คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
วันชัย พูลเพิ่มพันธ์
ยุวนิต สังวาลพานิช
เรื่อง/ภาพ
การมีทายาทสืบทอดสายเลือด ไม่ว่าจะขยายวงศ์ตระกูล หรือเติมเต็มความสมบูรณ์ของชีวิตครอบครัว เป็นสิ่งที่ทุกปุถุชนล้วนคาดหวัง
แต่อาจด้วยเหตุปัจจัยหลายๆ อย่าง ทำให้ผู้คนส่วนหนึ่งได้แต่รอคอยต่อไป หากเป็นผู้มีทุนทรัพย์ก็สามารถปรึกษาแพทย์ใช้วิทยาการอันทันสมัย เพื่อให้กำเนิดลูกรักมาสู่อ้อมอก
แต่คงไม่มีใครเหมือนสาวชาวนครปฐมรายหนึ่ง ที่ก่อเหตุฉกเด็กทารกแบเบาะอายุเพียงไม่กี่วันถึงในโรงพยาบาลใหญ่กลางวันแสกๆ
คดีนี้เกิดขึ้นในช่วงบ่าย วันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา เมื่อ ร.ต.ท.ประเวช ผิวอ่อน รอง สวป.สภ.เมืองนครปฐม พร้อม ด.ต.ไพโรจน์ ฮวดจั่น และ จ.ส.ต.วัฒนา พิมพา ผบ.หมู่ป. กำลังออกตรวจท้องที่รับผิดชอบเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรม
ทั้งสามนายก็ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.เมืองนครปฐมว่า เกิดเหตุคนร้ายบุกลักพาตัวทารกเพศชาย วัย 4 วัน กลางร.พ.นครปฐม จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบทันที พร้อม พ.ต.ต.ณัฐพงศ์ อำไพจิตร สว.สส. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
เหตุเกิดที่บริเวณห้องคลอดชั้น 3 อาคารทวารวดี ร.พ.นครปฐม พบ นายมิน ทัต อายุ 48 ปี แรงงานต่างด้าวชาวพม่ายืนรอเจ้าหน้าที่อยู่
นายมินให้การว่า ภรรยามาคลอดลูกชายตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา และพบกับหญิงคนร้ายมาทำทีพูดคุยจนสนิทสนม
กระทั่งก่อนเกิดเหตุแพทย์ให้ภรรยาพาลูกกลับไปดูแลต่อที่บ้านพักได้ ในเวลา 11.30 น. ผู้หญิงคนดังกล่าวยังไปส่งถึงบ้านพักที่อยู่หลังวัดธรรมศาลา
แต่ต่อมาช่วงบ่าย ผู้หญิงคนดังกล่าวย้อนกลับไปที่บ้านบอกว่าหมอให้พาเด็กไปฉีดยา นายมินจึงหลงเชื่ออุ้มลูกมาพร้อมกับผู้หญิงคนดังกล่าว แต่ขณะจ่ายค่าแท็กซี่หญิงดังกล่าวกลับพาลูกหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบหญิงคนดังกล่าวอุ้มทารกห่อด้วยผ้าขนหนู ออกไปทางประตูทางออกข้างโรงพยาบาล ไปฝั่งโรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังออกสืบหาเบาะแสะ
เพียงวันเดียวในวันที่ 13 มี.ค. ชุดสืบสวนก็ได้ข้อมูลจากกล้องวงจรปิดตามข้างทางและร้านค้าหลายแห่ง จนตามไปถึงแหล่งกบดานของคนร้าย ที่บ้านพักคนงานก่อสร้างภายในโกดังเก็บของริมถนนไผ่เตยใต้ ต.ห้วยจระเข้ อ.เมืองนครปฐม
นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผวจ.นครปฐม พร้อม พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.ภาค 7 พ.ต.อ.อนุพันธ์ จันทร์พฤกษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.เมืองนครปฐม นำกำลังพร้อมชุดสืบสวนไปตรวจสอบทันทีหลังได้รับรายงาน
ภายในบ้านหลังดังกล่าวพบ น.ส.สุนีภร ศักดา อายุ 34 ปี ชาว ต.บ่อพลับ อ.เมือง จ.นครปฐม คนร้ายที่ก่อเหตุ และสามีอายุ 22 ปี ชาวจ.พิจิตร กำลังนั่งหยอกล้อเล่นอยู่กับเด็กทารกคนดังกล่าวอย่างมีความสุขอยู่บนเตียง รอบตัวมีทั้งนม แป้ง ของเล่นและของใช้สำหรับเด็กวางอยู่จำนวนหนึ่ง
น.ส.สุนีภรถึงกับหน้าซีดเผือด ด้วยไม่คิดว่าตำรวจจะแกะรอยตามมาได้เร็วขนาดนี้ เจ้าตัวให้การสารภาพทั้งน้ำตาว่า สาเหตุที่ทำลงไปเพราะทำหมันมานานกว่า 7 ปี หลังมีลูก 2 คน ตั้งแต่อยู่กินกับสามีเก่า
กระทั่งมาพบรักกับสามีใหม่ที่อายุเพียง 22 ปี ได้ประมาณ 1 ปี และกลัวว่าจะถูกสามีทิ้งจึงโกหกว่าตั้งท้องเพื่อผูกมัดสามีไว้ จนสามีเริ่มสงสัยว่าท้องแต่ท้องไม่ใหญ่เสียที จนต้องเอาผ้ามาห่อท้องแล้วบอกว่าหมอนัดไปคลอด
จากนั้นไปร.พ.นครปฐม ในวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา แฝงตัวอยู่ภายในห้องพักฟื้นผู้ป่วยเพิ่งคลอด พบกับสองสามีภรรยาที่เพิ่งคลอดลูก จึงเข้าพูดคุยตีสนิทคอยดูแลและช่วยอำนวยความสะดวก
กระทั่งสบโอกาสในวันที่ 12 มี.ค. เมื่อแพทย์อนุญาตแม่ของเด็กกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ จึงขอติดตามขึ้นรถแท็กซี่ไปด้วย อ้างว่าอยากจะไปส่งและรักเอ็นดูเด็กเหมือนลูก ก่อนออกอุบายว่าแพทย์ติดต่อกลับมาให้นำเด็กไปฉีดยาเพราะไม่แข็งแรง
ก่อนออกอุบายอุ้มเด็กหนี ขณะที่พ่อเด็กซึ่งกำลังจ่ายค่าแท็กซี่อยู่หน้าโรงพยาบาล โดยขึ้นรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์รับจ้างหลายทอด วนเวียนให้ไปส่งตามจุดต่างๆ หลายแห่ง
จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้า และนำชุดที่สวมขณะก่อเหตุทิ้งถังขยะใกล้ตลาดนัดวัดลาดปลาเค้า ต.บางแขม อ.เมืองนครปฐม แล้วโทรศัพท์เรียกสามีมารับเข้าบ้าน
เมื่อสามีเห็นหน้าลูกก็ดีใจเลี้ยงเด็กโดยไม่รู้เลยว่าไม่ใช่ลูกของตนเอง จัดหานมและน้ำให้เด็กรับประทานเป็นอย่างดี กระทั่งถูกกุมตัวได้ในที่สุด
แม้พ่อและแม่เด็กจะไม่ติดใจเอาความ เพราะเห็นใจ แต่เมื่อเป็นคดีอาญา ตำรวจก็ต้องดำเนินคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์