดี

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวดำเนินคดี และส่งฟ้องจำเลยทั้งหมด 4 คน ในข้อหา 1.ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่า 5.ร่วมกันซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่า อันได้มาโดยกระทำผิดกฎหมาย 6.ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต

ขณะที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิอ่านคำพิพากษาคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2562 พิพากษาให้นายเปรมชัยถูกลงโทษข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 8 เดือน ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไก่ฟ้าหลังเทา ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 เดือน

รวมจำคุก 16 เดือน โดยไม่รอลงอาญา

แต่ยกฟ้องในข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง(เสือดำ)

โดยให้เหตุผลว่า นายเปรมชัย และพวกเดินทางไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เมื่อวันที่ 3 ก.พ. จากนั้นตั้งแคมป์ค้างแรมภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า

ต่อมาวันที่ 4 ก.พ. ช่วงเช้านายเปรมชัยออกเดินชมธรรมชาติ และขับรถท่องเที่ยวไปคนเดียวจนถึงด่านเซซาโว่ และกลับมาถึงแคมป์ที่พักในช่วงบ่าย กระทั่งช่วงเย็น เจ้าหน้าที่ 4 คนมาที่แคมป์พัก แจ้งว่าไม่สามารถพักในที่ดังกล่าวได้

นายเปรมชัยแจ้งว่าขอพักอีก 1 คืน แล้วจะกลับ เจ้าหน้าที่จึงขับรถไปวิทยุหานายวิเชียร เพื่อแจ้งให้ทราบ

ขณะนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบนายธานี ทุมมาศ นายพราน ใช้ปืนยาวยิงกระรอก จึงสั่งให้หยุด และให้กลับมาที่แคมป์

ซึ่งจากการนำสืบพบว่านายเปรมชัย ไม่ได้อยู่ขณะที่นายธานีจะยิงกระรอก แสดงให้เห็นพฤติกรรมการออกล่าสัตว์ ของนายธานีว่า มักจะออกล่าสัตว์ตาม ลำพัง

เปิดคำพิพากษาศาล เจ้าสัวเปรมชัยโดนอีก คุก1ปี-คดีติดสินบน ได้ประกัน-สู้อุทธรณ์ : แฟ้มคดี

หนังเสือดำ

ประกอบกับโจทก์ไม่มีพยานแวดล้อม ให้เห็นว่านายเปรมชัย และนายยงค์ อยู่กับนายธานีขณะยิงเสือดำ หรือช่วยเหลือในลักษณะแบ่งงานกันทำ จึงฟังไม่ได้ว่าทั้งคู่เข้าร่วมขณะกระทำความผิด จึงฟังไม่ได้ว่าเป็นตัวการกระทำความล่าเสือดำ แต่ที่นายเปรมชัยให้นายธานีใช้ปืนยาวลูกซอง แฝดของกลาง ย่อมต้องรู้ว่าจะนำไปใช้ ล่าสัตว์ ถือเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวก อันเป็นผู้สนับสนุนการกระทำ ความผิด

นายเปรมชัยจึงมีความผิดฐานสนับสนุน แต่หลุดคดีล่าและครอบครองเสือดำ

จนชั้นต้น มาถึงชั้นอุทธรณ์ ยังต้องสู้กันอีกยาว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน