คำสารภาพแท็กซี่หึงโหด เสี่ยตกอับ-ระแวงปันใจ มีดปักอกเมียดับสยอง! : สดจากสนามข่าว

คำสารภาพแท็กซี่หึงโหด เสี่ยตกอับ-ระแวงปันใจ มีดปักอกเมียดับสยอง! : สดจากสนามข่าว – เมื่อคนสองคนตัดสินใจมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการมี ชีวิตครอบครัว ทุกคนต่างมุ่งหวังให้มี ความสุขสมหวังไปตราบชั่วชีวิต

แต่ในความเป็นจริงปลายทางของครอบครัวนั้นๆ จะจบลงแบบใด ไม่อาจมีใครคาดเดาได้

เช่นเดียวกับเหตุอาชญากรรมล่าสุด ที่จุดสุดท้ายต้องปิดฉากลงด้วยเรื่องเศร้า

ปฐมบทโศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดขึ้น เมื่อเช้าตรู่วันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ต. รัฐมนตรี พันชูกลาง สว.(สอบสวน) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิตที่บ้านพักในซอยพหลโยธิน 52 ถนนพหลโยธิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ

หลังรับแจ้งจึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ก่อนนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน แพทย์เวรนิติเวช ร.พ.ภูมิพล เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

จนท.ร่วมกตัญญูส่งศพให้แพทย์ชันสูตร

ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ในห้องน้ำชั้นล่างพบศพน.ส.สมหวัง สุขขัง อายุ 43 ปี ชาว อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก นอนตะแคงอยู่ข้างโถชักโครก สวมชุดคลุมยาวสีดำ ตรวจสอบบาดแผลถูกมีดแทงที่หน้าท้อง 3 แผล หลัง 1 แผล มีดปักคาที่หน้าอกขวาอีก 1 แผล

สอบสวนลูกสาวผู้ตายวัย 18 ปี ที่เป็นผู้พบศพคนแรกให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ กลับเข้ามาบ้านพบกับภาพแม่นอนฟุบสิ้นใจอยู่ข้างโถส้วม จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ

ก่อนโทรศัพท์ไปบอกพ่อคือนายจิตติ เหลี่ยมเพชร อายุ 61 ปี มีอาชีพขับแท็กซี่ แต่พอพ่อรับสายก็บอกว่า เป็นคนฆ่าแม่เอง พร้อมถามย้ำอีกว่า “แม่มึงตายแล้ว ใช่ไหม” ก่อนจะบอกว่ากำลังขับแท็กซี่หนีไปหลบย่านเสรีไทย

ลูกสาวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า พ่อกับแม่อยู่กินกันมาประมาณ 20 ปี มีลูกสาว 2 คน ตนเป็นคนโต ส่วนน้องอยู่กับป้าที่พิษณุโลก โดยแม่เปิดร้านขายของกิฟต์ช็อปอยู่ในห้างโลตัส สาขาหลักสี่ ที่ผ่านมาช่วง 2 เดือนมาเช่าบ้านอยู่ที่นี่ พ่อระแวงว่าแม่จะนอกใจมีชายคนใหม่จนทะเลาะกันมาตลอด

นาทีจมมุมคาสถานีรถไฟ

เจ้าหน้าที่รีบกระจายกำลังออกติดตามตัวนายจิตติทันที พร้อมขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น

ต่อมา พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น.2 ได้เบาะแสว่า นายจิตติโดยสารรถไฟมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก จึงให้ พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.อนันต์ วรสาตร์ รอง ผกก.สส.สน.บางเขน นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.2, สน.บางเขน สนธิกำลังร่วม บก.สส.บช.ภาค 6, บก.จ.จว.พิษณุโลก และสภ.พรหมพิราม ดักจับตัวได้บริเวณชานชาลา สถานีรถไฟย่อยหนองตม เขตเทศบาลนครเมืองพิษณุโลก ก่อนคุมตัวกลับไปสอบสวนที่สน.บางเขน

พ.ต.อ.ชุมพล ชาญชนะโยธิน และพ.ต.อ.ยรรยง สันติปรีชาวัฒน์ รอง ผบก.น.2 เข้าร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาซึ่งให้การรับสารภาพว่า มาจากเรื่องหึงหวง

พ.ต.อ.ชุมพล เปิดเผยว่า นายจิตติให้การว่า ระแวงว่าภรรยาจะปันใจ เพราะมีพฤติกรรมชอบคุยโทรศัพท์กับชายอื่น กระทั่งวันเกิดเหตุผู้ต้องหาจะออกไปขับรถแท็กซี่ เวลา 04.00 น. แต่เกิดลืมของไว้จึงต้องย้อนกลับเข้าบ้านไปอีกครั้ง ทำให้พบเจอภรรยากำลังจะออกไปข้างนอก และเข้าใจว่าผู้ตายจะออกไปหาผู้ชายอื่นทำให้เกิดทะเลาะกันขึ้น

ก่อนจะหยิบมีดที่วางอยู่แถวนั้นขึ้นข่มขู่ผู้ตาย แต่เกิดการต่อสู้ยื้อแย่งกันขึ้นกัน จนนายจิตติใช้มีดจ้วงแทงภรรยาจนเสียชีวิต

หลังนายจิตติถูกจับกุมตัว มีน.ส.เอ (นามสมมติ) ลูกสาวคนโตที่เกิดกับภรรยาเก่าเข้าเยี่ยม ก่อนจะเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้นายจิตติมีฐานะดี ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง กระทั่งเมื่อ 20 ปีก่อนได้พบกับน.ส.สมหวังผู้ตาย จึงพามาอยู่กินร่วมบ้านกับมารดาของน.ส.เอแบบ 3 ผัวเมีย แต่ไม่นานนายจิตติก็แยกครอบครัวมาอยู่กินกับผู้ตาย

พอสภาพเศรษฐกิจฝืดเคืองทำให้ไม่มีงานรับเหมาก่อสร้างจนต้องขายทรัพย์สินใช้หนี้ เลยหันมาขับรถแท็กซี่หาเลี้ยงชีพ

น.ส.เอกล่าวว่า ระยะหลังพ่อมีอาการเครียดมาก ระแวงว่า ผู้ตายจะไปมีคนอื่น ทั้งที่ทุ่มเทให้ทั้งชีวิตถึงขนาดคิดจะฆ่าตัวตาย แต่ตนห้ามไว้ กระทั่งมาก่อเหตุสลดดังกล่าวขึ้น

แต่ไม่ว่าจะมีเหตุปัจจัยหนักหนาขนาดไหน เมื่อก่อเหตุอุกอาจผิดอาญาบ้านเมือง ผลสุดท้ายก็ต้องเข้าไปชดใช้กรรมที่กระทำไว้อยู่หลังแดนตะราง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน