สดจากสนามข่าว

วันชัย พูลเพิ่มพันธ์ เรื่อง/ภาพ

เสียงตะโกนด่าทอสาปแช่งจากผู้คนจำนวนมากบริเวณสนามหญ้า ภายในสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ถนนราชสีมา แขวงและเขตดุสิต กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา

ขณะตำรวจคุมตัว นายจำลอง หรือ ขาว พุ่มมาลัย อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงน.ส.วาสนา บุราคร อายุ 37 ปี อาชีพเจ้าหน้าที่ซี 4 ฝ่ายทะเบียนการเงินการคลัง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) บ่งบอกถึงความโกรธแค้นของเพื่อนร่วมงานและญาติได้เป็นอย่างดี

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมพล.ต.ต.วัชรพงศ์ ดำรงศรี ผบก.น.1 พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน ผกก.สน.ดุสิต พ.ต.ท.รุ่งโรจน์ เกษสาคร รรท. รอง ผกก.ป.สน.ดุสิต จึงต้องระดมกำลังตำรวจจำนวนมาก คอยกันผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกห่างจากพื้นที่ เพื่อป้องกัน เหตุร้าย

ปฐมบทคดีฆาตกรรมโหดกลางเมืองกรุงครั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ชัยรน เรืองเพชร รอง สว.(สอบสวน) สน.ดุสิต รับแจ้งเหตุยิงกันในจุดดังกล่าว จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมผู้บังคับบัญชาระดับสูงทุกนายใน บช.น. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชร.พ.รามาธิบดี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

เจ้าหน้าที่พยายามยื้อชีวิต

เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุพบร่างน.ส.วาสนานอนหายใจรวยรินจมกองเลือดอยู่ริมสนามหญ้า มีแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. เข้าที่แก้มซ้าย 1 นัด ซอกคอขวา 1 นัด และหัวไหล่ขวา 1 นัด

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพพยายามปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิตอย่างสุดฤทธิ์ แต่ก็ไม่สำเร็จ

ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุคือนายจำลอง ซึ่งขณะนั้นเพื่อนร่วมงานทุกคนรู้จักเขาในชื่อนายเจริญ คูนา ที่เคยคบหากันมาประมาณ 2 ปี แต่เมื่อฝ่ายหญิงทราบว่าอีกฝ่ายมีครอบครับอยู่แล้วจึงขอแยกทาง แต่ฝ่ายชายยังตามพัวพันอยู่ตลอดเวลา จนมาก่อเหตุสยองดังกล่าว

ผู้ตาย

หลังทราบเบาะแสทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังออกติดตามตัว กระทั่งค้นทะเบียนประวัติพบว่า นายเจริญ คูนา มีภูมิลำเนาเป็นชาวอ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ จึงตามไปสืบจับ

แต่เมื่อไปถึงกลับพบว่า บุคคลที่มีชื่อ นามสกุล ดังกล่าวไม่ใช่มือปืนที่ก่อเหตุ แต่เป็นพระสงฆ์รูปหนึ่งซึ่งบวชที่วัดบางบ่อ

พระเจริญให้ข้อมูลว่า ชื่อจริงของมือปืนคือ จำลอง พุ่มมาลัย ซึ่งเป็นญาติ โดยไม่เคยทราบเลยว่านายจำลองจะนำชื่อตนไปสมัครงานทำงานที่ สกสค.มานานกว่า 20 ปีแล้ว

นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังทราบว่า ก่อนที่นายจำลองก่อเหตุโหดในช่วงเช้าวันเดียวกัน เพิ่งพาครูสาวรายหนึ่งใน จ.อ่างทอง ขึ้นสำนักงานเขตลาดพร้าวจดทะเบียนสมรสกัน พอตกเย็นก็ไปยิงแฟนเก่าเสียชีวิตดังกล่าว

จากข้อมูลพบว่านายจำลองเป็นคนเจ้าชู้ ล่าสุดพบว่ามีผู้หญิงมาเกี่ยวพัน 3-4 คน ส่วนมากจะเป็นครูต่างจังหวัด เนื่องจากมีหน้าที่เป็นคนขับรถให้ ผู้บริหารในคุรุสภา และ จะเดินทางออกต่างจังหวัดบ่อยครั้ง

ขณะเจ้าหน้าที่ระดมกำลังล่าตัวมือปืนเหี้ยมรายนี้ ใน วันที่ 3 เม.ย. ตำรวจบก.สส.บช.ภ.7 ก็ได้รับการติดต่อจากคนรู้จักว่า นายจำลองจะขอ มอบตัว แต่ให้ไปรับตัวที่ จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นป่าละแวกบ้านภรรยาที่เพิ่งจดทะเบียนสมรสกัน

เมื่อพล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.ภ.7 พร้อม พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผบช.ภ.7 พ.ต.อ.ไชยา สุนทรกิจ รองผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ปรีดา อิ่มเจริญ ผกก.1 บก.สส.ภ.7 ไปถึงก็พบนายจำลองในสภาพอิดโรย จึงควบคุมตัวไว้พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนประสานให้พนักงานสอบสวนสน.ดุสิตมารับตัวไปสอบปากคำ

นายจำลองสารภาพว่า ก่อนก่อเหตุประมาณหนึ่งสัปดาห์ ถูกผู้ตายแจ้งความจับที่สน.ดุสิต ในข้อหาลักทรัพย์รถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ ทั้งที่รถคันดังกล่าวซื้อมาด้วยกัน ก่อนหน้านี้ไหว้วานให้ผู้ตายเดินเรื่องเอกสารเงินกู้ให้ แต่ผ่านไปหลายวันผู้ตายไม่ได้ดำเนินเรื่องให้

วันก่อเหตุไปนัดพบเพื่อขอเจรจากัน แต่จับได้ว่าผู้ตายคุยโทรศัพท์กับชายอื่น ทำให้แค้นใจว่าเพราะเหตุดังกล่าวผู้ตายถึงแจ้งจับและไม่ทำเรื่องขอกู้เงินให้ จึงตัดสินใจลั่นไกสังหารทันที

หลังก่อเหตุหลบหนีไป จ.สุพรรณบุรี ก่อนเดินเท้าไปตามทุ่งนา ป่าเขาลัดเลาะไปเขตติดต่อ จ.กาญจนบุรี อาศัยหลับนอนตามป่าและทุ่งนา ไม่นอนบ้านคน

กระทั่งเดินต่อไปที่จ.อ่างทอง และประสานญาติให้ติดต่อตำรวจเพื่อขอเข้ามอบตัวในที่สุด

ปิดฉากเหตุพิศวาสฆาตกรรมไปอีกหนึ่งคดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน