คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

อณุวัสส์ ศิวราศักดิ์ เรื่อง/ภาพ

ข้อมูลจากกรมอุทยานระบุว่า ขบวนการค้าซากสัตว์ป่ามักใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน เนื่องจากประเทศไทยเป็นศูนย์กลางคมนาคม ในภูมิภาค ทำให้ถูกมองว่าเป็นศูนย์กลางการค้าสัตว์ป่าไปด้วย โดยเฉพาะงาช้างและนอแรดจากแอฟริกา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ นายไพศาล ชื่นจิตร ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร นายบุญเทียม โชควิวัฒน ผอ.สำนักงานศุลกากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ นายกิตติพงษ์ กิตติขจร ผอ.ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พ.ต.อ.มณเฑียร เบ้าทอง ผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการตรวจยึดนอแรดจำนวน 21 นอ น้ำหนักรวม 49.4 กิโลกรัม มูลค่า 173 ล้านบาท ที่ลักลอบนำเข้าจากสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย

นายไพศาลกล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ ศุลกากรฯ ได้ขอตรวจกระเป๋าเดินทางของผู้โดยสารหญิงชาวไทย 2 ราย ขณะเดินผ่านช่องไม่มีของต้องสำแดง ชั้น 2 อาคารผู้โดยสาร ขาเข้า เนื่องจากพบว่ามีน้ำหนักมากผิดปกติ

แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรฯ กำลังนำกระเป๋าเข้าเครื่องเอกซเรย์ หญิงไทยทั้ง 2 คนได้หลบหนีออกไป ผลการ ตรวจสอบในกระเป๋าพบนอแรดจำนวนมาก โดยกระเป๋าใบ ดังกล่าวเดินทางมากับสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ เที่ยวบิน ET 628 ต้นทางจากกรุงแอดดิสอาบาบา สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย ปลายทางที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

ด้านพล.ต.ต.ธรรมนูญ กล่าวว่า สำหรับผู้หญิงไทย 2 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้คือ นางฐิติรัตน์ อาราอิ อายุ 56 ปี บ้านอยู่ เขตดอนเมือง สอบพบเดินทางกลับจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา และ น.ส.กานต์สินี อนุตรานุสาสตร์ อายุ 41 ปี บ้านอยู่ อ.สามพราน จ.นครปฐม เดินทางกลับจากกรุงโฮจิมินท์ ประเทศเวียดนาม

โดยทั้งคู่มารอรับกระเป๋าเดินทาง ที่บรรจุนอแรด บริเวณสายพานรับกระเป๋าของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ ก่อนเดินออกมาและถูกเจ้าหน้าที่ขอตรวจค้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับหญิง ทั้ง 2 คนเรียบร้อยแล้ว

รวมทั้งตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวน ชุดพิเศษขึ้นมา เพื่อดำเนินการขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ และหากผลการสืบสวนหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วน เกี่ยวข้องด้วยก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

คดีนี้ไม่ธรรมดาอย่างไร ทำไมถึงต้องตั้งกรรมการพิเศษขึ้นมา

คำตอบอยู่ที่ภาพวิดีโอวงจรปิดภายในสนามบินสุวรรณภูมิที่เผยให้เห็นว่าก่อนที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดนอแรดจำนวนดังกล่าว พบว่าหญิงสาวทั้งสองคนเดินมากับชายคนหนึ่ง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ 2 นายมาคอยอำนวยความสะดวก ให้ตลอดทาง ซึ่งพอเดาได้ว่าชายดังกล่าวน่าจะเป็นคนสำคัญหรือเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่

โดยตอนแรก หญิงทั้งสองรายพยายามเข็นรถกระเป๋าหลบออกมาเพื่อจะได้ไม่ต้อง ผ่านเครื่องเอกซเรย์ แต่เจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ประจำอยู่เห็นว่ากระเป๋ามีสัมภาระมามากจนแทบปริ จึงขวางเอาไว้ก่อนขอตรวจสอบ

หลังเจ้าหน้าที่ยกกระเป๋าขึ้นสายพานเครื่องเอกซเรย์ หญิงทั้งคู่ก็รีบเดินหลบหนีออกไปเหมือนรู้ว่าจะต้องถูกจับได้ แต่ชายคนที่เดินมาด้วยยังยืนคุยอยู่เหมือน ไม่รู้เรื่องอะไร กระทั่งเจ้าหน้าที่พบว่าภายใน เป็นนอแรด จึงแจ้งให้ชายดังกล่าวทราบ ซึ่งเจ้าตัวมีท่าทีงง โดยเป็นไปได้ว่าอาจไม่รู้เรื่องด้วยจริงๆ

ต่อมาในวันที่ 16 มี.ค. ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีมีภาพของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงสังกัดกระทรวงยุติธรรม ตำแหน่งรองอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและ ช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดแห่งหนึ่งเดินประกบกระเป๋า ดังกล่าวภายในสนามบินสุวรรณภูมิ วันที่มีการตรวจยึดนอแรด ว่า

อัยการสูงสุด(อสส.) เห็นว่าการจับกุมดังกล่าวนับเป็นคดีสำคัญ พนักงานสอบสวนเห็นว่าเป็นการลักลอบลำเลียง นอแรดจำนวนมาก มูลค่าสูง และเป็นคดี น่าสนใจของประชาชน ทั้งยังปรากฏว่าเกี่ยวข้องกับรองอัยการจังหวัดคนดังกล่าว ทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ของพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นอย่างยิ่ง

ดังนั้น อัยการสูงสุดจึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว พร้อมความเห็นเสนอให้อัยการสูงสุดทราบ โดยเร็ว

นอกจากนั้นเมื่อวันที่ 15 มี.ค. คณะกรรมการข้าราชการอัยการ(ก.อ.) ครั้งที่ 3/2560 เห็นชอบให้ปรับย้าย รองอัยการจังหวัดคนดังกล่าวไปดำรงตำแหน่งอัยการ ประจำสำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีแพ่งกรุงเทพใต้ 3 ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.นี้เป็นต้นไป

ขณะที่ทางพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ โดย พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ รีบตรวจสอบข้อเท็จจริง จนนำมาสู่การสั่งย้ายนายตำรวจยศ ร.ต.อ. 2 นาย ประจำสภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยขาดจากตำแหน่งเดิม มีกำหนด 3 เดือน พร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีตำรวจนายใดเกี่ยวข้อง จะดำเนินคดีทางอาญาและทางวินัยอย่างเคร่งครัด

ผลสอบจะออกหัวหรือก้อยยังไม่มีใครรู้ แต่ต่อไปใครจะไปรับ ไปดูแลนาย ควรจะเช็กให้หนักๆ เสียก่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน