คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล

อนุวัสส์ ศิวราศักดิ์

เรื่อง/ภาพ

หญิงสาวไปไหนมาไหนในที่เปลี่ยวเพียงลำพัง อาจจะไม่ปลอดภัย เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไป แต่ใครจะคาดคิดว่าแม้ขณะ พักอยู่ในห้องพัก ก็หาได้พ้นจากภัยร้ายที่คืบเข้ามาไม่

เรื่องนี้ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี หญิงสาวชาวกาฬสินธุ์ ที่จากบ้านเกิดมาทำงานที่เมืองพัทยาเพียงลำพังตัวคนเดียว รู้ซึ้งเป็นอย่างดี เพราะเจ้าตัวเพิ่งประสบเหตุร้ายมาสดๆ ร้อนๆ

ย้อนไปเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 มี.ค. พ.ต.ท.ปวัชร์ชัย สุดสคร รอง ผกก.(ป.) สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย รอง สวป. และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ถูกแจ้งให้ ไปรับตัวคนร้าย ที่ถูกกลุ่มผู้เสียหายรุมประชาทัณฑ์จนได้รับบาดเจ็บ

เหตุเกิดบริเวณร้านซ่อมรถจยย. ปากซอยก่อไผ่ ถนนพัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ในที่เกิดเหตุพบคนร้ายทราบชื่อว่านายสุริยา พรมพิรา อายุ 22 ปี บ้านอยู่ จ.ร้อยเอ็ด สวมเสื้อคลุมผ้ายืดแขนยาว กางเกงลายพรางขายาว นอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้น ได้รับบาดเจ็บบริเวณแผ่นหลังมีอาการปวดจน ลุกนั่งไม่ได้

เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยาปฐมพยาบาลแล้วนำส่งโรงพยาบาลเมืองพัทยา

ด้านน.ส.เอ อายุ 20 ปี ผู้เสียหายซึ่งพักอยู่ที่ห้องเช่าใกล้ๆ ที่เกิดเหตุ เล่าว่า นายสุริยากับตนเองเคยรู้จักกันมาก่อน แต่ไม่เคยเจอกันมานานหลายปีแล้ว

จู่ๆ วันนี้นายสุริยา เดินถือแก้วเหล้าและมีอาการเมามาที่ห้องบอกมาขอข้าวกินหน่อย ตนเห็นว่ารู้จักกัน จึงเปิดห้องให้เข้ามาแล้วกำลังจะหาอะไรให้กิน แต่พอตนเผลอนายสุริยาก็จับตนกดลงบนที่นอน พยายามจะข่มขืนตน

น.ส.เอเล่าต่อว่า ตนต่อสู้ขัดขืนร้องให้เพื่อนข้างห้องช่วย พร้อมบอกว่ามีแฟนแล้ว แต่นายสุริยาไม่ยอมฟัง ซ้ำยังชกเข้าที่ท้อง และใบหน้าตนจนหมดทางสู้ ก่อนลงมือข่มขืน แต่ขณะนั้นเพื่อนตนได้ยินเสียงจึงเข้ามาช่วย นายสุริยารีบใส่เสื้อผ้าแล้ววิ่งหนีออกไป ก่อนเพื่อนตนประมาณ 3-4 คน วิ่งตามแล้วมาทันบริเวณร้าน ซ่อมรถจยย. จึงช่วยกันรุมจับแต่นายสุริยาขัดขืนจึงได้รับบาดเจ็บ

ตำรวจสอบปากคำนายสุริยา ให้การว่าเป็นทหารเกณฑ์ที่ ร.16 พัน. 1 จ.ร้อยเอ็ด ก่อนเกิดเหตุมาหาพี่กับเพื่อนที่พัทยา หลังทาง กรมทหารได้ปล่อยให้กลับบ้าน และกำลังจะกลับวันนี้

จึงมาหาน.ส.เอ ที่เคยรู้จักกันและพยายามจะมีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่ น.ส.เอไม่ยอม ตนจึงใช้กำลัง ก่อนถูกกลุ่มเพื่อนของ น.ส.เอ บุกเข้ามาช่วย ตนจึงวิ่งหนีก่อนมาถูกรุมกระทืบได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ตำรวจต้องควบคุมตัวนายสุริยา ไปส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ก่อนพาตัวมาสอบสวนดำเนินคดีที่ สภ.เมืองพัทยาต่อไป

นับว่านายสุริยายังโชคดี ไม่เหมือน นายนาย อายุ 20 ปี หนุ่มหื่นชาวพม่า ที่ก่อเหตุบุกห้องสาวชาติเดียวกันหวังจะขืนใจ แต่ถูกสาวใจเด็ดแทงสวนด้วยมีดจนตายคาที่

เช้าวันที่ 18 มี.ค. ร.ต.อ.เกียรติศักดิ์ เกิดโชค รองสว.สอบสวน สภ.บางเสาธง รับแจ้งมีเหตุคนร้ายพยายามข่มขืน แต่ถูก ผู้เสียหายใช้อาวุธมีดแทงเสียชีวิต ภายในห้องพักชั้น 3 ของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ใน ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ

จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุเนตร หอกลาง ผกก.สภ.บางเสาธง พ.ต.ท.กานตภณ วรรณา รองผกก.สส. พ.ต.ท.ปราการ จงประสิทธิ์ สว.สส. พร้อมชุดสืบสวน สภ.บางเสาธง แพทย์เวร ร.พ.บางพลี และเจ้าหน้าที่พฐ.

ในที่เกิดเหตุภายในห้องสภาพข้าวของกระจัดกระจายและมีร่องรอยการต่อสู้ มีรอยเลือดหยดกระจายบริเวณหน้าห้อง ร่าง นายนาย อายุ 20 ปี นอนหงายจมกองเลือด เสียชีวิต สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลม กางเกงยีนส์ขายาว พบบาดแผลถูกแทง ด้วยมีดเข้าที่หน้าอกซ้ายเหนือหัวใจ 1 แผล นอกจากนี้ยังพบมีดปอกผลไม้ยาวประมาณ 6 ซ.ม. เปื้อนเลือดตกอยู่กลางห้อง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

น.ส.ริน (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ผู้ เสียหายซึ่งอยู่ในอาการตกใจ ให้การผ่านล่ามว่า ก่อนเกิดเหตุอยู่ระหว่างอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงานที่โรงงานผลิตอะไหล่รถยนต์ใกล้ที่พัก ขณะนั้นมีคนมาเคาะห้อง ซึ่งตนเข้าใจว่าเป็นพี่สาวที่พักอยู่ห้องตรงข้าม จึงนุ่งผ้าถุงกระโจมอกออกไปเปิดประตูแต่กลับเป็นคนร้าย คนร้ายผลักตนเข้ามาในห้อง กอดรัดปลุกปล้ำจะข่มขืน แต่ตนต่อสู้ จนถูกคนร้ายเหวี่ยงตัวลงพื้น และล้มลงทั้งคู่

ตนเห็นมีดปอกผลไม้อยู่ใกล้ๆ จึงคว้ามีดแทงใส่คนร้าย จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปเคาะประตูห้องของพี่สาวเพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อพากันเข้ามาดูก็พบว่าคนร้ายตายเสียแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

“เมื่อคืนเขามาเคาะห้องทำทีถามหาคนซึ่งไม่รู้จักรอบหนึ่งแล้ว ตอนนั้นเห็นว่าไม่น่าไว้ใจจึงไม่คุยด้วยและรีบปิดประตูหนี จนย้อนมาก่อเหตุในตอนเช้าวันนี้” น.ส.รินกล่าว

เมื่อตำรวจสอบถามพยาน ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ตายก็ทราบว่า ได้เข้ามาขอพักอาศัย อยู่ด้วยราว 7 วัน โดยเมื่อเช้าเดินออกจาก ห้องพักที่อยู่ชั้น 2 แต่ไม่ได้บอกว่าไปไหน และจากการตรวจกล้องวงจรปิดก็พบภาพ ผู้ตายในช่วงเวลาดังกล่าว เดินมาเคาะห้องที่เกิดเหตุและหายเข้าไปในห้องพัก ครู่ต่อมาก็มีผู้หญิงวิ่งออกมาจากห้องมาเคาะห้องฝั่ง ตรงข้ามซึ่งตรงกับคำให้การของเหยื่อสาว

คดีนี้ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหาน.ส.ริน แต่ก็เป็นไปได้อย่างมาก ว่าจะเข้าข่ายเป็นการป้องกันตัว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน