ตามปคม.ปิดคดีลุงเหลิม
กัญชาล่อ-ลวงขืนใจด.ญ.
สลดพ่อแท้ๆรู้เห็นเป็นใจ
คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ตามปคม.ปิดคดีลุงเหลิม – เป้าหมายของกฎหมายคุ้มครองเด็กนั้น ไม่ได้มุ่งให้ความคุ้มครองแก่เด็กจากภัยอันตรายต่างๆ รอบตัวเพียงแค่นั้น แต่ยังหมายรวมไปถึงคนในครอบครัว หรือแม้แต่พ่อ-แม่อีกด้วย ใช่ว่าได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิดแล้วจะทำเช่นไรกับลูกก็ได้
เมื่อวันที่ 20 เม.ย. นายสุรชัย สุขเขียวอ่อน ผู้อำนวยการมูลนิธิบ้านนกขมิ้น ได้โพสต์เรื่องราวของเด็กหญิงวัย 13 ปีคนหนึ่ง ที่ต้องตกนรกทั้งเป็นจากฝีมือของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “ครูอ๊อด ขออาสา”
นายสุรชัยโพสต์ว่า ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากกลุ่มชาวบ้านในชุมชน แถวๆ แยกถนนพระราม 9 รามคำแหง ว่ามีเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 13 ปี ถูกล่อลวงไปล่วงละเมิดทางเพศเป็นประจำทุกอาทิตย์ โดยพ่อแท้ๆ ก็รู้เห็นเป็นใจด้วยเพื่อแลกกับกัญชา
อ่านหมายให้ฟัง
คนในชุมชนก็จนใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร แจ้งไปที่ไหนก็ยังไม่เห็นมีใครลงมาดูเลยครับ มีหน่วยงานไหนพอจะช่วยได้ ขอเบอร์ติดต่อกลับด้วยครับ
หลังเรื่องราวแพร่ไปในโลกโซเชี่ยล วันรุ่งขึ้น พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. สั่งการให้ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รองผบก.ปคม พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ต.มนต์ชัย เพ็งเลิศ สว.กก.1 บก.ปคม. พร้อมนักสังคมสงเคราะห์ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นักจิตวิทยา ประสานตำรวจ สน.วังทองหลาง เข้า ตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงเรื่องดังกล่าว
ชุดทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบในเพิงพักชั่วคราวภายในชุมชนแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง พบด.ญ.เอ (นามสมมติ) วัย 14 ปี และด.ญ.บี (นามสมมติ) วัย 13 ปี พักอาศัยอยู่ในชุมชนดังกล่าว จึงได้ช่วยเหลือคัดแยกเด็กออกมาเพื่อเข้าสู่ขบวนการซักถามตามขั้นตอน
คุมตัวดำเนินคดี
พ.ต.อ.ภูมินทร์กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นทาง บก.ปคม.ได้รับข้อมูลผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนบูรณาการเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเด็กทั้งสองรายพักอาศัยอยู่กับพ่อวัย 62 ปี จากการตรวจสอบสภาพแวดล้อมพบว่า มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุ จึงดำเนินการให้ความช่วยเหลือเด็กหญิงทั้งสองรายให้อยู่ในความดูแลของสหวิชาชีพ นักสังคมสงเคราะห์ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ขั้นตอนจากนี้จะนำตัวเด็กทั้งสองรายไปตรวจร่างกายที่ร.พ.ตำรวจ หลังพบข้อมูลในทางการสืบสวนว่าเด็กทั้งสองรายอาจตกเป็นเหยื่อจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ และส่งมอบเด็กทั้ง 2 คนให้บ้านพักเด็ก รับไปคุ้มครองดูแล ส่วนพ่อของเด็กถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง จับกุมตัวดำเนินคดีในข้อหาเสพกัญชา
ขณะที่เด็กหญิงบีบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า พ่อของตนเองได้ออกอุบายล่อลวงเพื่อให้ชายวัย 65 ปี ชื่อลุงเหลิม ลงมือข่มขืนกระทำชำเราเพื่อแลกกับกัญชา ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้ทางพนักงาน บก.ปคม.อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับต่อไป
สอบยังให้การภาคเสธ
ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับ ลุงเหลิม หรือ นายเฉลิม ชำนิเขตรการณ์ อายุ 67 ปี ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
วันที่ 24 มิ.ย. พ.ต.ต.มนต์ชัย เพ็งเลิศ สว.กก.1 บก.ปคม. นำกำลังจับกุมนายเฉลิมได้ หลังสืบทราบว่าหลบหนีมากบดานอยู่ที่ จ.อุทัยธานี สว.กก.1 บก.ปคม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาและวางแผนเดินทางไปติดตามตัว จนสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณสถานที่ขนส่ง อ.เมือง จ.อุทัยธานี
นายเฉลิมให้การรับสารภาพ แต่อ้างว่าครอบครัวของเด็กผู้เสียหายมาขอพักอยู่ที่เพิงพักของตน โดยพ่อของเด็กก็เหมือนเป็นลูกจ้าง เพราะจ่ายค่าแรงช่วยงานให้ทุกวัน คือวันละ 100 บาท ซึ่งตามปกติพ่อของเด็กต้องเสพกัญชาทุกวัน จึงใช้ให้ลูกสาวเป็นคนไปหาซื้อมาให้ ไม่ใช่เป็นการบังคับข่มขืน เพื่อแลกกับกัญชาแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องข่มขืนเจ้าตัวยังภาคเสธ โดยยอมรับว่ามีความสัมพันธ์จริง แต่กับลูกสาวคนโตเท่านั้น และก็เป็นการคบหากันแบบเปิดเผย ทุกคนก็รับรู้ ไม่เคยมีเรื่องข่มขืนใดๆ ทั้งสิ้น ก่อนถูกจับก็มีแผนที่จะแต่งงานอยู่กินอย่างถูกต้องอีกด้วย แต่ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน
ผมเปล่าข่มขื่น เด็กมันสมยอม ข้ออ้างยอดฮิตของผู้ต้องหาพรากผู้เยาว์ แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นคุกสักราย
