คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

พิรยุทธ นิ่มนนท์

เรื่อง/ภาพ

ทุกอาชีพการงาน ล้วนมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายทั้งนั้นไม่มากก็น้อย ยิ่งกับอาชีพช่าง ที่ต้องทำงานอยู่กับเครื่องมือเครื่องจักร หากไม่เข้าใจขั้นตอนการทำงานให้ถ่องแท้ ฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ และที่สำคัญปฏิบัติตามขั้นตอนความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดแล้วล่ะก็

ไม่วันใดก็วันหนึ่ง อาจต้องพบเจอชะตากรรมเช่นเดียวกับ นายนิกรรณ์ คงทวี และ นายสายฟ้า ยอดศิริ 2 ช่างแอร์ที่ต้องบาดเจ็บสาหัสแทบเอาชีวิตมาทิ้ง จากเหตุคอมเพรส เซอร์แอร์ระเบิดขณะกำลังลงมือซ่อม

บ่ายโมงครึ่งวันที่ 3 เมษายน ผู้คนบริเวณซอยรามคำแหง 43/1 ถนนรามคำแหง แขวงและเขตหัวหมาก กทม. ต้องพากันตกใจกับเสียงระเบิด ที่ดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นบริเวณข้างร้านเสริมสวย ชื่อยุ้ยแฮร์ดีไซน์ เศษชิ้นส่วนสะเก็ดระเบิดกระเด็นกระดอนไปทั่วบริเวณ ตัวอาคารและรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้เคียง พลอยได้รับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิดที่ไปไกลหลายสิบ เมตร

ร.ต.ท.ยุทธพงษ์ แต้มทอง รองสว.(สอบสวน)สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุคอมเพรสเซอร์แอร์ระเบิด มีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย ทรัพย์สินเสียหายหลายรายการ เหตุเกิดบริเวณร้านเสริมสวยยุ้ยแฮร์ดีไซน์ เลขที่ 33 ซอยรามคำแหง 43/1 ถนนรามคำแหง แขวงและเขตหัวหมาก จึงไปตรวจสอบพร้อม ด้วย ร.ต.อ.พิชญะ ชาญณรงค์ รอง สว.กก.4 บก.ส.1 ปฏิบัติหน้าที่ชุดสะกดรอยติดตาม บก.ส.1 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน หน่วยแพทย์กู้ชีพเอราวัณ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าและมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเข้ามาในซอยประมาณ 50 เมตร เป็นอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น ปลูกติดกันหลายคูหา บริเวณห้องเลขที่ 33 เปิดเป็นร้านเสริมสวย สภาพฝ้าพังเสียหาย กระจกแตกกระจายเกลื่อน พบ น.ส.ฤทัยภัทร มาภักดี อายุ 33 ปี เจ้าของบ้านและร้านเสริมสวย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

ลึกเข้าไปด้านหลังอาคารประมาณ 16 เมตร พบชิ้นส่วนซากคอมเพรสเซอร์แอร์ระเบิดตกอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ใกล้กันพบรถยนต์ 6 คัน ได้รับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิด

ใกล้กันยังพบผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย เป็นช่างที่มาซ่อมแอร์ ทราบชื่อมี นายนิกรรณ์ คงทวี อายุ 30 ปี สภาพแขนขวาขาดตั้งแต่ไหล่ลงไป และ นายสายฟ้า ยอดศิริ อายุ 23 ปี ไส้ทะลักออกมา จึงรีบนำส่งร.พ.รามคำแหง

ขณะเดียวกันส่วนฝาครอบคอมเพรสเซอร์แอร์ ซึ่งกระเด็นไปไกลประมาณ 10 เมตร ยังตกลงใส่หลังคาของบ้านเลขที่ 2163 จนทะลุได้รับความเสียหาย และกระจกบานเลื่อนประตูแตก

ด้าน น.ส.ฤทัยภัทร เจ้าของร้านเสริมสวย ให้การว่าได้จ้างช่างแอร์ที่รู้จักกันมาซ่อมแอร์เนื่องจากไม่เย็น แต่ขณะที่ทั้งคู่กำลังตรวจซ่อมอยู่ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นถึงได้เกิดระเบิดขึ้นจนทั้งคู่บาดเจ็บสาหัส และมีทรัพย์สินเสียหายดังกล่าว

หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้ประสานเจ้าหน้าที่พฐ.เข้าตรวจสอบเพื่อเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนนำไปตรวจสอบหาสาเหตุของการระเบิดต่อไป

เหตุการณ์คอมเพรสเซอร์แอร์ระเบิดจนมีช่างแอร์บาดเจ็บและ เสียชีวิตเกิดขึ้นมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจและไม่ทราบว่าเกิดขึ้นมาจากสาเหตุอะไรกันแน่ สุดท้ายความไม่รู้เลยกลายเป็นความกลัว

นายสมนึก ชีพพันธุ์สุทธิ์ อุปนายกสมาคมวิศวกรรมปรับอากาศแห่งประเทศไทย ออกมาเฉลยสาเหตุเพื่อคลายข้อสงสัยว่า อยากชี้แจงในรายละเอียดของการทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ เพื่อเป็นความรู้ให้กับช่างแอร์และประชาชน

ที่ระบุว่าคอมเพรสเซอร์แอร์เกิดระเบิดนั้นเป็นไปไม่ได้ โดยคอมเพรสเซอร์จะไม่มีการระเบิดไม่ว่ากรณีใด มีเพียงการชอร์ตของตัวคอมเพรสเซอร์เท่านั้น แต่หากมีการตรวจสอบรอยรั่วของท่อแอร์และใช้ช่างที่ไม่มีความรู้ โดยอัดก๊าซออกซิเจนเข้าไปเพื่อหารอยรั่ว จะทำให้เกิดแรงดันภายในจนทำให้เกิดระเบิดได้ เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งและมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตมาแล้วหลายราย

การจะไม่ให้คอมเพรสเซอร์แอร์ระเบิดขณะตรวจสอบรอยรั่วนั้น ช่างแอร์จะต้องใช้ก๊าซไนโตรเจนในการตรวจสอบหารอยรั่ว เพราะไนโตรเจนไม่ติดไฟและไม่มีปฏิกิริยากับคอมเพรสเซอร์แอร์ แต่มีราคาต้นทุนสูงกว่าและมีน้ำหนักมาก

แต่ถ้าใช้ออกซิเจนเป็นตัวหารอยรั่วจะเกิดการระเบิดได้ จึงห้ามใช้ออกซิเจนอัดตรวจหารอยรั่วโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ยังห้ามใช้ไนโตรเจนโดยไม่ผ่านชุดลดความดัน(เร็กกูเรเตอร์)ด้วย โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นจากการนำออกซิเจนอัดหารอยรั่ว

“ก๊าซออกซิเจนบริสุทธิ์เป็นตัวช่วยให้น้ำมันคอมเพรสเซอร์ติดไฟหรือเกิดการระเบิดได้ โดยไม่ต้องมีประกายไฟ เพียงแค่น้ำมันในคอมเพรสเซอร์ได้รับความร้อนเท่านั้น ก็สามารถระเบิดได้แล้ว” นายสมนึกกล่าว

อีกหนึ่งอุทาหรณ์สำหรับผู้มีอาชีพเป็นช่าง รวมทั้งบุคคลทั่วไป จะทำอะไรต้องศึกษาเรียนรู้ให้เข้าใจเสียก่อนจึงจะลงมือทำ และท่องจำไว้ให้ขึ้นใจว่า ปลอดภัยไว้ก่อน ห้ามประมาทโดยเด็ดขาด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน