เปิดผลงานโชว์อาเซียน

ตำรวจผนึกกรมประมง

ลุยจับใหญ่เรือผิดกฎหมาย

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

เปิดผลงานโชว์อาเซียน ตำรวจผนึกกรมประมง ลุยจับใหญ่เรือผิดกฎหมาย – ประเทศไทยประสบปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรสัตว์น้ำทะเล จากการทำประมงเกินกำลังการผลิตและการทำประมงที่ผิดกฎหมาย หรือ IUU Fishing (Illegal Unreported and Unregulated Fishing)

ที่ผ่านมารัฐบาลไทย ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหาการประมง IUU ของไทยเป็นวาระแห่งชาติ และดำเนินการปฏิรูปการประมงในทุกมิติ

ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา ปรากฏเป็นรูปธรรมที่แสดงถึงพัฒนาการของไทย โดยรัฐบาลไทยจัดตั้ง “ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย” หรือ ศปมผ. เพื่อเป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการการแก้ปัญหา ออกพระราชกำหนดการประมงที่มีความทันสมัยและสอดคล้องกับกฎระเบียบระหว่างประเทศสำรวจกองเรือประมงและทบทวนการอนุญาตทำการประมงทั้งระบบ

รวมถึงเริ่มจัดทำและใช้แผนปฏิบัติการระดับชาติ หรือ NPOA-IUU และแผนการบริหารจัดการประมงทะเลของประเทศไทย หรือ FMP

ในการนี้รัฐบาลไทยได้แก้ไขปัญหา การพัฒนาปรับปรุง อย่างเป็นระบบ และอย่างมีประสิทธิภาพ ตามกฎ ระเบียบ และกติกาสากล โดยมีทั้งหมด 6 ด้าน

ด้านแรก-กรอบกฎหมาย ด้านสอง-การบริหารจัดการประมง ด้านสาม-การบริหารจัดการกองเรือ ด้านสี่-การติดตาม ควบคุมและเฝ้าระวัง ด้านห้า-การตรวจสอบย้อนกลับ และด้านหก-การบังคับใช้กฎหมาย

ซึ่งทั้ง 6 ด้าน ประเทศไทยมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ในระดับมาตรฐานสากล ส่งผลให้สหภาพยุโรปปลดใบเหลืองให้ไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จที่ไทยได้ยกระดับของการทำประมงเชิงพาณิชย์ ทั้งในและนอกน่านน้ำเข้าสู่มาตรฐานสากลซึ่งเป็นเป้าหมายหลัก

โดยต้องการให้ประมงพื้นบ้านยังคงสามารถมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ไม่ได้รับผลกระทบหรือเดือดร้อน ส่วนประมงพาณิชย์ก็มีการจัดระบบเข้าสู่มาตรฐานสากลที่นานาชาติให้การยอมรับ

ในประเด็นแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายให้หมดไปจากภูมิภาค ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมประมง ได้ปฏิบัติการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบช.กมค. ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการบังคับใช้กฎหมาย ศูนย์บัญชาการการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ได้ลงพื้นที่พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ชุด SAT (Spacial Arrest Team) ปฏิบัติการร่วมกับกรมประมงในการจับกุมเรือประมงทำผิด 96 ลำ ที่ จ.ระนอง

พล.ต.ท.จารุวัฒน์เผยว่า ตาม นโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ให้ติดตามกำกับดูแลเกี่ยวกับการทำประมงผิดกฎหมาย และโดยการสั่งการของพล.อ.ประวิตร ให้เข้มงวดกวดขันการทำประมงผิดกฎหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับจุดยืนของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายให้หมดไปจากภูมิภาค

โดยระหว่างเดือนมิ.ย.-ก.ค.62 ได้ส่งเจ้าหน้าที่จับกุมเรือประมงผิดกฎหมาย 2 กลุ่ม ประกอบด้วย

เรือกลุ่มที่ 1 จำนวน 7 ลำ ในพื้นที่จ.ระนอง ความผิดฐานปลอมแปลงปิดบังหรือเปลี่ยนแปลงเครื่องหมายประจำเรือประมง หรือทะเบียนเรือประมง

เรือกลุ่มที่ 2 จำนวน 89 ลำ ซึ่งกักและล็อกไว้ ณ ท่าเทียบเรือต่างๆ ในจ.ระนอง ดำเนินคดีในข้อหาเป็นผู้ควบคุมเรือลักลอบนำเรือประมงต่างประเทศเข้ามาในน่านน้ำไทยและเข้าเทียบท่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมประมง

จากการปฏิบัติภารกิจกวาดล้างจับกุมการทำประมงผิดกฎหมายในครั้งนี้ พล.ต.ท.จารุวัฒน์กล่าว ด้วยว่า

“ปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมการทำประมงผิดกฎหมาย แสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจและศักยภาพของประเทศไทยระหว่างดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน รวมทั้งแสดงจุดยืนของภูมิภาคอาเซียนที่จะปลอดการทำประมงผิดกฎหมายให้หมดไปจากภูมิภาค”

โดยที่ผ่านมาจากการเข้มงวดกวดขันของตำรวจและกรมประมง ในการควบคุมการทำประมงผิดกฎหมาย ทำให้สถิติการเกิดคดีการทำประมงผิดกฎหมายลดลงอย่าง ต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2559 มีจำนวน 3,270 คดี ปี 2560 จำนวน 958 คดี ปี 2561 จำนวน 574 คดี และปี 2562 จนถึงปัจจุบัน 333 คดี

ล่าสุดจากการทำประมงผิดกฎหมาย เมื่อเดือนพ.ค.62 ที่ผ่านมา ศาลสั่งปรับเรือโชคชัยนาวี พร้อมยึดเรือสินค้าบนเรือมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท

นอกจากนั้นยังบังคับใช้กฎหมายกับชาวประมงที่ลักลอบจับปลาโลมา ตามพระราชกำหนดประมง

การปฏิบัติที่ต่อเนื่องและจริงจังแสดงให้เห็นถึงจุดยืนของไทยในการขจัดทำประมงผิดกฎหมายให้หมดไปจากภูมิภาค


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน