ตร.จับสมภารเขาคิชฌกูฏ หนีคดียักยอกเงินวัด4ล.
กองปราบตามเจอที่อุทัย : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ตร.จับสมภารเขาคิชฌกูฏ หนีคดียักยอกเงินวัด4ล. – ด้วยพฤติกรรมแปลกๆ หลายอย่างของพระสงฆ์ในวัดบ่อน้ำเงิน หมู่ 3 ต.ซากไทย อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เช่น ไม่ออกรับกิจนิมนต์ เปิดเพลงเสียงดัง และเกี่ยวข้องกับยาเสพติด นอกจากนี้รถตู้ป้ายแดง ทะเบียน ก 3379 จันทบุรี ของวัดได้หายไปนานหลายเดือน ทำให้ชาวบ้านนำเรื่องเข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดจันทบุรี
จนมุมคาบ้าน
เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ-ทหารสืบสวนจนสามารถจับกุมนายป้อม พ่อค้ายา เสพติดได้พร้อมอาวุธปืน ขณะนำยาเสพติดมาส่งให้กับพระและวัยรุ่นที่มั่วสุมเสพยากันในวัด กระทั่งนำมาซึ่งการบุกเข้าตรวจค้นวัด ของพระวินยาธิการพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา
ครั้งนั้นตำรวจสามารถจับกุมตัวพระลูกวัดได้ 2 รูป หลังตรวจสารเสพติดพบปัสสาวะเป็นสีม่วง และพบยาไอซ์ 2 กรัม อยู่ในกุฏิ จึงได้นำตัวไปสึก ขณะที่พระอธิการยอดชาย ยัติโก อายุ 42 ปี เจ้าอาวาส ปฏิเสธไม่ยอมให้ เจ้าหน้าที่ตรวจ อ้างว่าผิดวินัยคำสอนและอยู่ในอาการอาพาธ ก่อนใช้อุบายหลอกล่อเจ้าหน้าที่ จนสามารถหลบหนีไปกับสีกาคนสนิท เมื่อตรวจสอบบัญชีของทางวัดก็ต้องตกตะลึง เมื่อเงินสดเกือบ 4 ล้านหายวับไปพร้อมกับตัวสมภารแสบด้วย
คุมสอบที่กองปราบฯ
ชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามตัวพระยอดชายและสีกาคนสนิท จนทราบว่าหลบหนีไปพักอาศัยที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ระยอง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นในห้องพักไม่พบตัวทั้ง 2 คน พบเพียงจีวรและย่ามพระ รวมทั้ง อัฐบริขารและบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของเจ้าอาวาส ซุกซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าของผู้หญิงในห้องพัก
แต่คนทำผิดอย่างไรเสียก็หนีเงื้อมมือกฎหมายไปไม่รอด โดยเมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.กก.1 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม นายยอดชาย ทับทิมทอง อายุ 42 ปี หรืออดีต พระอธิการยอดชาย ยัติโก อดีตเจ้าอาวาสวัดบ่อน้ำเงิน ชาว อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี
วัดบ่อน้ำเงิน
ตามหมายจับศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ 249/2562 ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2562 ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อ ทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นไป” หลังสืบทราบว่าหนีมาเปิดร้านอาหารตามสั่งอยู่ในพื้นที่ ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี
พ.ต.ต.ธนศักดิ์เปิดเผยเบื้องหลังการจับกุมว่า เมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เขาคิชฌกูฏ ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้าน เพื่อให้ตรวจสอบพระสงฆ์ในวัดบ่อน้ำเงินราษฎร์บำรุง ตั้งอยู่พื้นที่ ม.3 ต.ซากไทย อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เพราะสงสัยมีพระหลายรูปที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม อาทิ มั่วสุมยาเสพติด มั่วสีกา เปิดเพลงเสียงดัง ไม่ยอมออกรับกิจนิมนต์ และไม่ปฏิบัติตามวินัยของสงฆ์
จากการตรวจสอบพบวัดดังกล่าวมีพระลูกวัด จำนวน 4 รูป ซึ่งผลตรวจปัสสาวะพบมีพระลูกวัดจำนวน 2 รูป ที่มีสารเสพติดในร่างกายและให้การรับสารภาพว่า ยาที่นำมาเสพนั้นซื้อมาจากพระอธิการยอดชาย เจ้าอาวาส ผู้ต้องหา รายนี้นั่นเอง เจ้าหน้าที่จึงจะขอตรวจปัสสาวะ แต่พระอธิการยอดชายกลับไม่ยินยอม ก่อนรีบเดินหนีเข้าไปในพระอุโบสถ อ้างว่าจะขอไปทำกิจของสงฆ์
พระอธิการยอดชาย ยัติโก
พ.ต.ต.ธนศักดิ์กล่าวอีกว่า หลังจากเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง พระอธิการยอดชายก็ยอมให้ตรวจปัสสาวะ แต่มีข้อแม้ว่าขอไปตรวจที่วัดวังทอง เพื่อจะให้เจ้าคณะตำบลได้รู้เห็นด้วย พร้อมกับขอเดินทางไปด้วยตนเอง โดยให้เจ้าหน้าที่รออยู่ที่วัดบ่อน้ำเงิน เจ้าหน้าที่จึงยินยอม
กระทั่งเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง แต่พระอธิการยอดชายกลับไม่เดินทางกลับมาที่วัด
ตำรวจจึงส่งกำลังไปตรวจสอบที่วัดวังทอง ก็เลยรู้ว่าพระอธิการยอดชาย ไม่ได้เดินทางมาแต่อย่างใด แต่กลับอาศัยจังหวะดังกล่าวหลบหนีไป ทราบด้วยว่ามีหญิงสาวรายหนึ่งอายุประมาณ 30 ปี ซึ่งเป็นช่างเสริมสวย เป็นผู้ขับรถกระบะ 4 ประตู สีขาว มารับพาหลบหนีไป
แสดงหมายจับ
ต่อมาตำรวจเข้าตรวจค้นภายในกุฏิของพระอธิการยอดชาย ไม่พบ ยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย พบเพียงสมุดบัญชีธนาคารของวัด ที่มียอดเงินติดบัญชีไม่ถึงร้อยบาท จึงนำสมุดบัญชีดังกล่าวไปตรวจสอบเส้นทางการเงินก็พบว่า ก่อนถูกตรวจค้นวัดนั้น พระอธิการยอดชายถอนเงินรายได้ที่มาจากการจัดงานฝังลูกนิมิตของวัด จำนวนเกือบ 4 ล้านบาท และนำไปใช้จ่ายส่วนตัวจนหมด เหลือติดบัญชีอยู่เพียง 420 บาท ตำรวจจึงรวบรวมหลักฐานและขอศาลอนุมัติออกหมายจับดังกล่าวไว้
พ.ต.ต.ธนศักดิ์กล่าวอีกว่า ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า พระอธิการยอดชายหลบหนีมาเปิดร้านอาหารตามสั่งอยู่ที่ จ.อุทัยธานี จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว เบื้องต้นสอบสวนอดีตพระอธิการยอดชายให้การปฏิเสธ โดยขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ก่อนนำตัวส่งสภ.เขาคิชฌกูฏ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
