คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
พงษ์สันต์ เตชะเสน
เรื่อง/ภาพ
ยาเสพติดพิษภัยร้ายของสังคม คำกล่าวนี้หาได้เกินจริงไปไม่ เพราะพิษภัยของมันมิได้มีผลเฉพาะแค่ ผู้เสพเท่านั้น แต่กับครอบครัวคนรอบข้าง พลอยได้รับ ผลกระทบไปด้วยทั้งสิ้น ยิ่งเสพติดมานานเท่าไหร่ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็ยิ่งลดน้อยลงเท่านั้น แม้แต่พระภิกษุสงฆ์ สิงห์ขี้ยาเหล่านี้ก็หาได้มีความเกรงกลัวบาปกรรมไม่
เช่นเหตุสยองที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 12 มี.ค. เมื่อ พ.ต.ท.ทองดี นาหนองตูม สารวัตร (สอบสวน) สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี รับแจ้งจากคนเลี้ยงวัว ว่าพบศพพระธุดงค์ ถูกคนร้ายฆ่าในป่ายูคาลิปตัส หลังห้างสรรพสินค้าดีมาร์ท ชุมชนเกตุแก้ว ถ.แก้วเสนา ต.วารินชำราบ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อดิเทพ พิชาดุลย์ ผกก. พ.ต.ท.วุฒิชัย สิงห์คง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.มรกตภูมิ พลศักดิ์ สว.สส. ชุดสืบสวน และเจ้าหน้ามูลนิธิสว่างบูชาธรรมสถาน รีบรุดไปที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุตำรวจพบศพพระเกตุ ธัมมกาโม อายุ 71 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่ หมู่ 9 ต.วังตะเข้ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ปัจจุบันเป็นพระลูกวัดที่วัดคีรีเขต ต.ยายแย้มพัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ สภาพยังนุ่งสบงและอังสะ
ที่ศีรษะและใบหน้าถูกตีด้วยไม้ทำให้กะโหลกศีรษะแตก ใบหน้ายุบ โดยพบไม้เท้ายาวประมาณ 1.50 เมตร ที่ใช้เป็นอาวุธก่อเหตุตกอยู่ใกล้ศพในสภาพหักหลายท่อน และมีคราบเลือดติดอยู่ คาดเสียชีวิตมาไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง
ใกล้กันพบกลดและข้าวของเครื่องใช้ของพระเกตุ มีร่องรอยถูกรื้อค้น โดยเครื่องอัฐบริขารยังอยู่ครบ แต่ไม่พบโทรศัพท์มือถือหรือเงินหลงเหลืออยู่
จากการสอบสวนชาวบ้านที่พบศพทราบว่า ขณะกำลังต้อนวัวเข้าไปเลี้ยง มองเห็นกลดพระกางอยู่เลยเดินมาหาเพื่อจะกราบนมัสการแต่ไม่เห็นพระ เมื่อมองเข้าไปในป่าก็ต้องตกใจพบร่างพระเกตุนอนมรณภาพแล้ว จึงรีบวิ่งออกมาแจ้งให้เพื่อนบ้านโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
ต่อมา พ.ต.อ.อดิเทพสั่งการให้ชุดสืบสวนตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของคนในชุมชนละแวกใกล้เคียง เพื่อหาเบาะแสของคนร้าย เพราะเชื่อน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ติดยาเสพติด ซึ่งพักอาศัยอยู่ในละแวกนั้น โดยพระเกตุเป็นพระธุดงค์มาจากต่างจังหวัด จึงไม่ทราบว่าเป็นสถานที่ล่อแหลมไม่ควรมาปักกลดพักในเวลาค่ำคืน
รุ่งขึ้นตำรวจนำตัวกลุ่มคนต้องสงสัยที่มีประวัติอาชญากรรมและชายวัยรุ่น ซึ่งมีพยานเห็นว่ายืนคุยกับพระเกตุ บริเวณข้างห้างสรรพสินค้า ในช่วงเย็นก่อนที่พระเกตุจะถูกฆ่ามาสอบสวน เก็บลายนิ้วมือแฝงและเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอส่งไปตรวจเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือแฝง
วันเดียวกัน แม่ชีมณี ชัยพา อายุ 42 ปี บุตรสาวของพระเกตุ พร้อมด้วยญาติพี่น้องกว่า 10 คน เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.วารินชำราบ โดยระบุว่าวันเกิดเหตุ พระเกตุได้ออกจากวัดโดยบอกกับโยมว่าจะเดินทางไปยังจ.สกลนคร และให้ไปส่งขึ้นรถที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ก่อนมาลงรถไฟที่สถานีรถไฟวารินชำราบ เพื่อหารถเดินทางต่อไปยังสกลนครในช่วงเย็น
แต่รถโดยสารประจำทางไม่มีแล้ว หลวงพ่อจึงเดินเข้ามาปักกลดในชุมชนเกตุแก้วเพื่อรอเช้าวันรุ่งขึ้นจะได้เดินทางต่อไป แต่ต้องมาถูกฆ่าชิงทรัพย์ หลังให้ปากคำกลุ่มญาติๆ ได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ ก่อนไปขอรับศพนำกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านหนองตาเยา ต.หนองแวง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์
กระทั่งเย็นวันที่ 15 มี.ค. ชุดสืบสวนจังหวัดอุบลฯ และสภ.วารินชำราบ เชิญตัวนายพุทธกาล หรือ ใหม่ ศรีหิน อายุ 27 ปี และนายภาณุวัฒน์ หรือ บ๊อบบี้ คำมิ่ง อายุ 29 ปี ที่พยานยืนยันว่าเห็นไปคุยกับพระเกตุในช่วงเย็นวันที่ 11 มี.ค. ก่อนที่จะถูกทำร้ายจนมรณภาพในช่วงกลางดึกคืนวันเดียวกัน ที่เคยให้ปากคำมาครั้งหนึ่งแล้วมาสอบสวนอีกครั้ง
ครั้งนี้ตำรวจจับมาแยกกันสอบสวนเข้มนานกว่า 5 ชั่วโมง นายพุทธกาลก็เปิดปากรับสารภาพว่าร่วมกันฆ่าชิงทรัพย์พระเกตุ โดยในวันเกิดเหตุ กำลังจะไปเที่ยวงานวัดแต่พบกับพระเกตุที่มาปักกลดบริเวณเนินดินในป่ายูคาลิปตัส หลังห้างสรรพสินค้าที่เป็นทางผ่าน
จึงชวนกันเข้าไปพูดคุยเพื่อแอบสำรวจดูมีทรัพย์สินอะไรบ้าง กระทั่งเวลา 23.00 น. จึงพากันขี่รถจักรยานยนต์ย้อนมาก่อเหตุ ชิงทรัพย์ โดยนายภาณุวัฒน์เป็นคนไปปลุกพระเกตุออกมาจากกลด แล้วนายพุทธกาลใช้ไม้ยูคาลิปตัสตี ก่อนที่นายภาณุวัฒน์ จะคว้าไม้เท้าของพระมาตีซ้ำจนมรณภาพ
หลังจากนั้นทั้งคู่รื้อค้นเอาเงินจากซองปัจจัยซึ่งใส่ไว้ในย่ามประมาณ 6,000 บาท โดยนายภาณุวัฒน์แบ่งเงินให้กับนายพุทธกาลจำนวน 1,500 บาท เอาไปซื้อยาบ้ามาเสพ ส่วนที่เหลือนายภาณุวัฒน์เอาไปทั้งหมด ขณะที่นายภาณุวัฒน์ ยังให้การปฏิเสธ
ทั้งคู่ถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ และร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ก่อนส่งตัวดำเนินคดีเพื่อชดใช้ความผิดต่อไป