เกาะตร.พิชิต2คดีชิงทอง สาวผีพนัน-วิ่งราวดื้อๆ อีกรายหาเงินซื้อบิ๊กไบก์ : สดจากสนามข่าว

เดี๋ยวนี้คดี ‘จี้ชิง-วิ่งราว’ ร้านทองเกิดขึ้นถี่ยิบ แทบจะเป็นอาชญากรรมรายวันไปแล้ว

ร้อยทั้งร้อยสาเหตุมาจากข้ออ้างว่าต้องการหาเงินใช้หนี้ ไม่ว่าจะเกิดจากพิษเศรษฐกิจ หรือการพนัน

ล่าสุดเกิดเหตุชิงทรัพย์ร้านทอง 2 คดี ติดๆ

คุมตัวทำแผนฯ

คดีแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ก.ย. คนร้ายเป็นหญิงทำทีเข้าไปขอซื้อทองรูปพรรณ จากห้างทองแม่หล่วน ต.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ก่อนฉวยโอกาสที่เจ้าของร้านเผลอ วิ่งราวสร้อยทองรูปพรรณ 2 เส้น น้ำหนักรวม 4 บาท มูลค่าประมาณ 90,000 บาท หนีขึ้นรถยนต์โตโยต้า ทะเบียน กท 5374 นนทบุรี หลบหนี

เจ้าของร้านวิ่งตามออกไปใช้เก้าอี้ฟาดกระจกรถด้านซ้ายจนแตกทั้ง 2 บาน แต่คนร้ายขับรถหลบหนีไปได้ โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.อริยะ พันธุฟัก รอง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี พ.ต.อ.กลยุทธ์ ด่อนแผ้ว ผกก.สส.ภ.จว.ปราจีนบุรี พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ ระดมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกระจายกำลังออกสืบหาเบาะแส

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านที่เกิดเหตุ และทะเบียนรถที่ใช้ จนพบว่าผู้ก่อเหตุคือ น.ส.สุนิสา เทพสาย อายุ 22 ปี ชาว อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา

ย้อนนาทีเสี่ยร้านทองไล่ฟาดรถ

ผ่านไปแค่วันเดียว เจ้าหน้าที่พบรถคันดังกล่าวถูกจอดทิ้งไว้บริเวณชายหาดแหลมแม่พิมพ์ จ.ระยอง เนื่องจากน้ำมันหมด โดยมีพยานให้การว่าเห็นหญิงสาวเจ้าของรถนั่งรถโดยสารมุ่งหน้าไป จ.จันทบุรี

เมื่อตรวจสอบในเชิงลึกทราบว่า น.ส.สุนิสา มีเพื่อนอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.แก่งหางแมว จึงนำกำลังไปจับกุมตัวได้บริเวณบ้านพักคนงานไม่มีเลขที่ ม.3 ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ก่อนควบคุมตัวกลับไปสอบปากคำที่ สภ.ศรีมหาโพธิ

น.ส.สุนิสาสารภาพว่าเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากติดหนี้พนันออนไลน์จำนวนมากและยังหาทางออกไม่ได้

ก่อนเกิดเหตุตั้งใจขับรถไปหาแม่ที่ทำงานอยู่ใน อ.ศรีมหาโพธิ พอดีผ่านร้านทองจึงทำทีเข้าไปขอซื้อทองแล้วก่อเหตุ นำไปขายที่ร้านทองใน อ.สนามชัยเขต โอนเงินใช้หนี้ไป 60,000 บาท ที่เหลืออีกประมาณ 9,000 บาท นำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการหลบหนี จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด

อีกคดี พล.ต.ท.ธนา ชูวงษ์ ผบช.ภาค 7 พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช. พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิจ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี พ.ต.ท.นิยม สุ่ยวงษ์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ไพบูลย์ วาสนาม ผกก.สภ.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง พ.ต.ท.ตะวัน วัฒนรังสรรค์ สว.สส.สภ.เมืองสุพรรณบุรี

จำลองเหตุลงมือ

นำชุดจู่โจม ประกอบด้วยชุดสืบสวนบช.ภาค 7, กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี, สภ.เมืองสุพรรณ และสภ.บางตาเถร กว่า 50 นาย ล้อมบ้านพักหลังหนึ่งใน ต.บ้านช้าง อ.สองพี่น้อง เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 26 ก.ย.

ก่อนบุกชาร์จจับนายทรงพล เกิดศรีเล็ก อายุ 35 ปี ในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวแค่ผืนเดียว ชนิดที่ผู้ต้องหาไร้หนทางขัดขืน

สาเหตุที่ตำรวจต้องระดมกำลังจำนวนมากบุกจับครั้งนี้ เพราะนายทรงพลเพิ่งพกอาวุธปืนก่อเหตุอุกฉกรรจ์มาสดๆ ร้อนๆ

โฉมหน้าหนุ่มอยากได้บิ๊กไบก์

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 25 ก.ย. เกิดเหตุคนร้ายเป็นชาย สวมเสื้อคลุมสีดำ หมวกกันน็อกแบบเต็มใบ ใส่รองเท้าฟองน้ำสีดำ ใช้ก้อนหินขนาดใหญ่ ปาตู้กระจกที่โชว์ทองรูปพรรณ ห้างทองเยาวราชเอ็มโกลด์ ที่ตั้งอยู่กลางห้างชื่อดัง สาขาสุพรรณบุรี ม.5 ต.ท่าระหัด อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

จากนั้นชักอาวุธปืนที่พกมาข่มขู่พนักงานของร้านจนแตกตื่นตกใจวิ่งหนีเข้าไปหลบหลังร้านจนหมด ก่อนจะกระโดดข้ามตู้โชว์หน้าร้านเข้าไปกระชากสร้อยทองคำที่แขวนอยู่ไปรวมประมาณ 83 บาท คิดเป็นมูลค่าเกือบ 2 ล้านบาท แล้วขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะบียน หลบหนีไป

เจ้าหน้าที่แกะรอยเส้นทางหลบหนีจนแน่ชัดว่าผู้ก่อเหตุคือนายทรงพล จึงระดมกำลังล้อมจับได้ในที่สุด

สอบสวนสารภาพว่า ต้องการนำเงินไปใช้หนี้ที่ติดแม่จำนวน 1 แสนบาท และต้องการซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์มาขี่โก้ๆ

เจ้าตัวยังรับอีกว่า ก่อนก่อเหตุได้ไปจี้ ชิงเงินที่โรงไม้แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ว่าได้เงินเพียง 500 บาทเท่านั้น เพราะขณะหลบหนีกลับทำเงินหล่นหายไปกว่า 4 พันบาท จึงตัดสินใจขี่รถจักรยานยนต์มาก่อเหตุจี้ชิงทอง โดยนำไปฝังดินไว้หลังบ้าน

เมื่อเจ้าหน้าที่นำตัวไปขุดขึ้นมาพบว่า เหลือทองอยู่เพียง 71 บาทเท่านั้น ส่วนที่เหลือคนร้ายให้การว่า ทำร่วงหล่นระหว่างทางหลบหนี เพราะใส่ไว้ในตะกร้าหน้ารถจักรยานยนต์

ทั้ง 2 คดีนับเป็นบทเรียนสำคัญของผู้ที่ริจะเป็นโจร ให้ตั้งสติหยุดคิดสักนิด เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจหนีพ้นเงื้อมมือเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไปได้

โดย ไพโรจน์ เกล็ดเงิน/มานิตย์ สนับบุญ/หนึ่งฤทัย หนูสวัสดิ์/เรื่อง/ภาพ