ปิดคดีฆ่าหนุ่มวินจยย.

ตร.กรุงตามจับทันควัน

ไม่พอใจเบิ้ลเครื่องใส่

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ปิดคดีฆ่าหนุ่มวินจยย. – หัวใจแม่คนหนึ่งแทบแตกสลาย เมื่อวันเกิดของตัวเอง กลับกลายเป็นวันที่ต้องสูญเสียสิ่งที่รักไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ

ย้อนไปเมื่อกลางดึกวันที่ 14 ก.ค. ร.ต.ท.วัชรพล กลิ่นติโต รอง.สว.สอบสวน สน.พหลโยธิน รับแจ้งเกิดเหตุวินมอเตอร์ไซค์ ถูกบุกยิงอย่างอุกอาจคาเพิกพัง ภายในซอยรัชดาภิเษก 32 แยก 5-4 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชา แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.ท.กฤษณะโชติ คำนิมิตร สวป.สน.พหลโยธิน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูร่วมตรวจสอบ

พยายามยื้อชีวิต

จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับสี่แยกมีเพิงพักของวินจยย.พบร่าง นายโสภณ ทองกล่ำ อายุ 27 ปี สภาพนอนหงาย ไม่ใส่เสื้อ ใส่กางเกงสีกรมท่า ไม่สวมรองเท้า ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. เข้าที่ลำคอด้านขวา 1 นัด อาการสาหัส เจ้าหน้าที่พยายามช่วยเหลือชีวิตแต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ เสียชีวิตระหว่างเตรียมส่งโรงพยาบาล ในจุดเกิดเหตุพบหัวกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ 1 หัว และจยย.ของผู้ตาย ยี่ห้อฮอนด้า โซนิค อาร์เอส สีเขียว ทะเบียน 9กจ6412 กรุงเทพฯ จอดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

นำศพส่งชันสูตร

พยานให้การว่าผู้ตายขับขี่วินจยย.เบอร์ 39 อยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดินลาดพร้าว เมื่อเลิกงานก็จะมาจับกลุ่มกันอยู่ที่จุดเกิดเหตุ วันเกิดเหตุ ผู้ตายดื่มกินกับเพื่อนตั้งแต่ช่วงมืด ก่อนเกิดเหตุได้ไปนอนพักผ่อนอยู่บนเปลตรงข้ามกับเพิงพักวิน

ต่อมามีคนร้าย 2 คน ขี่จยย.ซ้อนท้ายกันมาที่เพิงพัก แล้วถามคนในวินว่ารู้จักผู้ตายไหม เมื่อคนในวินเรียกผู้ตายลุกขึ้นมาจากเปล คนร้ายก็ควักปืนยิงใส่ทันทีแล้วหลบหนีไป ทั้งนี้มีคนให้การว่าคนยิงชื่อนายเบนซ์ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ขี่วินจยย.อยู่วินปากซอยรัชดาภิเษก 32 ส่วนผู้ตายจะขับวินในช่วงบ่ายถึงเที่ยงคืน มีลักษณะไม่สุงสิงกับใคร

ทำแผนฯ นาทีลั่นไก

หลังเกิดเหตุไม่ทัน 24 ชั่วโมง ตำรวจก็โชว์ฝีมือจับกุมคนร้ายได้ โดยวันรุ่งขึ้นที่ สน.พหลโยธิน พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รองผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบก.สส.บช.น พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เชษฐา สว่างสุข ผกก.สน.พหลโยธิน พ.ต.ท.ทัสสุมิ ยอดประทุมวัน รอง ผกก.สส.สน.พหลโยธิน ร่วมกันสอบปากคำ นายกฤติเดช โพธิ์พระ หรือ เบนซ์ อายุ 27 ปี เป็นผู้ขับขี่วินจยย.รับจ้าง หมายเลข 84 วิ่งอยู่ในซอยรัชดา 32 มือปืนที่ก่อเหตุซึ่งถูกจับกุมได้

นายกฤติเดช โพธิ์พระ หรือเบนซ์ มือปืน

หลังจากเจ้าหน้าที่สืบพบว่า หลบหนีมาพร้อมกับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุยิงนายโสภณ ก่อนหลบมากบดานที่บ้านพ่อตาในพื้นที่ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เบื้องต้นนายกฤติเดช ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุจริง สาเหตุจากเมื่อ 2 ปีก่อน เคยมีเรื่องบาดหมางกับผู้เสียชีวิตและเขม่นกันมาตลอด

ก่อนเกิดเหตุพบเห็นผู้เสียชีวิตขี่จยย.ผ่านมา พร้อมกับเร่งเครื่องจยย. เบิ้ลท่อเสียงดังใส่ ตนโมโหจึงขี่รถจยย.ตามโดยมีเพื่อนอีกคนซ้อนท้ายมาด้วย เมื่อถึงจุดเกิดเหตุพบกลุ่มผู้ตายกำลังตั้งวงนั่งดื่มสุรากันอยู่ แต่ไม่พบผู้ตายอยู่ในกลุ่ม เนื่องจากนอนอยู่ที่เปลฝั่งตรงข้าม ตนจึงตะโกนเรียกชื่อผู้ตาย ขณะนั้นผู้ตายลุกขึ้นจากเปล ตนจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่จนเสียชีวิต

ชุลมุนขณะทำแผนฯ

สิบโมงวันที่ 16 ก.ค. ฝ่ายสืบสวน พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สน. พหลโยธิน ได้นำตัว นายกฤติเดช มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยขณะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เมื่อ น.ส.เพ็ญณี สีสินวัน อายุ 47 ปี แม่ของผู้ตายและกลุ่มเพื่อนๆ ได้มาร่วมดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น น.ส.เพ็ญณี ได้ถามว่า ยิงลูกเขาทำไม ตำรวจจึงต้องรีบกันตัว ผู้ต้องหาออกไป ขณะที่กลุ่มเพื่อนผู้ตายไม่พอใจ เนื่องจากผู้ต้องหาทำหน้ายิ้มและทำท่าชี้นิ้วใส่คนกลุ่มเพื่อของคนตาย จึงทำให้กลุ่มเพื่อนของคนตายพยายามวิ่งเข้าไปรุมทำร้าย ตำรวจจึงต้องรีบกันตัว ผู้ต้องหาออกไปทันที ก่อนนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา

น.ส.เพ็ญณีกล่าวว่า ก่อนวันเกิดเหตุลูกชายไลน์เข้ามาอวยพรวันเกิดตอนช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. เป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็มาเสียชีวิตในวันเกิดของตัวเอง ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่มาเกิดเหตุแบบนี้ ทั้งที่วันที่ 17 ก.ค.นี้ จะถึงวันเกิดลูกชายอยู่แล้ว

“อยากจะบอกว่าภูมิใจในตัวลูกชายมาก หลังจากเกิดเรื่องราวเลวร้ายขึ้นก็ยังไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากนี้ แม่อยากฝากถึงผู้ก่อเหตุว่า ทำอะไรทำไมไม่นึกถึงใจเขาใจเรา ถึงคุณจะรวยหรือมีเรื่อง แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำกับคนอื่นเช่นนี้ อีกอย่างคุณก็มีลูกเช่นกัน ทำไมคุณไม่คิดบ้าง เมื่อสักครู่กำลังจะเข้าไปถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจผลักออกมาจากบริเวณการทำแผนฯเสียก่อน” แม่ผู้ตายกล่าว ทั้งน้ำตา

ค่ำวันเดียวกัน นายพิเชษฐ์ ฤทธี อายุ 28 ปี คนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การภาคเสธว่าไม่ได้ก่อเหตุยิงผู้ตาย แต่สุดท้ายก็ไม่รอด ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายตามไปอีกราย

สราวุฒิ ศรีเพ็ชรสัย

สุรัตน์ สรรพคุณ

เรื่อง/ภาพ