คลี่ปมฆ่าน้องชายแดน ติวเตอร์โหดไม้ทุบดับ ตะลึงอ้างเป็นเทพเจ้า จัดพิธีวันชำระบาป’ : แฟ้มคดี

คอลัมน์ – แฟ้มคดี

เป็นความสูญเสียที่แสนจะเจ็บปวดของครอบครัว เมื่อลูกชายวัยเพียง 15 ปี ต้องจากไปก่อนวัยอันควร

ด้วยฝีมือของผู้ที่อ้างตัวเป็นครู ใช้อาวุธทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เพียงเพราะไม่ทำตามกฎระเบียบที่แสนเหี้ยมโหดของโรงเรียนกวดวิชา

รวมทั้งสั่งการให้กลุ่มลูกศิษย์ทำแทน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ไม้เบสบอลทุบตี จุดไฟลนอัณฑะ

สร้างกฎแปลกประหลาด เป็นการชำระบาป พร้อมข่มขู่จนเด็กนักเรียนไม่กล้าบอกผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สุดท้ายก็เกิดความสูญเสียอย่างที่ไม่สมควรเกิดขึ้น

และเมื่อตรวจสอบก็พบว่าเป็นสถานกวดวิชาเถื่อน ที่คิดค่าเรียนแพงมหาโหด แต่ไม่ได้มีมาตรฐานอะไร

เป็นบทเรียนและอุทาหรณ์ของครอบครัว ที่จะต้องพิจารณาให้รอบคอบ

ก่อนจะเชื่อใจให้ใครที่ไม่รู้จักดูแลบุตรหลานของตัวเอง

ผงะหนุ่ม 15 ถูกซ้อมดับ

เหตุสลดครั้งนี้ปรากฏเป็นข่าวเมื่อวันที่ 14 มิ.. โดย ...พิษณุ ทรัพย์สิน เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.. เวลา 21.00 . ขณะที่ลูกชายคือนายฐปกร ทรัพย์สิน หรือน้องชายแดน อายุ 15 ปี ที่พักอาศัยอยู่ในสถานกวดวิชาแห่งหนึ่ง เลขที่ 999/33 หมู่บ้านไอซ์แลนด์ 6 .วัดไทรย์ .เมือง .นครสวรรค์ ได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์

โดยจากการตรวจสอบพบบาดเจ็บ ศีรษะแตกเป็นแผลเย็บ 7 เข็ม แขนขวาหัก ด้านหลังมีรอยเขียวช้ำ อัณฑะมีร่องรอยไหม้เหมือนถูกไฟลน มีอาการช็อกหมดสติ อุจจาระและปัสสาวะเรี่ยราด

รักษาตัวอยู่ 5 วันในที่สุดก็เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 มิ.. โดยแพทย์ระบุว่าได้รับความบอบช้ำอย่างหนักที่อวัยวะภายนอกและภายใน และมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องร้องเรียน พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับแพทย์ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง และสอบสวนหาว่าในวันเกิดเหตุมีผู้ใดเกี่ยวข้องบ้าง

ขณะที่ผู้สื่อข่าวติดตามไปยังโรงเรียนกวดวิชาดังกล่าว พบว่าใช้ชื่อว่าโรงเรียนกวดวิชาบ้านพี่ณัฐ ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านไอซ์แลนด์ พบว่าเป็นบ้านเดี่ยวมีพื้นที่กว้างขวาง มีป้ายไวนิลขนาดใหญ่ติดอยู่ เขียนว่ากวดวิชาบ้านพี่ณัฐแขวนไว้ที่รั้วหน้าบ้านมีลานปูนซีเมนต์กว้างพอประมาณ มีอุปกรณ์การออกกำลังกายตั้งอยู่

สอบถาม รปภ.และคนในหมู่บ้านทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเปิดเป็นโรงเรียนกวดวิชา เพื่อเตรียมสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร โดยมีเด็กเข้ามาอยู่กินนอน ช่วงเย็นจะมีคนนำนักเรียนออกวิ่งรอบหมู่บ้านเพื่อออกกำลังกาย

โดยที่นายณัฐพล ถาวรพิบูลย์ อายุ 27 ปี เจ้าของสถาบันกวดวิชาดังกล่าว เปิดเผยว่า ทราบข่าวการเสียชีวิตของน้องชายแดนแล้ว โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการเล่นกันเองของกลุ่มนักเรียนในสถาบัน โดยเล่นกันในลักษณะรุมสกรัมเหมือนรักบี้ มีเด็กล้มทับกันเป็นชั้นๆ โดยน้องชายแดนอยู่ข้างล่างสุด

ต่อมาน้องชายแดนสะบัดหลุดออกมาได้ ก็วิ่งหนีขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน แล้วก็เกิดหมดสติไป ล้มลงหน้าบันได ศีรษะกระแทกกับบันไดจนหัวแตก แล้วนอนนิ่งไป จากนั้นเด็กนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็รีบมาแจ้งให้ตนทราบ จึงช่วยกันปฐมพยาบาล แล้วพาส่งโรงพยาบาล

ยืนยันเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งตนพร้อมให้การกับตำรวจ ไม่หลบหนีไปไหนแน่นอน

เป็นคำยืนยันจากติวเตอร์

หลักฐานมัดจับติวเตอร์

อย่างไรก็ตาม เมื่อกลายเป็นกระแสข่าวใหญ่ในสังคม ทุกภาคส่วนก็เข้ามาตรวจสอบ โดยศพของน้องชายแดนก็ถูกอายัดไว้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

นอกจากนี้ นายอรรถพง สิงหวิชัย ผวจ.นครสวรรค์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง รวมทั้งศึกษาธิการจังหวัด นำหมายค้นเข้าตรวจสอบสถาบันกวดวิชาบ้านพี่ณัฐ เพื่อตรวจสอบทั้งบันไดบ้าน ห้องพัก ห้องเรียน รวมทั้งสอบปากคำพยานแวดล้อม ทั้งเด็กที่ยังอยู่ในสถาบัน และนักเรียนที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือ พร้อมให้รายละเอียดถึงลักษณะนิสัย และการกระทำของนาย ณัฐพล ที่เป็นเจ้าของสถานกวดวิชา

ขณะที่นายชลำ อรรถธรรม เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ระบุว่า จากการตรวจสอบของศึกษาธิการจังหวัดนครสวรรค์ พบว่าสถาบันดังกล่าวไม่ได้จดทะเบียนกับคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ถือเป็นสถาบันเถื่อน ซึ่งต้องถูกดำเนินคดีแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่รวบรวมพยานหลักฐานแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็นำกำลังพร้อมหมายจับเข้าจับกุมนายณัฐพล ช่วงกลางดึกของวันที่ 17 มิ.. หลังรับทราบว่ากำลังเตรียมตัวจะหลบหนี และยังจับกุม ..พีรญา พละแสน อายุ 25 ปี ภรรยาของนายณัฐพล และ ..นงลักษณ์ พละแสน อายุ 54 ปี แม่ยายของนายณัฐพลด้วย

พร้อมแจ้งข้อหาทั้งสาม ว่าร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย

สำหรับสาเหตุที่นำกำลังเข้าจับกุมเนื่องจากพยานที่ เป็นศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันหลายปากให้การตรงกันว่า ผู้ต้องหาทั้งสามและลูกศิษย์อีก 4 คน เป็นคนที่ใช้ไม้เบสบอลรุมทำร้ายน้องชายแดนจนบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

และยังให้การอีกว่าหลังก่อเหตุได้สั่งให้ลูกศิษย์นำไม้เบสบอลที่ใช้ก่อเหตุไปโยนทิ้งใต้สะพานแม่น้ำปิง หมู่ 1 .วัดไทรย์ .เมือง .นครสวรรค์

ในที่สุดก็เจอหลักฐาน โดยเด็กชายวัย 12 ปีที่มาตกปลาใต้สะพานข้ามแม่น้ำดังกล่าวเป็นผู้พบ เนื่องจากเบ็ดที่หย่อนลงไปเกี่ยวถุงหุ้มไม้เบสบอลอะลูมิเนียม แต่ตอนที่ได้มาไม่รู้ว่าเป็นของใครเลยนำกลับบ้าน เมื่อทราบข่าวก็นำมาให้เจ้าหน้าที่

ขณะที่การสอบสวนทุกอย่างคืบหน้าเป็นลำดับ เมื่อลูกสมุนทั้ง 4 คนต่างให้การพฤติกรรมของนายณัฐพลไปในทิศทางเดียวกัน โดยระบุว่านายณัฐพลมีท่าทีแปลกๆ ทำตัวเหมือนเป็นคนมีองค์ อ้างตัวเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์

นอกจากนี้ยังระบุอีกว่าการทำร้ายน้องชายแดนไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้เคยทำร้ายน้องชายแดนจนหัวแตก แขนหัก แล้วนำไม้เบสบอลที่ก่อเหตุไปโยนทิ้งรอบแรก

ต่อมาก็รุมทำร้ายน้องชายแดนอีก คราวนี้บาดเจ็บหนักจนต้องส่งเข้าโรงพยาบาล โดยนายณัฐพลเป็นคนตีน้องชายแดนกว่า 20 ครั้ง เพราะไปเถียงกับแม่ยายของนายณัฐพล พร้อมบังคับลูกสมุนให้จับน้องชายแดนขึงพืดพร้อมนำไฟแช็กลนอัณฑะด้วย

เป็นพฤติกรรมรุนแรงเกินกว่าที่คนเป็นครูจะกระทำ

แฉสุดโหดวันชำระบาป

ไม่เพียงแค่นั้นจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันพร้อมกันตัวนักเรียนที่ร่วมก่อเหตุไว้เป็นพยาน เรื่องราวพฤติกรรมที่สุดแสนเหี้ยมโหดก็ยิ่งปรากฏชัดเจนขึ้น

โดยเด็กนักเรียนระบุว่า นายณัฐพลมักจะใช้อิทธิพลข่มขู่นักเรียนให้ยอมทำตาม ไม่เช่นนั้นจะทำร้ายร่างกาย และห้ามเอาเรื่องภายในสถาบันไปบอกใคร ทำให้นักเรียนหวาดกลัวอย่างหนัก โดยเด็กระบุอีกว่า เมื่อเข้าไปเรียนที่สถาบันแห่งนี้ก็ไม่ต่างกับการถูกจองจำ เด็กจะถูกยึดโทรศัพท์มือถือ

ผู้ปกครองที่จะเข้ามาเยี่ยมก็ต้องนัดวันล่วงหน้า แล้วถึงจะกำหนดวันพบ ซึ่งนายณัฐพลก็จะห้ามบอกความจริงกับ ผู้ปกครอง นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมคลั่งไสยศาสตร์ อ้างตัวเองเป็นร่างทรงเทพ จัดให้มีวันล้างบาป ให้เด็กนักเรียนแต่ละคนถือไม้เบสบอลมารวมกัน

หากเด็กในกลุ่มรายไหนทำความผิด หรือไม่ชอบใคร ก็จะให้เด็กใช้ไม้รุมทุบตีเด็กคนนั้น เพื่อชำระบาป ถ้าแค้นมากก็จะเจ็บมาก โดยน้องชายแดนเคยถูกทุบตีในวันล้างบาปแล้วหลายครั้ง โดยที่รุนแรงจนเสียชีวิตก็เพราะไปขอโทรศัพท์จากแม่ยายนายณัฐพล เพื่อติดต่อกับทางบ้าน แต่แม่ยายนายณัฐพลไม่ให้ใช้ น้องชายแดนเลยหลุดสบถคำหยาบออกมา

ทำให้นายณัฐพลโมโห สั่งทำร้ายอย่างรุนแรง แถมยังลงมือด้วยการใช้ไม้เบสบอลฟาดกว่า 20 ครั้ง

นอกจากนี้ เมื่อไปตรวจสอบสมุดบันทึกของน้องชายแดน ที่สถาบันกวดวิชาก็ต้องตกตะลึง เมื่อพบบันทึกของน้องชายแดน ที่เขียนถึงพ่อแม่ พร้อมระบายความในใจว่าการใช้ชีวิตอยู่ที่สถาบันกวดวิชาแห่งนี้เหมือนกับตกนรกทั้งเป็น

โดนซ้อม โดนทำร้ายจนอยากจะกลับบ้าน

น่าเสียดายที่จดหมายดังกล่าวถึงมือผู้ปกครองช้าเกินไป

ทั้งนี้ สำหรับนายณัฐพลนั้นสอบประวัติพบว่าเคยเป็นนักเรียนโรงเรียนนายเรือ แต่เรียนไม่จบ มาเปิดสถานกวดวิชาแห่งนี้ เมื่อปี 2560

ปีแรกๆ มีคนสอบติดโรงเรียนเตรียมทหารได้หลายคน จนเกิดความน่าเชื่อถือ

สุดท้ายก็ต้องสูญเสียอย่างไม่อาจหวนคืน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน