191จับหนุ่มผลิตปืนเถื่อน ขายโจ๋งครึ่ม-ทางโซเชี่ยล
ปิดตำนาน‘มาร์คัสจัสติน’ : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
191จับหนุ่มผลิตปืนเถื่อน ขายโจ๋งครึ่ม-ทางโซเชี่ยล ปิดตำนาน‘มาร์คัสจัสติน’ – ยุคสมัยที่สากกะเบือยันเรือรบถูกย่อส่วนเข้ามาไว้ในโลกอินเตอร์เน็ต อยากได้อะไรก็แค่เปิดมือถือใช้นิ้วจิ้มกดสั่งแล้วก็นอนรอรับสินค้าอยู่ที่บ้าน ไม่เว้นแม้แต่สินค้าผิดกฎหมายหรือยาเสพติด แต่อย่าชะล่าใจไป เพราะหากซื้อของพวกนั้นมาวันดีคืนร้ายวันนี้นอนอยู่บ้านรุ่งขึ้นอาจต้องระเห็จไปนอนในคุกก็เป็นได้
ย้อนไปเมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. น.1 หมาดๆ ประเดิมแถลงข่าวจับกุม ผู้ต้องหาผลิตและจำหน่ายอาวุธปืนผ่าน ทางโชเชี่ยล จำนวน 2 คดี ซึ่งเป็น ผลงานการจับกุมของพล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สมบูรณ์ เทียนขาว พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ
คดีแรกจับกุมผู้ต้องหา นายโชติภัทร์ (ขอสงวนนามสกุล) พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์แบบหักลำขนาดต่างๆ ร่วมทั้งอาวุธปืนดัดแปลงจากปืนวินกัน หรือแบลงก์กัน รวมจำนวน 42 กระบอก โม่ปืน 103 อัน ลำกล้อง 150 อัน สปริงนกสับ จำนวน 72 อัน เข็มแทงชนวน 50 อัน ถังเก็บเสียงสำหรับยิงทดสอบอาวุธปืน 1 ใบ และอุปกรณ์พวกเครื่องเจีย เลื่อย คีม ตะไบ ไขควง อีกจำนวนหนึ่ง
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยจับกุมได้ที่บริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะเตรียมส่งของกลางไปให้ลูกค้า
พล.ต.ต.สำราญกล่าวถึงที่มาที่ไปของคดีนี้ว่า จากการสืบสวนของพ.ต.ต.ไพบูลย์ สอโส สว.งานสายตรวจ 1 พบว่าปัจจุบันมีการลักลอบซื้อขายอาวุธทางโลกโซเชี่ยล จึงดำเนินการสืบสวนในทางลับจนมีข้อมูลแน่ชัดว่านายโชติภัทร์ ผู้ต้องหา มีพฤติกรรมจัดส่งอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ให้กับลูกค้า
ชุดจับกุมเฝ้าดูพฤติกรรมจนแน่ใจ ก่อนนำกำลังเข้าตรวจสอบ ขณะที่เจ้าตัวนำกล่องสินค้าไปส่งที่บริษัทขนส่งเอกชน
จากการตรวจสอบพบอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์อยู่ในกล่องพัสดุ สอบสวนขยายผลตรวจค้นบ้านพัก พบของกลางอาวุธปืนและอุปกรณ์การผลิตจำนวนมาก จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ บอกเรียนรู้วิธีทำอาวุธปืนมาจากอินเตอร์เน็ต
ก่อนติดต่อโรงกลึงให้ช่วยกลึงชิ้นส่วนตามที่ออกแบบ และส่งสินค้านำมาประกอบส่งขายให้กับลูกค้า โดยโพสต์ขายทางสื่อโซเชี่ยลทั้งเฟซบุ๊กและไลน์ ในราคากระบอกละ 8,000-10,000 บาท โดยทำมาแล้วประมาณ 5 เดือน จึงได้ควบคุมตัวพร้อมกับจะสืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป
ส่วนอีกคดีเป็นการจับกุมเครือข่ายจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนออนไลน์ ผ่านไปรษณีย์เอกชน พล.ต.ต.สำราญ กล่าวว่า ทางชุดสายตรวจ บก.สปพ.ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีบุคคลลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนและเครื่องกระสุน โดยใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า ‘มาร์คัส จัสติน’ ซึ่งลูกค้าที่ซื้อไปก็เป็นผู้ที่ซื้อปืนเถื่อนไปใช้นั่นเอง
ชุดสืบสวนแกะรอยจนทราบว่าผู้ใช้งานเฟซบุ๊กดังกล่าวคือ นายกัณฑ์เอนก เหมือนวงค์ อายุ 28 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งจะมาจัดส่งเครื่องกระสุนปืนที่บริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี
จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง เป็นเครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ จำนวน 1,362 นัด แจ้งข้อหา “ทำ ประกอบ เปลี่ยนลักษณะ มีหรือจำหน่าย ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต”
นอกจากนี้จากการสอบสวนขยายผลนายกัณฑ์เอนกให้การรับสารภาพว่า ได้จัดส่งเครื่องกระสุนปืนให้กับลูกค้าในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจำนวนหลายราย
ตำรวจจึงเปิดปฏิบัติการกวาดล้าง โดยในวันที่ 1 ต.ค. ชุดจับกุมนำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นกลุ่มลูกค้าที่เคยซื้อไปตามที่ได้ข้อมูลมา จำนวนทั้งสิ้น 30 จุด ก่อนจะสามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้อีก 4 คน พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด .38 ได้อีก 3 กระบอก ปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก และอาวุธปืนบีบีกันดัดแปลงอีก 1 กระบอก จึงควบคุมตัวทั้งหมดพร้อมแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.สำราญยังฝากเตือนถึงผู้ที่ซื้ออาวุธปืนเถื่อนและเครื่องกระสุนทางออนไลน์ทั้งหลายว่า วันนี้ตำรวจยังตรวจค้นไม่พบ ก็ถือว่ายังโชคดียังมีโอกาส ให้นำไปโยนทิ้งเสียอย่าเก็บเอาไว้ เพราะตำรวจมีข้อมูลการซื้อขายอยู่ทั้งหมดแล้ว หากวันหน้าตรวจพบจะถูกดำเนินคดีเหมือน 4 รายที่ถูกจับในวันนี้
นรินทร์ เนียมประดิษฐ์ / สราวุฒิ ศรีเพ็ชรสัย
เรื่อง/ภาพ
