คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ชนะ วสุรักคะ

เรื่อง/ภาพ

เมื่อบ่ายวันที่ 10 มี.ค. ร.ต.ท.เจริญพร รินทะระ รอง สว.(สอบสวน) สภ. เมืองนครพนม ถูกตามตัวให้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพหญิงสาวผูกคอตายในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ภายในซอยสว่างพัฒนา ชุมชนโพนสว่าง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม

ผู้หมวดหนุ่มรีบประสานแพทย์เวร ร.พ.นครพนม เจ้าหน้าที่ พฐ.ภ.จว.นคร พนม และกู้ภัยนครพนม รุดไปร่วมตรวจสอบทันที

ที่เกิดเหตุเป็นด้านหลังห้องพัก มีตะแกรงกรงเหล็กล้อมรอบ พบศพ น.ส.น้อย (นามสมมติ) อายุ 31 ปี ชาว ต.ท่าลาด อ.เรณูนคร เจ้าพนักงานประจำ สนง.แรงงาน จ.นครพนม สภาพศพสวมเสื้อแขนสั้นสีเหลืองสลับฟ้า กางเกงขาสั้นลายสกอตสีขาวสลับดำ มีผ้าพันคอสีน้ำตาลเทา ยาว 1.5 เมตร ผูกโยงกับโครงเหล็กตัวซี บริเวณเท้าผู้ตายมีเลือดหยดกองใหญ่

เจ้าหน้าที่นำร่างผู้ตายลงมาชันสูตรอย่างละเอียด พบว่าที่บริเวณใต้หน้าอกซ้าย-ขวาพบรอยจูบเป็นจ้ำแดง และที่บริเวณนิ้วเท้าด้านซ้ายพบแผลคล้ายของมีคมบาดที่นิ้วเป็นบาดแผลฉกรรจ์

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ขณะที่ภายในห้องนอนพบปมต้องสงสัยหลายประการ ทั้งร่องรอยการต่อสู้ ที่นอน หมอน ถูกของมีคมกรีดฉีกขาดกระจุย พบรอยเท้าที่หน้าห้องน้ำและด้านหลังห้องซึ่งเป็นจุดที่พบศพ และยังพบ มีดปอกผลไม้ 2 เล่ม กรรไกร 1 ด้าม ลูกตุ้มยกน้ำหนัก 1 อัน ปากกาสีน้ำเงิน 1 ด้าม ขนเพชร และกระดุมเสื้อนอน ผู้ตายตกอยู่ 1 เม็ดด้วย นอกจากนี้ที่บริเวณข้างห้องบนเก้าอี้หินปูนม้านั่งเล่นยังพบคราบเลือด 2 จุด จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน พร้อมรีบรายงานเหตุต้องสงสัยให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก. ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.อุกกฤษฏ์ ทรงชัยสงวน ผกก.สภ.เมืองนครพนม พ.ต.ท. ประสิทธิ์ มิรันตนไพร รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุขสวัสดิ์ บัวอิ่น รอง ผกก. พ.ต.ท.คมเดช รุ่งบุตรศรี สวป. รีบรุดมาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุทันทีที่ได้รับแจ้ง

จากการสอบสวน นายเล็ก (นามสมมติ) อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นผู้มาพบศพให้การว่า ทำงานที่เดียวกันและคบหาเป็นกิ๊กกับสาวผู้ตาย เคยมาหาที่ห้องที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง

ก่อนเกิดเหตุกลางดึกมาหาแต่เคาะประตูเรียกไม่มีเสียงตอบ ลองขยับกลอนประตูดูเห็นว่าไม่ได้ล็อกจึงเปิดเข้าไป กระทั่งพบศพแขวนคอตาย จึงรีบวิ่งออกมาก่อนโทร.แจ้งตำรวจ

งานนี้ตำรวจให้น้ำหนักไปทางฆาตกรรมอำพราง ซึ่งนายเล็กก็หนีไม่พ้นเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะที่บริเวณลำตัวของนายเล็กมีร่องรอยคล้ายถูกขีดข่วน เจ้าหน้าที่ พฐ.จึงเก็บหลักฐาน รวมทั้งตัดชิ้นเนื้อของผู้ตายเพื่อไปพิสูจน์หาดีเอ็นเอ

กระทั่งต่อมา พ.ต.อ.อุกกฤษฏ์สั่งการให้ชุดสืบสวนหาข้อมูลของสาวผู้ตายอย่างละเอียด รวมทั้งหาภาพจากกล้องวงจรปิดโดยรอบบริเวณหอพัก จนพบว่า น.ส.น้อย ผู้ตายไม่ได้คบหาอยู่แค่นายเล็กเท่านั้น แต่ยังมี นายประจักษ์ คำบัว หรือ นายเจี๊ยบ วัย 28 ปี หนุ่มคนขับรถสำนัก งานเดียวกันที่มีความสัมพันธ์กันอยู่

เมื่อตรวจสอบภาพวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงก็พบว่านายประจักษ์เป็นผู้ที่อยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย โดยหลังจาก นายประจักษ์ออกจากห้องพักไปแล้ว พักใหญ่นายเล็กจึงมาหาผู้ตาย จนพบว่าเสียชีวิตแล้ว

ตำรวจนำตัวนายประจักษ์มาสอบสวน โดยเจ้าตัวให้การว่าก่อนเกิดเหตุในคืน ดังกล่าวได้หลับนอนอยู่กับผู้ตายและ มีปากเสียงกัน เนื่องจากเกิดความหึงหวง จึงคว้ามีดมากรีดหมอนและที่นอน ก่อนจะออกจากห้องไป โดยตอนนั้นน.ส.น้อยยังมีชีวิตอยู่

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

เมื่อตำรวจนำช่วงเวลาที่ผู้ต้องสงสัย ทั้ง 2 คนให้การ และภาพจากวงจรปิดมาวิเคราะห์ จึงมั่นใจว่านายประจักษ์น่าจะเป็นคนร้าย เพราะนายเล็กไม่มีเวลาพอที่จะลงมือฆ่าผู้ตายแล้วนำศพให้ไปแขวนอำพรางคดีได้ทัน

เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยาน หลักฐานที่ตกกระจายเกลื่อนในที่เกิดเหตุ รวมทั้งรอยนิ้วมือแฝงของคนร้าย คราบเลือด จนกระทั่งนำไปสู่การออกหมายจับนายประจักษ์ในข้อหา “ทำร้ายร่างกาย ผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และซ่อนเร้น ย้ายหรือทำหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย”

นายประจักษ์ให้การปฏิเสธตลอดข้อหา พร้อมทั้งร้องขอความเป็นธรรม โดยเขียนข้อความในซองแปรงสีฟัน ระบุว่ากำลังตกเป็นแพะรับบาปจากคดีฆาตกรรมอำพราง โดยยืนยันในความบริสุทธิ์ใจและขอต่อสู้ให้ถึงที่สุด พร้อมระบุว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำ คนทำกำลังจะลอยนวล

ตร.นำตัวนายประจักษ์ไปชี้จุดที่อยู่ตามคำให้การ ทั้งที่ในห้องพัก มีดที่กรีดที่นอน บริเวณกอไผ่ห่างจากหอพัก 50 เมตร เป็นจุดที่อ้างว่าขับรถสวนกับรถเก๋งนายเล็กที่มาพบศพเป็นคนแรก โดยเจ้าตัวยังยืนยันในความบริสุทธิ์ พร้อมทั้งจุดธูปบอกดวงวิญญาณของน.ส.น้อยผู้ตายให้ดลบันดาลให้จับฆาตกรตัวจริงได้

กระทั่งวันที่ 22 มี.ค. ผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ก็ออกมา แต่ไม่เป็นผลดีกับนายประจักษ์ เพราะพบว่ารอยนิ้วมือแฝงบนผ้าพันคอและราวเหล็กที่ใช้เป็นขื่อผูก รวมทั้งดีเอ็นเอคราบเลือดของคนร้าย ตรงกับดีเอ็นเอของนายประจักษ์ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตพบว่ามีการทำให้ขาดอากาศหายใจ ก่อนนำไปแขวนคออำพรางคดี

จะผิดถูกอย่างไร ต้องยกให้เป็นดุลพินิจของศาลยุติธรรมที่จะเป็นผู้ตัดสิน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน