คดีพลิก–วิ่งราวพนง.สาว ที่แท้ลักเงินบริษัทเกลี้ยง
ใช้พี่ชายเป็นโจรกำมะลอ : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
คดีพลิก–วิ่งราวพนง.สาวที่แท้ลักเงินบริษัทเกลี้ยงใช้พี่ชายเป็นโจรกำมะลอ : “หนูเอาเงินบริษัทไปใช้หนี้สินจนหมด เลยวางแผนให้พี่ปลอมตัวเป็นโจรวิ่งราวกระเป๋าเงินของบริษัทที่จะต้องนำไปเข้าบัญชีธนาคาร เพื่อปกปิดความผิด”
คำสารภาพทั้งน้ำตาของสาวหัวหน้าพนักงานบริษัทส่งสินค้าเอกชนชื่อ ดัง สาขาหนองชาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ที่ให้การกับตำรวจ สภ.บ้านบึง หลังจนมุมด้วยพยานหลักฐานพร้อมพี่ชายต่างมารดา
คดีเกลือเป็นหนอนครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา เมื่อน.ส.พัชราภรณ์ ถนอมสัตย์ อายุ 29 ปี หัวหน้าพนักงานส่งสินค้าบริษัทดังกล่าว กระหืดกระหอบเข้าแจ้งความต่อพ.ต.ต.วันชัย แสงอ่วม สว.(สอบสวน) สภ.บ้านบึง ว่าถูกโจรรถจักรยานยนต์วิ่งราวกระเป๋าใส่เงินของบริษัทที่เตรียมนำไปเข้าบัญชีที่ธนาคารกรุงเทพ
โดยภายในมีเงินของบริษัทจำนวน 170,000 บาท และเงินส่วนตัว 10,000 บาท รวมถึงแหวนทองคำน้ำหนัก 1 สลึง มูลค่า 5,700 บาท และเอกสารต่างๆ
น.ส.พัชราภรณ์ละล่ำละลักให้การว่า ก่อนจะเข้าไปที่ธนาคารได้แวะซื้อกล้วยทอดรับประทาน ที่ร้านด้านหลังธนาคาร ริมถนนวัฒนานุกิจ ใกล้ซอยราษฎรอุทิศ 3 เขตเทศบาลเมืองบ้านบึง
ขณะกำลังเดินกินกล้วยทอดเพลินๆ มีคนร้ายเป็นชายคนร้ายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมหมวกกันน็อก สีดำแบบเต็มใบ สวมเสื้อคลุมสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ขี่รถจักรยานยนต์ สีขาว ไม่ทราบยี่ห้อ และทะเบียน เข้ามากระชากกระเป๋า แล้วขี่หนีไปอย่างรวดเร็ว
พนักงานสาวยังคาดเดาด้วยว่า คนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวของเธอเป็นอย่างดี เพราะมีหน้าที่นำเงินของบริษัทไปเข้าบัญชีเป็นประจำ และมาดูลาดเลาพอสบโอกาสก็ลงมือทันที
น.ส.พัชราภรณ์ยังร่ำไห้ขอให้ตำรวจจับตัวคนร้ายโดยเร็ว รวมถึงขอร้องให้โจรนำเงินทั้งหมดมาคืน ไม่เช่นนั้นเธอจะเดือดร้อน เพราะต้องเป็นผู้รับผิดชอบหาเงินมาชดใช้ให้บริษัท
หลังทราบรายงานเรื่องคดีอุกอาจในพื้นที่รับผิดชอบ จึงรีบประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และตำรวจสายตรวจกระจายกำลังออกหาเบาะแสคนร้ายทันที โดยสอบปากคำเจ้าของร้านขายกล้วยทอด และตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าจะเป็นเส้นทางหลบหนีของคนร้าย
ผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ก็ได้เบาะแสคนร้าย เมื่อดูกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและใกล้เคียงพบว่าคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีชมพู–ขาว ทะเบียน 1 กย 244 ชลบุรี เป็นพาหนะ
เมื่อตรวจสอบฐานข้อมูลกับกรมขนส่งทางบก พบว่ามีชื่อนายประดิษฐ์ ไขรัศมี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.3 ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เป็นผู้ครอบครอง
แต่พอตรวจสอบประวัติส่วนตัวในเชิงลึกกลับพบว่านายประดิษฐ์โจรวิ่งราวไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นพี่ชายต่าง บิดาของน.ส.พัชราภรณ์เจ้าทุกข์
พิรุธข้อใหญ่ขนาดนี้ นายตำรวจมากประสบการณ์อย่าง พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.บ้านบึง จึงให้พนักงานสอบสวนโทร.แจ้งน.ส.พัชราภรณ์ว่าจะขอสอบปากคำเพิ่มเติมให้กลับมาที่ โรงพักอีกครั้ง พร้อมให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตามไปล็อกนายประดิษฐ์ในช่วงเวลาเดียวกัน
พอหญิงสาวเห็นหน้าพี่ชายตัวเองถูกตำรวจจับตัวไว้แล้ว ก็รู้ชะตาตัวเองทันทีว่าคงไม่รอดคุกเป็นแน่ เจ้าตัวถึงกับร่ำไห้เปิดปากรับสารภาพอย่างหมดเปลือก
คู่พี่น้องต่างพ่อให้การเป็นเสียงเดียวกันว่า นำเงินจำนวน 150,000 บาท ของบริษัทที่ได้มาเมื่อวันเสาร์ที่ 14 ก.ย. ไปใช้จ่ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา พอมาถึงวันจันทร์ที่ 16 ก.ย.ต้องนำเงินทั้งหมดมาฝากเข้าบัญชีของบริษัท
แต่ด้วยความที่นำเงินไปใช้จ่ายหนี้สินจนหมดไม่มีเงินมาฝาก จึงได้วางแผนกันทำทีเป็นว่า ขณะที่นำเงินมาฝากธนาคารแล้วมีคนร้ายมากระชากกระเป๋า เพื่อหลบหนีความผิดที่นำเงินของบริษัทไปใช้จ่ายจนเกลี้ยง
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาทั้งคู่ร่วมกันยักยอกทรัพย์เงินของบริษัท ส่วนน.ส.พัชราภรณ์ ต้องถูกเพิ่มอีก 1 ข้อหา คือแจ้งความเท็จ ก่อนจะคุมตัวผู้ต้องหาทั้งคู่ไว้ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย
พนักงานสาวรายนี้คงต้องเข้าไปใช้ชีวิตในคุกอีกพักใหญ่ เพื่อชดใช้ความผิดที่ก่อเหตุ ‘กินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา’
สวัสดิ์ ผลชัยภูมิ
เรื่อง/ภาพ