2คดีสลดสองครอบครัว
ง้อไม่สำเร็จ–ลั่นไกดับคู่
ผัวจีนฆ่าเปลือยเมียไทย
คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ผัวจีนฆ่าเปลือยเมียไทย – คํ่าวันที่ 4 ก.ย. ร.ต.อ.เจตจำนง นุกาศ รอง สว.(สอบสวน) สภ.แม่อ้อ อ.พาน จ.เชียงราย ได้รับรายงานเหตุพบผู้ถูกยิงเสียชีวิต 2 ราย ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่บ้านจำผักกูด หมู่ 5 ต.แม่อ้อ อ.พาน
จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.จรัญ สุวรรณเวศ สารวัตรใหญ่ สภ.แม่อ้อ กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ภายในห้องนอนของบ้านพักหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบศพชายและหญิงนอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน ทราบชื่อต่อมาคือ นายจันดี (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี สภาพใส่เสื้อแขนสั้นสีขาว และกางเกงขายาวสีดำ แต่งตัวภูมิฐาน คล้ายเพิ่งกลับจากทำงาน ส่วนฝ่ายหญิงชื่อ นางศรีวิไล (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี สภาพสวมเสื้อแขนสั้นสีขาว และกางเกงขาสั้นสีดำ
ตร.เชียงรายตรวจที่เกิดเหตุ
ทั้งคู่มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนเข้าที่ขมับ คนละ 1 นัด พบอาวุธปืน .38 ตกอยู่ระหว่างศพทั้งคู่ พบลูกสาวของฝ่ายหญิงยืนรอพบเจ้าหน้าที่ ท่ามกลางความตื่นตกใจของชาวบ้านและญาติ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เก็บปลอกกระสุนที่ตกอยู่ไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ทั้งคู่เคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแต่ได้แยกทางหย่าร้างกันมาได้ระยะหนึ่ง โดยนางศรีวิไลอาศัยอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนนายจันดีไปทำงานที่อื่น ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุมีผู้พบเห็นฝ่ายชายออกตามหานางศรีวิไล ตั้งแต่เวลาประมาณ 03.00 น.ของวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุดังกล่าว ขึ้น เนื่องจากไม่มีผู้ใดได้ยินเสียงปืนหรือการทะเลาะวิวาทมาจากบ้านหลังดังกล่าว จนลูกสาวของฝ่ายหญิงไปเปิดประตูห้องก็พบว่าทั้งคู่ได้เสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าฝ่ายชายตามมาง้อขอคืนดีฝ่ายหญิงไม่สำเร็จ จึงใช้ปืนยิงฝ่ายหญิงก่อนจะยิงตัวเองเสียชีวิต
ขณะที่ก่อนหน้านั้นก็เกิดคดีสามี ฆ่าภรรยาในท้องที่ สภ.เมืองพิษณุโลก โดยเมื่อวันที่ 2 ก.ย. ร.ต.อ.สมเกียรติ บุญมีจิว รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งมีหญิงสาวถูกฆาตกรรมอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 7 ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ทรงพล สังข์เกษม ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก, พ.ต.ท.มนู หรศาสตร์ รอง ผกก.(สอบสวน), พ.ต.ท.วรุต คณานนท์ รอง ผกก.สส., เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6, แพทย์เวรโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ
ที่เกิดเหตุฆ่าเมีย
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวมีรั้วรอบ ขอบชิด เนื้อที่ประมาณ 50 ตารางเมตร ภายในห้องนอนพบศพน.ส.นันพิกา เกตุทอง อายุ 41 ปี เจ้าของบ้าน สภาพศพถูกห่อคลุมด้วยผ้าห่ม มีเลือดไหลกองเต็มพื้น หลังจากเปิดออกดูพบว่าสวมเสื้อลายเทาดำแขนยาว ท่อนล่างเปลือยเปล่า มีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมที่บริเวณศีรษะ 2 แห่ง และหางตาข้างขวา 1 แห่ง เป็นแผลฉีกขาดฉกรรจ์ นอกจากนั้นมือยังถูกมัดโยงไปมัดเท้าด้วยเชือกไนลอนสีขาว คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 48 ชั่วโมง
สอบสวนญาติทราบว่าน.ส.นันพิกาพักอาศัยอยู่ กับสามีชาวจีน ชื่อนายยี อี่ ไซ่ หรือเหลียง อายุ 41 ปี โดยเปิดร้านขายน้ำเต้าหู้อยู่บริเวณสี่แยกวุ่นวาย ถนนสิงหราชเดโชชัย ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก
เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา น.ส.นันพิกาได้โทรศัพท์มาหาน้องชายจะให้ไปรับที่สนามบิน จ.พิษณุโลก แต่ไม่ได้บอกว่าให้มารับเวลากี่โมง จากนั้นก็ หายเงียบไปเฉยๆ จึงเข้าใจว่าอาจจะให้นายยี อี่ ไซ่ เป็นคนมารับกลับบ้านแทน กระทั่งต่อมาโทร.ติดต่อไม่ได้ ทำให้เกิดความสงสัยและเอะใจจึงมาดูที่บ้าน
ปรากฏว่าประตูรั้วถูกปิดล็อก ตะโกนเรียกเท่าไรก็ไม่มีใครออกมาเปิด มีเพียงสุนัขพันธุ์บางแก้ว 2 ตัว โดยปกติแล้วจะขัง ไว้ในกรง แต่ถูกปล่อยออกมาข้างนอก จึงได้แจ้ง เจ้าหน้าที่มาช่วยตัดกุญแจบ้านเพื่อตรวจสอบ หลังจากเปิดประตูเข้าไปถึงกับผงะเพราะได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากห้องนอน อย่างรุนแรง กระทั่งเข้าไปพบศพของน.ส. นันพิกา ส่วนนายยี อี่ ไซ่ หายตัวไปพร้อมกับรถกระบะโตโยต้า สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน
น.ส.นันพิกา เกตุทอง
เพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงรายหนึ่งเปิดเผย ว่า เมื่อช่วงเวลา 22.00 น.ของคืนวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันดังลั่นมาจากที่บ้านหลังเกิดเหตุ และมีเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครสนใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นเรื่องในครอบครัว กระทั่งวันนี้มาทราบเหตุสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้น
ปกติแล้วน.ส.นันพิกาเป็นคนมีน้ำใจกับคน ละแวกบ้าน ชอบนำน้ำเต้าหู้มาแบ่งให้เพื่อนบ้านเป็นประจำ ส่วนนายยี อี่ ไซ่ ไม่เคยออกมาสุงสิงกับใคร นิสัยขี้โมโหอารมณ์ร้อน และเคยก่อเหตุชกภรรยาจนฟันหักมาแล้ว
นายยี อี่ ไซ่ หรือเหลียง คนร้าย
หลังได้ข้อมูล พ.ต.อ.ทรงพลประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จนพบว่านายยี อี่ ไซ่ เดินทางออกนอกประเทศไปแล้วที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 1 ก.ย. เวลา 10.08 น. คาดว่าน่าจะมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการฆาตกรรมอำพรางในครั้งนี้ พร้อมกับได้ขออำนาจหมายศาลจังหวัดพิษณุโลกออกหมายจับแล้ว โดยจะประสานกับตำรวจสากลเร่งติดตามตัว คาดว่าหลบหนีกลับไปยังประเทศจีนแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งประสานติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ชายชาญ ไชยมั่น /อนุชา แก้วคำมา
เรื่อง/ภาพ
