สดจากสนามข่าว

สุระพงค์ สวัสดิ์ผล มัฆวาน วรรณกุล เรื่อง/ภาพ

สังคมทุกสังคม ย่อมมีกฎกติกา ที่ใช้บังคับทุกๆ คนในสังคม เพื่อความเป็นระเบียบ เรียบร้อย และความสงบสุข เมื่อมีผู้กระทำผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ มีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน ทำสำนวนให้อัยการ ส่งฟ้องต่อศาลยุติธรรม แต่หากมีคนหรือกลุ่มคน ใช้วิธีตัดสินความผิดของผู้อื่นโดยพลการ ไม่สนใจกฎหมายบ้านเมือง

“ศาลเตี้ย” ไม่ใช่ศาลที่อยู่เตี้ยๆ แต่เป็นคำที่ใช้เรียกคนเหล่านี้

เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ตำรวจ สภ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ รับแจ้งจากนายเรืองฤทธิ์ บุญกัน อาชีพทนายความ ว่ามีเหตุคนร้ายเป็นชาย 1 หญิง 1 ขับรถติดตามไล่ยิงลูกความของตน ระหว่างพาญาติๆ ขับรถยนต์กระบะกลับจากฟังคำพิพากษาของศาลจังหวัดชัยภูมิ เหตุเกิดบริเวณถนนผ่านไร่มันสำปะหลัง บนถนนสายชัยภูมิ-คอนสวรรค์ ระหว่างบ้านดอนหัน -โคกมั่งงอย อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ

เมื่อไปตรวจสอบก็พบรถกระบะอีซูซุแค็บ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บม 1082 ชัยภูมิ จอดอยู่ริมถนน ในรถพบร่างนายอดุลย์ แก้วจอมพล อายุ 30 ปี ถูกยิงถึง 5 นัด นั่งฟุบอยู่ภายในรถ จึงรีบนำตัวส่งรักษาที่ โรงพยาบาลชัยภูมิ

จากการสอบสวนนายเรืองฤทธิ์ให้การว่า วันนี้ศาลจังหวัดชัยภูมิ นัดฟังอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีบุกรุกและข่มขืน ภรรยาของนายธีรวัฒน์ พิมพ์ปรุ เสี่ยรับเหมาก่อสร้างในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งนายอดุลย์ลูกความของตนตกเป็นจำเลย ตั้งแต่เมื่อ ปี”57

ต่างฝ่ายต่อสู้คดีมานานถึง 3 ปี โดยศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 5 ปี ต่อมานายอดุลย์ยื่นอุทธรณ์ ก่อนที่ศาลอุทธรณ์ จะตัดสินให้ยกฟ้อง กระทั่งล่าสุดวันนี้ เป็นวันที่ศาลจังหวัดชัยภูมิ นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา

โดยวันนี้ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ สร้างความไม่พอใจให้กับนายธีรวัฒน์ จนถึงขั้นข่มขู่เอาชีวิตกันหลังศาลตัดสิน แต่ทางนายอดุลย์และญาติๆ ทุกคนไม่ได้คิดอะไร และพากันขึ้นรถกระบะเดินทางกลับบ้าน

จนมาถึงที่เกิดเหตุ จู่ๆ มีรถกระบะสีฟ้าตอนเดียวไม่ทราบยี่ห้อขับแซงขึ้นมาปาดหน้า จากนั้นนายธีรวัฒน์และภรรยา ลงจากรถ ก่อนที่นายธีรวัฒน์จะชักอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ออกมากระหน่ำยิงใส่ด้านคนขับจนกระจกแตกละเอียด

นายอดุลย์ถูกกระสุนปืนยิงหลายนัดจนฟุบแน่นิ่ง ท่ามกลางเสียงคนในรถที่ร้องอย่างเสียขวัญพร้อมยกมือไหว้ขอชีวิต หลังยิงจนหนำใจนายธีรวัฒน์และภรรยา ก็รีบขึ้นรถขับหลบหนีไป ซ้ำยังพูดทิ้งท้ายว่า ?มึงข่มขืนเมียกู มึงสมควรตาย?

พยานชี้จุดเกิดเหตุ

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ สั่งชุดสืบสวนจังหวัด เข้าไปช่วยเร่งคลี่คลายคดี และจัดชุดสืบสวนติดตามไล่ล่าคนร้าย ซึ่งพบว่ามีการเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุเป็นคันอื่นเพื่อหลบหนี โดยเบาะแสล่าสุดพบว่าหนีไปกบดานอยู่ที่ จ.นครราชสีมา จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติ หมายจับเสี่ยศาลเตี้ยกับภรรยา ในข้อหา ?ร่วมกันพยายามฆ่า?

ขณะที่นายอดุลย์ แม้นจะถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่โชคยังดีคมกระสุนทั้ง 5 นัด ไม่ถูกจุดสำคัญ มีเพียงจุดเดียวที่ต้นคอ แพทย์สามารถช่วยรักษาให้ดีขึ้นและอยู่ในความดูแลแพทย์ในที่ปลอดภัยแล้ว

ตร.ไล่ล่า ติดตามกดดันอย่างหนัก กระทั่งสายวันที่ 5 เม.ย. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ นายธีรวัฒน์ พิมพ์ปรุ อายุ 40 ปี เสี่ยศาลเตี้ยพร้อมภรรยา ก็เดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.สมพจน์ โดยที่เสี่ยศาลเตี้ยให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือยิงจริง ด้วยความโกรธแค้นและเกิดบันดาลโทสะหลังแพ้คดีดังกล่าว

หลังรับมอบตัว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนปากคำนายธีรวัฒน์ เสี่ยศาลเตี้ยและภรรยา ก่อนควบคุมตัวไปชี้ที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้ต้องหายังให้การวกวนไม่ชัดเจน อ้างว่าอาวุธปืนถูกโยนทิ้งระหว่างทางที่ขับรถหลบหนีออกจากจ.ชัยภูมิ ช่วงก่อนถึง อ.คง จ.นครราชสีมา

แต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่พาตัวไปติดตามหาอาวุธปืนเจ้าตัวกลับจำจุดที่แน่นอนไม่ได้ จึงทำให้ยังหาอาวุธปืนของกลางไม่พบ รวมทั้งส่วนของปลอกกระสุนปืนที่ยิงแล้ว เจ้าตัวอ้างว่าได้โยนทิ้งในไร่มันสำปะหลังใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งการค้นหาของเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่พบหลักฐานดังกล่าวเช่นกัน

สุดท้ายตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ไปควบคุมตัวที่ สภ.คอนสวรรค์ ไว้ก่อน เพื่อรอให้สงบสติอารมณ์ เพื่อจะได้สอบสวนเพิ่มเติม ก่อนจะดำเนินการต่อไป

คิดแต่ว่าตัวเองไม่ได้รับความยุติธรรม เลยตั้งตัวเองเป็นศาลเตี้ยตัดสินโทษเสียเอง แต่สุดท้ายตัวเองก็หนีไม่พ้นกระบวนการยุติธรรมอยู่ดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน