คำสารภาพ‘ผู้จัดการโจร’ บุกบ้าน-ยิงแสกหน้าน.ศ.
ชิงทรัพย์ใช้หนี้แก๊งเงินกู้ : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
โดย วัฒนชัย จำนงค์ทอง,
พฤตินัย มั่งสวัสดิ์, อุดม ปิดตาทานัง เรื่อง/ภาพ
บุกบ้าน-ยิงแสกหน้าน.ศ. – “มึงลักของกูไปเลย ทำไมต้องยิงลูกกู จิตใจมึงทำด้วยอะไร มึงยิงลูกกูทำไม กว่ากูจะเลี้ยงลูกมาจนโตขึ้นมาได้” เสียงตะโกนต่อว่าด้วยความโกรธแค้ ของญาติของสองนักศึกษา ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจอุดรธานี นำตัว นายธัส พรหมศรีจันทร์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านที่เกิดเหตุ ในหมู่บ้านมะลิวัลย์ วิลล่า ซ.มะลิวัลย์ 1 ถ.รอบเมือง ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี
บ้านที่เกิดเหตุ
ย้อนไปเมื่อวันที่ 24 ก.ย. พ.ต.ท.วิทูรย์ ศรีชาย สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ที่บ้านหลังดังกล่าว จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี
พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.บำรุง แนบชิดชัย รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.วงศกร วันชัย สว.สส. ร.ต.อ.ธนนท์ ศรีกงพาน สว.สส. ด.ต.เจริญ จันทร์รักษ์ ผบ.หมู่ จร.สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่หน่วยเคลื่อนที่เร็วช่วยเหลือ ผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน รถกู้ชีพ ร.พ.ค่ายประจักษ์ศิลปาคม และมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี
พล.ต.ท.บุญลือ กอบางยาง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษตร. ปฏิบัติหน้าที่ รอง ผบช.ภ.4 สอบผู้ต้องหา
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพัก 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด พบชาวบ้านกำลังมุงดูเหตุการณ์อยู่จำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่กั้นพื้นที่กัน ผู้ไม่เกี่ยวข้องออกนอกบริเวณ ภายในบ้านมีผู้บาดเจ็บสาหัส นอนจมกองเลือด 2 ราย เป็นชายสวมกางเกงขาสั้นลายดอก ไม่สวมเสื้อ มีบาดแผลฉกรรจ์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะ อีกรายเป็นหญิงสาว มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่หน้าท้อง และสะโพก อาการสาหัสเช่นกัน
กู้ภัยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่ง ร.พ.ค่ายประจักษ์ศิลปาคม เพื่อเข้าห้องผ่าตัดช่วยชีวิตเป็นการด่วน ตรวจสอบโดยรอบ ที่พื้นหน้าบ้าน พบปลอกกระสุนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่จำนวน 2 ปลอก และกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. อีก 1 นัด ตกอยู่ คาดว่าอาวุธปืนขัดลำกล้องและมีการกระชากกระสุนทิ้ง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
คุมทำแผน
พ.ต.ท.บำรุงเปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ผู้บาดเจ็บชื่อนายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เป็นนักเรียนของวิทยาลัยช่างกลแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี และพักอาศัยอยู่บ้านที่เกิดเหตุ
โดยพบว่าช่วงเกิดเหตุประมาณ 10.00 น. ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน พักผ่อนอยู่ในบ้าน ขณะนั้นคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 160-165 ซ.ม. สวมเสื้อคลุมสีเข้ม ขับรถเก๋งแบบโหลดเตี้ย ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับมาจอด หน้าบ้าน
จำคาที่ทำงาน
จากนั้นคนร้ายก็ลงจากรถ เดินเข้าไปในบ้าน คาดว่ามีการพูดคุยกันระหว่างคนร้ายและผู้บาดเจ็บ ก่อนจะมีการชักอาวุธปืนยิงเข้าใส่ทั้งสองคน ก่อนที่คนร้ายจะขับรถหลบหนีไป โดยยัง ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด เบื้องต้นสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นการบุกเข้ามาชิงทรัพย์ แต่คนเจ็บทั้งสองคนตื่นมาพบ จึงเกิดการต่อสู้กัน ส่วนอีกประเด็นคาดว่าเป็นเรื่องชู้สาวและยังไม่ได้ตัดประเด็นเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติด
ขณะที่อาการของนายเอยังโคม่า ยังคงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และอยู่ในความดูแลของหมออย่างใกล้ชิด ส่วนน.ส.บี ปลอดภัยแล้ว นอนรักษาตัวที่ร.พ.ศูนย์อุดรธานี
ชุดสืบสวนกระจายกำลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด จนได้รายละเอียดของรถต้องสงสัย จนนำมาสู่การจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว
วันที่ 26 ก.ย. พล.ต.ท.บุญลือ กอบางยาง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติปฏิบัติหน้าที่ รอง ผบช.ภาค 4 พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมกำลังตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษกว่า 30 นาย ควบคุมตัวนายธัส พรหมศรีจันทร์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางความโกรธแค้นของครอบครัวทั้ง 2 คนและชาวบ้าน
รถยนต์ของกลาง
พล.ต.ท.บุญลือเปิดเผยว่า วันเกิดเหตุนายธัสขับรถเก๋งฮอนด้าเข้ามาในหมู่บ้านดูลาดเลาบ้านที่ไม่มีคน อยู่เพื่อเข้าไป ลักทรัพย์ จนมาถึงบ้านที่เกิดเหตุซึ่งอยู่หลังสุดท้าย และบ้านข้างๆ ไม่มีคนอยู่ ส่วนหน้าบ้านมีป่าหญ้า จึงจอดรถนำอาวุธปืนเหน็บเอว เปิดประตูรั้วที่ไม่ได้ใส่กุญแจเข้าไปยกทีวีจอแบนในห้องรับแขกไปไว้ในรถก่อน จากนั้นกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้งแล้วเข้าไปเปิดประตูห้องต่างๆ จนไปเจอลูกชายเจ้าของบ้านและแฟนสาว จึงข่มขู่ให้ทั้ง 2 คนนำทรัพย์สินมีค่าออกมาให้
นักศึกษาชายบอกว่ายังเรียนหนังสืออยู่ ไม่มีของมีค่าอะไร ในจังหวะนั้นน้องผู้หญิงที่อยู่ในห้องแอบใช้โทรศัพท์มือถือโทร.ไปบอกพ่อ นักศึกษาชายว่ามีโจรขึ้นบ้าน แล้วให้พ่อช่วยโทร.แจ้งตำรวจด้วย ส่วนน้องผู้ชายซึ่งมีรูปร่างใหญ่กว่านายธัส เข้าต่อสู้จนเกิดการกอดปล้ำกันขึ้นก่อนถูกยิงเข้ากลางแสกหน้า ส่วนน้องผู้หญิงวิ่งหนีออกมา
“นายธัสวิ่งตามไปยิงใส่กระสุนเข้าบริเวณ สะโพก โชคดีน้องวิ่งหนีไปบ้านที่อยู่ห่างกัน 70-80 เมตร ปีนรั้วเข้าไปในบ้านขอความช่วยเหลือ ส่วนนายธัสขึ้นรถขับหลบหนี จนกระทั่งตำรวจตามไปจับตัวได้ จากคำรับสารภาพที่บอกว่าปืนลั่นใส่คงไม่ใช่ ถ้าปืนไม่ขัดลำกล้อง น้องผู้หญิงอาจถึงตายได้” พล.ต.ท.บุญลือกล่าว
ด้านนายธัสรับสารภาพว่า ทำงานเป็นผู้จัดการบริษัทขนส่งสินค้าเอกชนแห่งหนึ่ง เงินเดือน 2 หมื่นบาท มีลูก 2 คน แต่เงินเดือนไม่พอใช้จ่ายในครอบครัว จึงยักยอกเงินบริษัทมาใช้จ่ายส่วนตัวหลายหมื่นบาท เป็นหนี้นายทุนเงินกู้นอกระบบ และเป็นหนี้ไฟแนนซ์รวมแล้วหลายแสนบาท จึงคิดหาเงินไปใช้คืนบริษัท ส่วนอาวุธปืนเป็นปืนสำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ ที่สั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตมาดัดแปลงใส่กระสุนจริง
ล่าสุดนายเอเหยื่อผจก.โจร ได้เสียชีวิตลงเมื่อ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา
จะอ้างเหตุผลความจำเป็นเช่นไร ก็ไม่ใช่ข้ออ้างให้กระทำความผิด ยิ่งเตรียมอาวุธมาด้วย ยิ่งเพิ่มโทษให้ตัวเองเข้าไปอีก
