เจาะคดีรวบโจรสาวโคราช

จี้เซเว่นครั้งประวัติศาสตร์

กวาดเกลี้ยงเซฟกว่า 2 ล้าน

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

เจาะคดีรวบโจรสาวโคราช จี้เซเว่นครั้งประวัติศาสตร์ กวาดเกลี้ยงเซฟกว่า 2 ล้าน : สดจากสนามข่าว – ‘คอนวีเนียนสโตร์’ หรือ ‘มินิมาร์ท’ ร้านค้าที่ให้บริการต่อลูกค้าที่ต้องการความสะดวก และความรวดเร็ว จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ทำให้บ้านเราคุ้นเคยกันในนาม ‘ร้านสะดวกซื้อ’

ด้วยความที่เปิดให้บริการทั้งวันทั้งคืน 24 ชั่วโมง เพื่อความสะดวกแก่ผู้บริโภค แต่ลูกค้าก็ไม่ได้คึกคักตลอดเวลา มีช่วงเวลาที่ปลอดคนในยามดึก กลายเป็นช่องทางของมิจฉาชีพที่จ้องหาวิธีรวยทางลัด ด้วยการจี้ปล้นร้านเหล่านี้

แต่ส่วนใหญ่คนร้ายจะได้ทรัพย์สินไปไม่เท่าไหร่ อย่างมากก็แค่หลักร้อยหลักพันเท่านั้น

ผิดกับเหตุล่าสุดกลางเมืองย่าโม ที่โจรร้ายได้เงินสดไปมากถึงกว่า 2 ล้านบาท เพราะผู้ก่อเหตุเป็นอดีตพนักงานเก่าทำให้รู้ลู่ทางและช่วงเวลาไหนที่ร้านจะมีเงินตกค้างจำนวนมากเป็นอย่างดี

เจาะคดีรวบโจรสาวโคราช จี้เซเว่นครั้งประวัติศาสตร์ กวาดเกลี้ยงเซฟกว่า 2 ล้าน : สดจากสนามข่าว

ภาพนาทีลงมือ

คดีจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อครั้งประวัติศาสตร์เกิดขึ้นในเวลาตีสองครึ่ง วันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา เมื่อพ.ต.ท.ศุภเชษฐ์ นวจินดาพงศ์ สว.สอบสวน สภ.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ‘เซเว่นอีเลฟเว่น’ สาขาชุมชนบ้านโพธิ์ ต.บ้านโพธิ์ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ. ปวริศ บุญสุทธิ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.กิตติ แสงศิริวุฒิ ผกก.สภ.จอหอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่ พฐ.

เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบพนักงานในร้านยังอยู่ในความตื่นตระหนกกับเหตุร้ายที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ จึงแยกสอบปากคำทั้งหมด พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบคนร้ายรูปร่างสันทัด สวมเสื้อกันหนาวสีเลือดหมู กางเกงขาสั้นสามส่วน รองเท้าผ้าใบ และสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีน้ำเงิน

เมื่อเข้ามาในร้านทำทีเป็นขอซื้อบุหรี่ ก่อนชักมีดสปาร์ตาออกมาข่มขู่พนักงานประจำเคาน์เตอร์ให้เปิดลิ้นชักเครื่องเก็บเงิน ทำให้พนักงาน 3-4 คนตกใจกลัวพากันวิ่งหนีไปหลบที่หลังร้าน จากนั้นคนร้ายเดินเข้าไปหลังเคาน์เตอร์ หยิบเงินในเครื่องเก็บเงินทันที

แต่แทนที่จะรีบหลบหนีแบบโจรขโมยทั่วไป กลับเดินเข้าไปหยิบกุญแจไปเปิดตู้เซฟหลังเคาน์เตอร์อย่างคล่องแคล่ว หยิบเงินที่เก็บไว้ในนั้นใส่กระเป๋าสะพายที่เตรียมมาหลายปึก ก่อนวิ่งออกจากร้านไปขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ฝั่งตรงข้ามร้านหลบหนีไปกับความมืด

เบื้องต้นผู้จัดการร้านให้การว่า เงินที่คนร้ายได้ไปเป็นจำนวนมากถึงกว่า 2.3 ล้านบาท

สาเหตุที่มีเงินเก็บในตู้เซฟจำนวนมากเนื่องจากเป็นช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ธนาคารปิดเลยไม่ได้นำเข้าแบงก์

พล.ต.ต.สุรพล แก้วขาว รอง ผบช.ภาค 3 เรียกประชุมคลี่คลายคดี ประกอบด้วย พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.กิตติ แสงศิริวุฒิ ผกก.สภ.จอหอ อ.เมือง พ.ต.ท.นธีร์ สุคณา รอง ผกก.ปป. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บช.ภาค 3, บก.ภ.จว.นครราชสีมา และ สภ.จอหอ ทันที

พฤติกรรมคนร้ายที่รู้ลู่ทาง และทราบเป็นอย่างดีว่าในวันดังกล่าวทางร้านจะต้องเก็บเงินสดจำนวนมากไว้ในตู้เซฟ รวมถึงรู้มุมกล้องตามจุดต่างๆ ภายในร้าน จึงจำกัดวงว่าต้องเป็นคนใน

จากรูปพรรณของคนร้ายทำให้สงสัยว่าเป็น น.ส.รจนา ช่องกลาง 25 ปี ชาว ต.ด่านคล้า อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา อดีตพนักงานเก่าของร้านที่เกิดเหตุ ซึ่งถูกไล่ไปเมื่อปลายปีที่แล้วจากเรื่องทุจริต

ประกอบกับกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่หลบหนี พบว่าคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปที่ อ.โนนสูง เจ้าหน้าที่จึงตามไปจับกุมน.ส.รจนาได้คาบ้านพัก นำตัวไปสอบสวนที่ สภ.จอหอ ในวันที่ 2 ก.ค.

ตอนแรกโจรสาวยังให้การปฏิเสธเสียงแข็ง แต่เมื่อมีภาพจากวงจรปิดเป็นหลักฐานชัดเจน ประกอบกับเจ้าหน้าที่ใช้หลักจิตวิทยาสอบสวนจนยอมเปิดปากในที่สุด

รูปสมัยเป็นสาวเซเว่น

น.ส.รจนารับสารภาพว่า ถูกไล่ออกเมื่อช่วงปลายปี 2561 เนื่องจากขโมยทรัพย์สินของร้าน ประกอบกับภาระหนี้สินจำนวนมากและยังตกงาน ที่ผ่านมามีเพียงสามีทำงานเลี้ยงดูทั้งตนและลูกชายอายุ 1 ขวบ

เงินที่ได้มานำไปใช้หนี้จำนวน 70,000 บาท เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารอีก 80,000 บาท ส่วนที่เหลือใส่ถุงพลาสติกซ่อนใน บ่อเกรอะที่บ้านพัก

ตร.บุกรวบคาบ้าน

หวังรอจังหวะจะนำเงินไปใช้หนี้และวางแผนหนีคดีไปทำงานที่ประเทศเกาหลี แต่ถูกจับกุมก่อน

เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจยึดเงินทั้งหมดกลับมาได้ 1,959,990 บาท ซึ่งจำนวนเงินยังไม่ตรงกับที่ทางผู้จัดการร้านระบุ ต้องสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไปว่าเงินที่ถูกจี้ชิงไปมีจำนวนเท่าไหร่กันแน่

ส่วนโจรสาวก็หมดหวังที่จะได้ไปทำงานต่างประเทศ รวมถึงทิ้งให้สามีเลี้ยงลูกน้อยตามลำพัง เพราะตัวเองต้องเข้าไปใช้ชีวิตในคุกอีกนาน

ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ, เกษม ชนาธินาถ : เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน