ปิดฉาก‘ปุ๊กกี้ชาลาล่า’ ทลายแก๊งยาข้ามชาติ ตะลึงเงินหมุน 10 ล้าน สอบโยงดาราพัวพัน
คอลัมน์ แฟ้มคดี
ปิดฉาก‘ปุ๊กกี้ชาลาล่า’- ข่าวดังสนั่นสังคมขึ้นมาทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. บุกขยายผลจับกุมแก๊งยาเสพติดข้ามชาติ
โดย 1 ในกลุ่มผู้ต้องหาคืออดีตนักร้องสาว ปุ๊กกี้-ปริศนา พรายแสง ซูเปอร์สตาร์ในยุค 90
ที่เปลี่ยนเส้นทางจากนักร้องดังสู่เส้นทางสายยาเสพติด ถึงขั้นร่วมค้า และอาจถึงขั้นร่วมผลิตเสียด้วยซ้ำ
ซึ่งไม่ใช่ดารานักร้องรายแรกที่จะต้องหมดอนาคตเพราะยาเสพติด
โดยเจ้าตัวจะร่ำไห้ยอมรับว่าเสพยานรกมานานนับสิบปี แม้จะพยายามเลิกแต่ก็ทำไม่ได้ จนทำลายครอบครัวเสียหาย
ก่อนตัดสินใจเข้าสู่วงการซื้อขายยาเสพติดเพราะต้องการเงินมาใช้จ่ายส่วนตัว โดยหากทำสำเร็จจะได้ค่าจ้างถึง 7 แสนบาท
และจากการตรวจสอบบัญชี พบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีปุ๊กกี้กว่า 10 ล้านบาท
แน่นอนว่าขั้นตอนต่อไปก็คือการสืบสาวเส้นทางการเงิน ซึ่งเบื้องต้นพบมี 4 ดาราพัวพัน
สาวดูว่าจะเกี่ยวพันกับธุรกิจมืด หรือเป็นการโอนเงินในเรื่องอื่น
จับ‘ปุ๊กกี้’นักร้องดังค้ายาเค
สำหรับเหตุการณ์จับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. โดย เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด บุกเข้าจับกุม นายฮุง เฉิงอี้ อายุ 28 ปี ชาวไต้หวัน ได้ที่ห้องพัก 318 โรงแรมโกลด์ แอร์พอร์ตสูท เลขที่ 1288/9 แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กทม. พร้อมของกลางเคตามีน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 5,170 กรัม บรรจุถุงใส ซุกซ่อนในที่เขี่ยบุหรี่ 39 ชิ้น ในกล่องกระดาษ
สอบสวนให้การซัดทอดผู้ร่วมขบวนการ จึงติดตามไปจับกุม นายชลวิทย์ คีตะตระกูล อายุ 49 ปี และ น.ส.พริสซิลลา จิวเมลลี่ หรือ ปุ๊กกี้-ปริศนา พรายแสง อดีตนักร้องดัง ซึ่งทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน ที่บ้านพักเลขที่ 18/118 หมู่บ้านเดอะเทอร์เรส ซ.รามอินทรา 65 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.
พร้อมตรวจยึดของกลางยาเสพติดที่พบภายในบ้าน ประกอบด้วยไอซ์ 98.3 กรัม ยาบ้า 8 เม็ด ยาอี 10 เม็ด เคตามีน 10 กรัม กัญชาแห้ง 40 กรัม และสารเคมีหลายชนิด พร้อมอุปกรณ์ที่เชื่อว่าจะใช้ผลิตยาเสพติด
พร้อมส่งผู้ต้องหาทั้งสาม ทำบันทึกจับกุมที่สำนักงานป.ป.ส. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แล้วส่งตัวไปควบคุมตัวที่ บช.ปส.
ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่ บช.ปส. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. รุดสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน พร้อมเปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลว่า นายฮุง เฉิงอี้ ชาวไต้หวัน จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เพื่อลักลอบยนำยาเสพติดออกนอกประเทศ จึงเฝ้าติดตามตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา
จนกระทั่งพบว่า นายฮุง เฉิงอี้ เข้าพักที่โรงแรมย่านลาดกระบัง จากนั้นนายชลวิทย์ก็เช่าห้องพักในโรงแรมเดียวกัน โดยนำกระเป๋าสัมภาระและกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไปเก็บไว้ในห้องดังกล่าว ก่อนจะออกมาพร้อมกล่องกระดาษใบใหญ่แล้วเดินทางกลับบ้านพักไป
ต่อมานายฮุง เฉิงอี้ เข้าไปเอาสัมภาระในห้องพักที่นายชลวิทย์เปิดไว้ พร้อมฝากให้เจ้าหน้าที่โรงแรมส่งพัสดุจำนวนมากไปยังไต้หวัน ในช่วงเช้าวันที่ 18 มิ.ย. กระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 17 มิ.ย. บริษัทจัดส่งเข้ามารับพัสดุ นายฮุง เฉิงอี้ ออกมาชำระเงิน
ชุดจับกุมจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพัสดุดังกล่าว ภายในพบเคตามีน 5,170 กรัม บรรจุถุงใสในที่เขี่ยบุหรี่แบบตลับกลม ใส่ในลังกระดาษ 4 กล่อง กล่องละ 10 ชิ้น รวม 39 ชิ้น
สอบสวนซัดทอดไปถึงนายชลวิทย์ และปุ๊กกี้ จึงขยายผลตรวจค้นบ้านพักของทั้งสอง ที่หมู่บ้านเดอะเทอร์เรส ย่านรามอินทรา ก่อนพบยาเสพติดหลายชนิด
อย่างไรก็ตาม ในการตรวจค้นบ้านพักพบเบ๊กกิ้งโซดา 4 กล่อง ซึ่งพบว่าสามารถนำไปผสมยาเสพติดเพื่อเพิ่มปริมาณ และนำไปต้มกับแอลกอฮอล์เพื่อแปรรูปยาเสพติดให้ตกผลึก เพื่อง่ายต่อการขนส่ง แต่ยังต้องตรวจสอบว่าเบ๊กกิ้งโซดาดังกล่าวสามารถใช้กับเคตามีนได้หรือไม่
โดยแจ้งข้อหาทั้งสาม ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย ขณะที่ปุ๊กกี้ ปริศนา กับนายชลวิทย์โดนข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 ไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเพิ่มด้วย
ปิดฉากอดีตนักร้องดัง
พบเงินหมุนเวียน 10 ล.-พัน 4 ดารา
ขณะที่การสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพ โดยปุ๊กกี้ระบุว่า รับหน้าที่ประสานกับลูกค้าชาวไต้หวัน โดยนำยาเสพติดจากผู้ค้าย่านโชคชัย 4 มาบรรจุที่บ้านพัก ทำมานานกว่า 1 ปีแล้ว แต่ยืนยันว่าไม่ได้ผลิตยาเสพติดเอง ส่วนนายฮุง เฉิงอี้ ระบุว่ารับหน้าที่เพียงขนยาเสพติดข้ามประเทศไปส่งให้ลูกค้าเท่านั้น ไม่เกี่ยวพันกับขบวนการแต่อย่างใด
โดยปุ๊กกี้ระบุว่า รับยาเสพติดมาจากเครือข่ายในพื้นที่โชคชัย 4 ในราคากิโลกรัมละ 350,000-370,000 บาท เพื่อนำมาปล่อยต่อ ในราคากิโลกรัมละ 550,000 บาท กระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
นอกจากนี้ยังยอมรับว่าติดยาเสพติดมาร่วม 10 ปี พยายามจะเลิกแต่ไม่สามารถจะเลิกได้ จนทำให้ตัวเองเบลอ และกระทบต่อการชีวิตหลายด้าน และครอบครัว ลูกแยกคนละทาง ยอมรับสิ่งที่ได้กระทำไป ซึ่งส่งผลกระทบให้ลำบากตอนนี้และมีผลถึงอนาคต
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่านายชลวิทย์เคยถูก จำคุกคดีค้ายาเสพติด และพ้นโทษเมื่อปี 2549 แต่สำหรับปุ๊กกี้ ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม นอกจากนี้ยังพบว่าเส้นทางการเงินของปุ๊กกี้มีเงินหมุนเวียนนับ 10 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่ามีทั้งเงินที่ได้จากยาเสพติด และเงินจากวงการบันเทิง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าเชื่อมโยงถึง ใครบ้าง
ส่วนกลุ่มเพื่อนสนิทและบุคคลใกล้ชิด 3-5 คน ที่อาจจะเป็นดาราที่ติดต่อและพบปะกันเป็นประจำ ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบความเชื่อมโยงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องใน การเสพยาเสพติด หรือร่วมกันค้ายาเสพติดหรือไม่
หากพบก็จะดำเนินคดีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคนในหรือนอกวงการบันเทิง
ล่าสุดพบแล้วว่ามี 4 ดาราที่โอนเงินเข้าบัญชีปุ๊กกี้ อยู่ระหว่างเร่งสอบสวนว่าเกี่ยวพันกับเรื่องยาเสพติดหรือไม่
ส่วนข้อมูลของเจ้าหน้าที่ทราบว่าเครือข่าย ยาเสพติดไต้หวัน มักประสานพ่อค้ายาชาวไทยมานานแล้ว โดยก่อนหน้านี้พุ่งเป้าที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ และจะส่งคนไต้หวันมาดำเนินการเองทุกขั้นตอนเพื่อป้องกันความผิดพลาด และหากสินค้าส่งไปถึงไต้หวันแล้ว มูลค่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีกกว่า 10 เท่าตัว
นอกจากนี้ยังจะเร่งประสานกับไต้หวัน เนื่องจากสืบทราบว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการอีกคน ซึ่งเป็นนายทุนบินมาตรวจสอบสินค้าแล้วบินกลับไปก่อน
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดา เพื่อขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-30 มิ.ย. เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก รวมทั้งรอผลตรวจพิสูจน์ยาเสพติดของกลาง พร้อมคัดค้านประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง หากประกันตัวเกรงจะหลบหนีและทำอันตรายและสร้างความเสียหายแก่พยานหลักฐานใน คดี
ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้งสามไม่ได้ยื่นคำร้องขอ ปล่อยตัวชั่วคราว เจ้าหน้าที่คุมตัวนายฮุง และนายชลวิทย์ ไปที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ขณะที่ปุ๊กกี้ถูกคุมตัวไปยังทัณฑสถานหญิงกลาง
นอนคุกทันที
ย้อนรอยดารายาเสพติด
อย่างไรก็ตาม ปุ๊กกี้ไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์รายแรกที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยก่อนหน้านี้ก็มีกรณีของนักร้องดัง แพท พาวเวอร์แพท หรือ นายวรยศ บุญทองนุ่ม ที่ถูกจับในข้อหาเสพและจำหน่าย ยาอี เมื่อวันที่ 6 พ.ค.2547 และถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 50 ปี ปรับ 1 ล้านบาท
อีกคนคือ จอยซ์ ไทรอัมพ์คิงดอมส์ หรือ พรพรรณ รัตนเมธานนท์ ถูกจับกุมข้อหามียาบ้าไว้เพื่อจำหน่ายพร้อมกับแฟนหนุ่ม เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2547 ศาลพิพากษาจำคุก 8 ปี 1 เดือน พ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 8 ต.ค.2556 พร้อมกลับสู่วงการบันเทิง และประกาศไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก
ยู่ยี่ อลิสา อินทุสมิต อดีตดารานางแบบ ก็ถูกจับข้อหาพกโคเคน 5 ม.ก.เข้าประเทศ เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2555 ถูกตัดสินจำคุก 15 ปี 3 เดือน
รายล่าสุดที่เป็นข่าว คือดาราระดับนางเอก เอมี่ อาเมเรีย จาคอป ถูกตำรวจจับกุมภายในบ้านพักพร้อมแฟนหนุ่ม เมื่อ ก.ย.60 พร้อมไอซ์และยาอี แต่ต่อมาในเดือนส.ค.61 ศาลตัดสินยกฟ้อง ในข้อหาครอบครองยาไอซ์ เหลือเพียงข้อหาเสพเท่านั้น ก่อนได้รับการปล่อยตัว ออกมา
สำหรับปุ๊กกี้ เกิดเมื่อวันที่ 26 พ.ค.2522 ปัจจุบันอายุ 40 ปี เป็นลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย มีชื่อภาษาอังกฤษว่า พริสซิลลา จิวเมลลี่
เริ่มผลงานแรกในวงการบันเทิงด้วยการแสดงมิวสิคซีรีส์ในอัลบั้มชุดแรกของหนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์ ในช่วงต้นปี พ.ศ.2538
ปี 2539 ปุ๊กกี้ มีผลงานเพลงอัลบั้มแรก ในชื่ออัลบั้ม Pookie ถือว่าเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก มียอดขายถึงล้านตลับ
ปี 2540 ปุ๊กกี้ออกอัลบั้มพิเศษ Wowderful และทำให้เพลงฮิตเช่น SHA-LA-LA-LA กลายเป็นเพลงประจำตัว และกลายเป็นชื่อต่อท้าย ว่า ปุ๊กกี้ ชาลาล่า ซึ่งอัลบั้มพิเศษนี้เธอก็คว้าล้านตลับไปครองด้วยเช่นกัน เรียกว่าเป็นนักร้องยุค 90 ที่ประสบความสำเร็จมาก คนหนึ่ง
แต่ชีวิตพลิกผัน เมื่อตั้งครรภ์ทั้งที่อายุเพียง 16 ปีเท่านั้น ทั้งที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดังมากในวงการเพลงขณะนั้น โดยเธอแต่งงานครั้งแรกกับ ต๋อง สุรพันธ์ จำลองกุล อดีตนักร้องวงทู จนหย่าร้างกันเมื่อกลางปี 2547
ก่อนที่อดีตนักร้องดังได้แต่งงานครั้งที่ 2 กับ เอ้ ปาณสาร จันทร์หอม และได้ไปตั้งรกรากที่ประเทศออสเตรเลีย แต่แต่งงานได้ 4 ปี กว่าก็หย่าขาดกับสามี
ย้ายกลับมาประเทศไทยทำธุรกิจส่วนตัว ก่อนจะแต่งงานครั้งที่ 3 กับพ่อม่ายลูกติดนักธุรกิจส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูป อายุห่างกัน 11 ปี และมีลูกด้วยกัน 1 คน
สุดท้ายถูกจับกุมข้อหาเสพและค้ายาเสพติด
ทำชีวิตหมดอนาคต
- อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
ปุ๊กกี้ ยังมึนๆ เบลอๆ ในคุก ฤทธิ์เสพยาตกค้างก่อนโดนจับ ส่งนักโทษประกบเข้ม
ระทึก!หมายจับจ่ออีก คนไทยร่วมแก๊ง ‘ปุ๊กกี้ ชาลาล่า’ ลุยยึดทรัพย์คนใกล้ชิด
ช็อกอีก!! ตร.รวบนางเอกดัง‘เอมี่ อาเมเรีย’คาบ้าน ขณะเสพไอซ์พร้อมแฟนหนุ่ม(คลิป)
ปิดคดี-คุก15ปี “ยู่ยี่”ขนโคเคน “ศาลฎีกา” ยกคำร้อง ติดมาแล้ว 2ปี9เดือน ปรับ1.5ล.