เจาะคดีสลดเมืองกรุงเก่า
วิสามัญฯอดีตสิบเอกทบ.
คลั่งยิงคู่ขานะยะ-สู้ตร.!!
คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
เจาะคดีสลดเมืองกรุงเก่า วิสามัญฯอดีตสิบเอกทบ. คลั่งยิงคู่ขานะยะ-สู้ตร.!! – ‘ความรัก’ ไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา หรือแม้แต่เพศสภาพ ไม่ว่าจะเป็นชายจริงหญิงแท้ หรือบุคคลร่วมเพศ แต่เมื่อความผูกพันเริ่มจืดจางผู้คนส่วนใหญ่เลือกที่จะใช้เวลาค่อยรักษาเยียวยาจิตใจ แล้วมองไปถึงอนาคตข้างหน้าเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนที่มีบุพเพสันนิวาสด้วยกันอย่างแท้จริง
ที่เกิดเหตุยิงสาวประเภทสองบาดเจ็บ
ขณะที่บางคนกลับยึดมั่นถือมั่นกลายเป็นความแค้นและชิงชัง กระทั่งทำในสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับคนที่เคยรักกันมาก่อน
เรื่องราวที่ขึ้นต้นด้วยความหวานซึ้ง แต่ต้องจบลงด้วยความตายครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา เมื่อ ร.ต.อ.บรรเจิด จองพิทักษ์พงษ์ รองสว.สอบสวน สภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ บริเวณคอสะพานวัดหัวหิน ริมแม่น้ำป่าสัก หมู่ 5 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
นำศพออกจากพงหญ้าไปชันสูตรพลิกศพ
หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ก่อนนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อม พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.ภ.จว.พระนคร ศรีอยุธยา พ.ต.อ.ภูวดิษ ชนะคชภัทร์ รองผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.วิโรจน์ วังวล ผกก.สภ.ท่าเรือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานบก.ภ.จว.พระนคร ศรีอยุธยา อัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แพทย์เวรโรงพยาบาลท่าเรือ และเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กท 6983 พระนครศรีอยุธยา ชนเสาไฟฟ้าข้างทางพังเสียหายด้านหน้า
ส่วนบริเวณหลุมในพงหญ้าข้างทางพบศพ ส.อ.มงกุฎ ทองชุม อายุ 36 ปี ชาว ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี สภาพสวมใส่เสื้อคอกลมสีดำกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน
ส.อ.มงกุฎ ทองชุม ผู้เสียชีวิต
ตรวจสอบพบถูกยิงเข้าที่ราวนมขวา 2 นัด บริเวณหน้าท้อง 1 นัด ที่มือขวายังกำปืนขนาด .38 ไว้แน่น เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมด ก่อนมอบศพให้ เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจนำส่งชันสูตรโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี
ผู้กำกับวิโรจน์เปิดเผยว่า เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ส.อ.มงกุฎได้ไปก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายคงศักดิ์ วงคง อายุ 27 ปี ชาว อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 4 นัด ถูกบริเวณท่อนแขนและขาได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณปากซอยยางนม 1 ชุมชนบ้านยางนม ห่างจากจุดวิสามัญฆาตกรรมไม่ไกลนัก
หลังรับแจ้งเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.ท่าเรือ พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจรีบเดินทางไปตรวจสอบและได้วิทยุสกัดจับ พร้อมกระจายกำลังติดตามรถยนต์โตโยต้า วีออส ที่ผู้เสียชีวิตใช้เป็นยานพาหนะหลบหนี
กระทั่งส.อ.มงกุฎขับรถคันดังกล่าวสวนทางมา พยายามสกัดจับ แต่ผู้ตายขับหลบหนีทำให้รถเสียหลักชนเสาไฟฟ้าและตอไม้ข้างทางจนไปต่อไม่ได้ จึงวิ่งลงจากรถลงไปใน พงหญ้าข้างทางซุกตัวหลบอยู่ในหลุมดังกล่าว
ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังปิดล้อมเพื่อเกลี้ยกล่อมให้ออกมามอบตัว ส.อ.มงกุฎกลับใช้อาวุธยิงใส่ เจ้าหน้าที่เพื่อเบิกทางหลบหนี ทำให้ เจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจใช้อาวุธปืนพกประจำกายยิงตอบโต้ป้องกันตัว เป็น เหตุให้ส.อ.มงกุฎเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนทราบว่า ส.อ.มงกุฎ อดีตเคยรับราชการทหารสังกัดกองทัพบก แต่ลาออกมาหลายปีแล้ว และมาติดพันกับนายคงศักดิ์ซึ่งเป็นสาวประเภทสองมาได้ประมาณ 1 ปี
ก่อนก่อเหตุ ส.อ.มงกุฎทะเลาะกับนายคงศักดิ์คนรักอย่างรุนแรง ทำให้นายคงศักดิ์ขี่รถจักรยานยนต์หนีออกจากบ้านพักตั้งแต่ช่วงเช้า
ส.อ.มงกุฎจึงขับรถเก๋งคันดังกล่าวไปจอดซุ่มอยู่หลังกำแพงวัดยางนม พอคนรักขี่รถจักรยานยนต์ ผ่านมาก็ใช้อาวุธปืน .38 ยิงใส่เข้าไป 4 นัดซ้อน กระสุนถูกแขนและขาของนายคงศักดิ์ได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่เหลือพลาดเป้าไปถูกรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กันได้รับความเสียหาย
หลังก่อเหตุขับรถเก๋งหลบหนี กระทั่งมายิงต่อสู้กับตำรวจจนถูกวิสามัญฯ
ปิดฉากเรื่องโศกนาฏกรรมที่เกิดจากความรักไปอีกคดี
