สดจากสนามข่าว : ย้อนคดีจับจ่าทหารเรือควงปืนยิงสนั่นจี้แบงก์รับเจ๊งหุ้นหาเงินใช้หนี้
ย้อนคดีจับจ่าทหารเรือควงปืนยิงสนั่นจี้แบงก์รับเจ๊งหุ้นหาเงินใช้หนี้ : พนักงานในธนาคารทหารไทย สาขาถนนเบญจมราชูทิศ อ.เมือง จ.จันทบุรี ต้องตกตะลึงกับเสียงปืนที่ ดังขึ้นถึง 2 นัดซ้อนภายในธนาคาร ทุกสายตาที่หันไปมองเห็นภาพชาย รูปร่างผอม สวมเสื้อแจ๊กเกตสีดำแบบมีฮู้ดคลุมศีรษะแขนยาว ใช้แมสก์ปิดจมูก ก็รับรู้ได้ทันทีว่ากำลังถูกโจรปล้น
3 โมงครึ่ง วันที่ 30 ส.ค. พ.ต.อ.สุเทพ บุญค้ำ และ พ.ต.อ.ณพล นามนารถ รอง ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.คมน์สรณ์ มาบำรุง ผกก.สภ.เมืองจันทบุรี พ.ต.ท.ปิติ พานิช รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.ธัญภัทร บุญสุข รอง ผกก.สส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สายตรวจและเจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐาน
รุดไปตรวจสอบภายในธนาคารทหารไทย สาขาถนนเบญจมราชูทิศ อ.เมือง จ.จันทบุรี ภายหลังเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงเงินสดของธนาคารไปได้ 146,310 บาท แล้วหลบหนีไปขึ้นรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีแดง กรุงเทพมหานคร ไม่ทราบหมายเลขและตัวอักษร ที่จอดห่างจากธนาคารไปกว่า 300 เมตร แล้วหลบหนีไป
ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในธนาคาร พบคนร้ายเป็นชาย รูปร่างผอม สวมเสื้อแจ๊กเกตสีดำแบบมีฮู้ดคลุมศีรษะแขนยาว ใช้แมสก์ปิดจมูก บุกเข้าไปหลังจากทางธนาคารปิดให้บริการ โดยอาศัยจังหวะที่แม่บ้านของธนาคารกำลังเปิดประตูทางเข้า
พอเข้าไปได้คนร้ายก็ใช้อาวุธปืนพกที่ใช้ผ้าห่อคลุมไว้ยิงข่มขู่พนักงานไป 2 นัด จากนั้นตรงเข้าไปกวาดเงินบริเวณเคาน์เตอร์ ก่อนวิ่งมายังประตูแต่พบว่าประตูกระจกของธนาคารปิดล็อกอยู่ คนร้ายกระโดดถีบหนึ่งครั้งแต่ไม่สำเร็จ จึงเปลี่ยนมาใช้อาวุธปืนยิงใส่หนึ่งนัด จนกระจกแตกละเอียด จากนั้นวิ่งหลบไป
โดยคนร้ายที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณแขน จากการโดนเศษกระจกประตูบาด วิ่งหลบหนีไปทางชุมชนริมน้ำจันทบูร ด้านหลังธนาคาร ข้ามสะพานมุ่งหน้าเข้าไปภายในวัดจันทนาราม ซึ่งคาดว่าเป็นจุดนัดหมายที่เพื่อนขับรถยนต์ โตโยต้า ยาริส สีแดง มาจอดรถไว้แล้วพากันขับหลบหนีไป
ชุดสืบสวนเร่งไล่เช็กกล้องวงจรปิดตามเส้นทางจนได้ภาพรถของคนร้าย โดยพบว่าเป็นรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีแดง ทะเบียน 3กฆ 8667 กรุงเทพมหานคร เมื่อไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดไปจนสุดเส้นทาง พบว่ารถคนร้ายเลี้ยวเข้าไปภายในค่ายทหารแห่งหนึ่ง
ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 31 ส.ค. ที่ห้องประชุม สภ.เมืองจันทบุรี นายวิทูรัช ศรีนาม ผวจ.จันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ สวนคลี่คลายคดี ร่วมกันแถลงผลการจับกุม จ.อ. ประทีป หรือต้น ฟองจางวาง ทหารสังกัดกองทัพเรือผู้ต้องหาใช้
นายวิทูรัชเปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งลงพื้นที่แกะรอยกล้องวงจรปิดหาเบาะแสล่าตัว จนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือจ.อ.ประทีป ที่ถูกย้ายมาช่วยราชการที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.จันทบุรี ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าหลังเกิดเหตุ ขับรถกลับเข้าไปกบดานในค่ายทหารที่ประจำการอยู่
เจ้าหน้าที่จึงประสานผู้บังคับบัญชาของจ.อ.ประทีป เพื่อขอรับมอบตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี เมื่อไปถึงค่ายทหารดังกล่าวเจ้าหน้าที่แสดงตัวจับกุม พบที่มือซ้ายของผู้ต้องหามีบาดแผลที่เกิดจากการถูกเศษกระจกบาดขณะวิ่งหลบหนี จึงมั่นใจว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุตัวจริง
พร้อมพาไปตรวจยึดของกลางทั้งรถยนต์โตโยต้า ยาริส ทะเบียน 3กฆ 8667 กรุงเทพมหานคร พาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุ, อาวุธปืนพก, เงินสด 104,800 บาท และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ ก่อนควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ สภ.เมืองจันทบุรี
จ.อ.ประทีปรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริงและกระทำการเพียงคนเดียว ก่อนก่อเหตุขับรถยนต์ไปจอดไว้ที่วัดจันทนาราม ต.จันทนิมิต อ.เมือง จ.จันทบุรี จากนั้นเดินเท้าไปก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ธนาคารดังกล่าว โดยใช้เส้นทางถนนสุขาภิบาลริมน้ำ เสร็จแล้ววิ่งกลับมาที่รถขับหลบหนีไปยังพื้นที่ อ.ขลุง ก่อนย้อนกลับไปที่ค่ายทหารที่ประจำการอยู่
ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจบุกชิงทรัพย์ในธนาคาร เนื่องจากต้องการเงินไปใช้หนี้ที่เกิดจากการเล่นหุ้นและหาทางออกไม่ได้ หลังก่อเหตุคิดสำนึกผิดที่ทำให้เสื่อมเสียวงศ์ตระกูล ถึงขั้นจะคิดสั้นฆ่าตัวตายหนีความผิด แต่เมื่อทางผู้บังคับบัญชาติดต่อมาพูดคุยจึงเปลี่ยนใจ ขอเข้ามอบตัวดังกล่าว
หลังการสอบสวนทางตำรวจแจ้งข้อหา “ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและยานพาหนะ” ประสานต้นสังกัดของจ.อ.ประทีป มารับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อธิคม สิงขรณ์
เรื่อง/ภาพ