ย้อนคดีสยองเมืองบ้านโป่ง 2
มือปืนไล่ยิงคนขับกระบะ
หนีตายพุ่งชนเสาสาว 18 ดับ
คอลัมน์ สดจากสนาม
2 มือปืนไล่ยิงคนขับกระบะ หนีตายพุ่งชนเสาสาว 18 ดับ – “หัวใจของแม่แทบแหลกสลาย อยากถามไปถึงคนที่ก่อเหตุ ว่าหัวใจทำด้วยอะไร ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และหากคนตายเป็นคนในครอบครัวของคุณ จะรู้สึกยังไง” คำพูดที่เค้นมาจากหัวใจของแม่ผู้สูญเสีย
ทำแผนฯ นาทียิง
กลางดึกวันที่ 23 มิ.ย. พ.ต.ต.ยุทธนา ภูเก้าแก้ว สารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นำกำลังไปตรวจสอบเหตุรถกระบะชนเสาไฟฟ้ามี ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ที่วงเวียนหอนาฬิกา หน้าโรงพักถนนแสงชูโต เขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะอีซูซุ สี่ประตู ดีแมคซ์ ทะเบียน กธ 7584 กาญจนบุรี จอดบนทางเท้า สภาพรถพังทั้งคัน
แต่คดีที่น่าจะเป็นอุบัติเหตุทั่วไป กลับกลายเป็นคดีฆาตกรรม เมื่อตำรวจพบร่องรอยของรูกระสุนไม่ทราบขนาดบริเวณด้านหน้ารถฝั่งคนขับ โดยพบ ผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ภายในรถ 4 คน
ทราบชื่อต่อมา นายปฐมพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี คนขับรถกระบะ ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่หน้าอกซ้าย 1 นัด อาการสาหัส นายโชติพัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี นั่งข้างคนขับ น.ส.อารีรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี และ นายเจริต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี นั่งด้านหลัง ทั้งหมดได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่ง ร.พ.บ้านโป่ง และยังพบผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย คือ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี สภาพศพคอหักเสียชีวิตคาที่ นั่งด้านหลัง
สภาพรถกระบะ
จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.เอ เป็นน้องสาวของนายปฐมพงษ์ ผู้ถูกยิง ก่อนเกิดเหตุทั้งหมดเดินทางมาที่ผับดังแห่งหนึ่งใน อ.บ้านโป่ง จนกระทั่งผับปิด ก็เดินทางกลับบ้าน แต่เมื่อขับรถมาถึงแยกไฟแดงแสงชูโต พบว่ามีชาย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมาประกบข้างคนขับ แล้วชักอาวุธปืนออกมายิงใส่นาย ปฐมพงษ์ จนกระสุนเข้าหน้าอก ก่อนจะรีบขี่รถหนีไป
นายปฐมพงษ์พยายามตั้งสติ รีบขับรถมุ่งหน้าโรงพยาบาลบ้านโป่ง ซึ่งห่างจากจุดถูกยิงประมาณ 1.5 ก.ม. แต่ไม่ทันถึง หมดสติไปเสียก่อน โดยที่เท้ายังคงเหยียบคันเร่งรถอยู่ เพื่อนที่นั่งรถมาด้วยต้องพยายามประคองรถไม่ให้เสียหลัก แต่สุดท้ายควบคุมรถไม่อยู่ ไปชนกับเสาไฟฟ้าข้างทาง จึงเป็นเหตุทำให้ น.ส.เอ เสียชีวิต และได้รับ บาดเจ็บทั้งหมด
น.ส.เอ ผู้ตาย
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี สั่งระดมชุดสืบสวน จ.ราชบุรี และชุดสืบสวน สภ.บ้านโป่ง รวมทั้งประสานชุดสืบสวนภูธรภาค 7 และชุดสืบสวน กก.5 กองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.โชติช่วง ภานุทัต ผกก.สส.ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.ศิริชัย ไชยดี ผกก.สภ.บ้านโป่ง
ระดมหาเบาะแส ทั้งจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่หน้าผับไปจนถึงจุดเกิดเหตุ และจุดอื่นๆ ที่คนร้ายใช้หลบหนี รวมไปถึงสอบพยานปากจากกลุ่มเพื่อนคู่อริ กลุ่มผู้ถูกยิง และผู้ที่เห็นเหตุการณ์
ขณะที่นางอาภาภรณ์ มารดา น.ส.เอ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า เมื่อช่วงค่ำของคืนวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายปฐมพงษ์ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกัน ได้เดินทางมาจาก อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เพื่อมารับลูกไปกินข้าวเย็นในตลาดบ้านโป่ง ตนกำชับให้นายปฐมพงษ์ดูแลลูกให้ดี อย่ากลับดึกหรือไปเที่ยวต่อที่ไหน กระทั่งช่วงเช้ามืดก็ได้รับทราบข่าวร้าย
“หัวใจของแม่แทบแหลกสลาย อยากถามไปถึงคนที่ ก่อเหตุ ว่าหัวใจทำด้วยอะไร ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และหากคนตายเป็นคนในครอบครัวของคุณ จะรู้สึกยังไง” แม่กล่าวทั้งน้ำตา
ตำรวจไล่สืบสวนจนทราบว่า ขณะที่กลุ่มนายปฐมพงษ์ไปเที่ยวผับ พบกับกลุ่มอริเก่าที่เคยมีเรื่องกัน จึงเกิดมีปากเสียงกันขึ้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้เข้ามาห้ามปรามแล้วสั่งให้แยกย้ายกระทั่งมาเกิดเหตุไล่ยิงดังกล่าว
นายสุรชัย ยางสง่า หรือปุ้ย มือปืน
ชุดสืบสวนสอบปากคำทั้งสองกลุ่ม จนในที่สุดก็ทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายสุรชัย ยางสง่า หรือ ปุ้ย อายุ 38 ปี ชาว ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.นครปฐม และ นายพิริยะ ใจซื่อ อายุ 19 ปี จึงได้ออกติดตามตัวจนสามารถจับกุมตัว นายสุรชัย ได้ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่วนนายพิริยะหนีไปกบดานที่ จ.นครราชสีมา จากนั้นได้ติดต่อขอ มอบตัวที่ จ.สุพรรณบุรี
เบื้องต้นทั้ง 2 คนรับสารภาพว่า ไม่เคยรู้จักกลุ่มผู้ถูกยิง และไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ในวันเกิดเหตุได้ขี่รถจยย.ออกจากบ้านไปเที่ยวผับพร้อมกับกลุ่มเพื่อนอีกกว่า 20 คน กระทั่งผับใกล้ปิด เพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งได้ไปพบกับ นายปฐมพงษ์ พร้อมพวก 7 คน ซึ่งเป็นกลุ่มคู่อริเก่า จึงเกิดมีปากเสียงกันขึ้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้เข้ามาห้ามปรามแล้วสั่งให้แยกย้ายกันทั้ง 2 จึงขี่รถกลับบ้าน
นายพิริยะ ใจซื่อ คนขี่จยย.
แต่ไม่นานเพื่อนได้โทรศัพท์ตามเรียกตัวให้กลับมาที่ผับอีกครั้ง เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุทะเลาะวิวาท นาย สุรชัยจึงนำอาวุธปืนเหน็บเอวออกมาด้วย เมื่อมาถึงหน้าผับก็สังเกตเห็นกลุ่มคู่อริซึ่งนั่งกันอยู่เต็มคันรถขับรถกระบะออกไป
จึงรีบบิด รถจยย.แซง นายสุรชัยชักปืนออกมารัวยิงใส่ 3 นัด แต่สังเกตว่านายปฐมพงษ์ยังขับรถกระบะต่อได้จึง ขี่รถตาม จนพบว่ารถเสียหลักไปชนเสาไฟฟ้า ส่วนสาเหตุนายสุรชัยสารภาพว่า แค่ต้องการยิงโชว์เพื่อน
2 คนร้ายถูกตั้งข้อหา “ร่วมกันพยายามฆ่า ผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุ อันควรเร่งด่วนสมควรแก่พฤติการณ์” ก่อนคุมตัวไปทำแผนฯ ท่ามกลาง ชาวบ้านที่มุงดูกันเป็นจำนวนมาก
