ตร.ผนึก‘กรมประมง’
เปิดแผนลุยเรือผิดกม.
สอดรับจุดยืนอาเซียน
คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ตร.ผนึก‘กรมประมง’เปิดแผนลุยเรือผิดกม.สอดรับจุดยืนอาเซียน – ศักยภาพด้านการประมงของประเทศ ไทย เป็นหนึ่งไม่แพ้ชาติใดในโลก เราผลิตและส่งออกสินค้าประมงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก มูลค่าการส่งออกสินค้าประมงถึง 1 แสนล้านบาทต่อปี แต่เมื่อทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย เดือนเม.ย.2558 สหภาพยุโรปให้ใบเหลืองประเทศไทย และอีกหลายประเทศในอาเซียน เพื่อเป็นการเตือนอย่างเป็นทางการให้เร่งแก้ไขปัญหา ก่อนที่จะสูญเสียตลาดอียูไป
เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา กรมประมงจัดหารือ The ASEAN Meeting on Combating IUU Fishing in Partnership with the EU มีผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน องค์กรระหว่างประเทศด้านการประมง และผู้แทนจากสหภาพยุโรป (อียู) 70 ราย มาประชุม พร้อมเร่งผลักดันการจัดตั้ง ASEAN IUU Fishing Task Force เพื่อแสดงถึงจุดยืนร่วมกัน มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายให้หมดไปจากภูมิภาค
จากผลการประชุมมีข้อเสนอประกอบด้วย การจัดทำนโยบายประมงอาเซียน อยู่ระหว่างการดำเนินการศึกษา และการจัดตั้ง The ASEAN IUU Task Force เพื่อสนับสนุนและแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ พร้อมสร้างเครือข่ายที่สามารถเข้าถึงข้อมูลการติดต่อสื่อสารรวดเร็ว มีประสิทธิภาพระหว่างหน่วยงานที่ต้องบังคับใช้กฎหมาย
นอกจากนี้จะพัฒนาเครื่องมือ ระบบ เทคโนโลยีในการสืบสวนสอบสวน วิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมได้ เพื่อให้ได้มาซึ่งหลักฐานการทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งการดำเนินการของ Task Force จะสามารถพัฒนาสมรรถนะและศักยภาพในการติดตามควบคุมและเฝ้าระวังการกระทำผิด IUU ให้แก่หน่วยงานประเทศสมาชิกอาเซียน
ส่วนในประเด็นแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายให้หมดไปจากภูมิภาค สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมประมง ได้ปฏิบัติการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ‘บิ๊กโต้ง’ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบช.กมค. ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการบังคับใช้กฎหมาย ศูนย์บัญชาการการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ได้ลงพื้นที่กำชับติดตามการดำเนินคดีการทำประมงผิดกฎหมายใน จ.ระนอง
จากการปฏิบัติงานร่วมของตำรวจกับกรมประมงสามารถจับกุมเรือประมงที่กระทำความผิด 66 ลำ
พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบช.กมค. เผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ติดตามกำกับดูแลเกี่ยวกับการทำประมงผิดกฎหมาย และโดยการสั่งการของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้เข้มงวดกวดขันการทำประมงผิดกฎหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับจุดยืนของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายให้หมดไปจากภูมิภาค
ในฐานะเป็นประธานอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการบังคับใช้กฎหมาย ได้ดำเนินการร่วมกับกรมประมงในการตรวจสอบติดตามและบังคับใช้กฎหมายการทำประมงผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง
โดยระหว่างวันที่ 22-30 มิ.ย.62 ส่งตำรวจชุด SAT (Special Arrest Team) พร้อมเจ้าหน้าที่กรมประมง ประกอบด้วย เรือตรวจกรมประมงและเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์น้ำระนอง หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะสุรินทร์ พังงา ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 2 กลุ่ม
เรือกลุ่มที่ 1 จำนวน 7 ลำ จับกุมในช่วงวันที่ 26-27 มิ.ย.62 ในพื้นที่จ.ระนอง ความผิดฐานปลอมแปลงปิดบังหรือเปลี่ยนแปลงเครื่องหมายประจำเรือประมง หรือทะเบียนเรือประมง อันเป็นความผิดตามพระราชกำหนดประมง พ.ศ.2558 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดการประมง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 165 และฐานร่วมกันนำเข้าสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ อันเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการประมงฯ มาตรา 92 มาตรา 95 และมาตรา 96 ประกอบมาตรา 158 ลงโทษปรับห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่นำเข้า
เรือกลุ่มที่ 2 จำนวน 59 ลำ จับกุมในระหว่างวันที่ 22-30 มิ.ย.62 ซึ่งกักและล็อกไว้บริเวณท่าเทียบเรือต่างๆ ใน จ.ระนอง ในข้อหาเป็นผู้ควบคุมเรือลักลอบนำเรือประมงต่างประเทศเข้ามาในน่านน้ำไทยและเข้าเทียบท่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมประมง และความผิดฐานปลอมแปลงปิดบังหรือเปลี่ยนแปลงเครื่องหมายประจำเรือประมง หรือทะเบียนเรือประมง
จากการปฏิบัติภารกิจกวาดล้างจับกุมการทำประมงผิดกฎหมายในครั้งนี้ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ กล่าวด้วยว่า ปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมการทำประมงผิดกฎหมายแสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจและศักยภาพของประเทศไทยระหว่างดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน รวมทั้งแสดงจุดยืนของภูมิภาคอาเซียนที่จะปลอดการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Free) ให้หมดไปจากภูมิภาค
ที่ผ่านมาจากการเข้มงวดกวดขันของตำรวจและกรมประมงในการควบคุมการทำประมงผิดกฎหมาย ทำให้สถิติการเกิดคดีการทำประมงผิดกฎหมายมีการลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559 มี จำนวน 3,270 คดี ปี 2560 จำนวน 958 คดี ปี 2561 จำนวน 574 คดี และปี 2562 จนถึงปัจจุบัน จำนวน 333 คดี