สดจากสนามข่าว : ย้อนเหตุสลด–ปราจีนบุรีเขยปืนดุซัลโวแม่ยายเจ็บยิงเมียดับ–ฆ่าตัวตายตาม
ย้อนเหตุสลด–ปราจีนบุรีเขยปืนดุ : เช้าวันที่ 8 ต.ค. ชาวบ้าน ม.2 บ้านคลองชุมพล ซ.9 ต.สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ที่กำลังเตรียมกับข้าวกับปลาให้ลูกหลานไปโรงเรียน ต่างต้องแตกตื่นตกใจให้กับเสียงปืนที่ดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวหลายนัดซ้อนๆ กัน
เมื่อโผล่หน้าออกไปดูก็พบภาพนายวิโรจน์ พฤฒิวรกุล อายุ 43 ปี ลูกเขยบ้านหลังดังกล่าว ใช้ปืนยิงนางรุจิรา ปีนะฐารัง อายุ 41 ปี แม่ยายจนล้มคว่ำจมกองเลือด โดยที่น.ส.ปิยะรัตน์ มาโพธิ์ชัย อายุ 21 ปี ลูกสาวนางรุจิรา และเมียของนายวิโรจน์ ซึ่งกระโดด เข้าขวางทางปืนถูกยิงเลือดโชกไปด้วยอีกคน
จากนั้นนายวิโรจน์ลากร่างเมียรักขึ้นรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีเทา ทะเบียน กง 5848 สระแก้ว ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
หลังหายตกใจชาวบ้านรีบโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากตำรวจทันที
เพียงไม่กี่นาทีหลังเกิดเหตุร้าย พ.ต.อ.จิรโรจน์ โรจน์ภานุภพัชร ผกก.สภ.นาดี ร.ต.อ.เจนณรงค์ ละครรัมย์ รอง สว.สอบสวน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ก็รุดไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่านางรุจิราถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองที่หน้าท้อง ขาขวา และแขนซ้าย อาการสาหัส จึงรีบนำส่งรักษาที่ร.พ.นาดี ก่อนส่งรักษาต่อที่ร.พ.กบินทร์บุรี
บริเวณที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนลูกซองตกอยู่ 4 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกระจายกำลังออกติดตามรถคันดังกล่าวทันที
เบื้องต้นสอบปากคำเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า นายวิโรจน์และน.ส.ปิยะรัตน์ เพิ่งแต่งงานอยู่กินกันได้แค่ 2 เดือนเศษ แต่มีปัญหากันเกี่ยวกับรายได้ไม่พอใช้ เนื่องจากนายวิโรจน์ติดการพนัน ทำให้น.ส.ปิยะรัตน์ร้องไห้มาแล้วหลายครั้ง
ก่อนเกิดเหตุนางรุจิราโต้เถียง กับนายวิโรจน์อย่างรุนแรงถึงเรื่องดังกล่าว ก่อนจะนำตัวลูกสาวขึ้นรถเพื่อพาหนี ทำให้นายวิโรจน์ใช้ปืนลูกซองกระหน่ำยิงใส่รถทำให้นางรุจิราและน.ส.ปิยะรัตน์ได้รับบาดเจ็บ ก่อนขับรถพาภรรยาที่ร่างโชกเลือดหลบหนี
เพียงไม่นานเจ้าหน้าที่รับแจ้งว่าพบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่หน้า อบต.สำพันตา ถ.ชะมะนันท์ ต.สำพันตา อ.นาดี ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3-4 ก.ม. จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบทันที
เมื่อไปถึงก็ต้องพบกับภาพสลด เพราะนายวิโรจน์ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงศีรษะตัวเองเสียชีวิตร่างคร่อมทับศพน.ส.ปิยะรัตน์ ภรรยา ที่มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกัน ที่ลำตัว
โดยมีอาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด วางอยู่ข้างที่พักเท้า
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า น.ส.ปิยะรัตน์ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตระหว่างทาง นายวิโรจน์จึงตัดสินใจยิงตัวเองตายตาม คาดน่าจะใช้หัวแม่เท้าเหนี่ยวไกปืนยิงตัวเองตายเพื่อหนีความผิด
เจ้าหน้าที่จึงส่งศพทั้งคู่ให้แพทย์ ร.พ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
ต่อมา วันที่ 9 ต.ค. ญาติผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่ายต่างไปติดต่อรับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าโศก โดยศพนายวิโรจน์ญาตินำใส่โลงศพขึ้นรถตู้ไปตั้งบำเพ็ญกุศล กรุงเทพฯ ส่วนน.ส.ปิยะรัตน์ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดคลองชุมพล
ขณะที่นางรุจิราแพทย์รักษาจน อาการปลอดภัย แต่ยังอยู่ในอาการเศร้าเสียใจที่รู้ข่าวว่าลูกสาวเสียชีวิตไปแล้ว
ด้านนายธนวัฒน์ ปินะถาลัง อายุ 43 ปี ลุงของน.ส.ปิยะรัตน์ กล่าวว่า หลานสาวเคยทำงานที่โรงงานที่นายวิโรจน์เป็นผู้จัดการ ก่อนจะพบรักแต่งงานอยู่กินกัน ต่อมาทั้งคู่ลาออกมาอยู่ที่บ้านของแม่ยาย ปกติแล้วหลานเขยเป็นคนเรียบง่าย ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้
ขณะที่ นางสายทอง สุขจำนง อายุ 70 ปี ป้าของนายวิโรจน์ เผยว่า พ่อแม่ของหลานชายเสียชีวิตหมดแล้ว ตนเป็นคนเลี้ยงดูหลานชายมาตั้งแต่เด็กๆ ก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ เพราะเป็นคนนิสัยดี พูดจาดี ไม่ก้าวร้าวหรือรุนแรง เมื่อเกิดเหตุขึ้นก็ได้รวบรวมเงินพี่น้องมาช่วยงานศพทางฝ่ายหญิงด้วย แม้จะเพิ่งแต่งงานอยู่กินกันได้ไม่นาน เพื่อช่วยเยียวยาเหตุสลดที่เกิดจากน้ำมือหลานชายตัวเอง
แม้ญาติๆ ผู้เสียชีวิตทั้งสองฝั่งต่างยืนยันว่า นายวิโรจน์ผู้ก่อเหตุเป็นคนนิสัยดี ไม่ก้าวร้าวหรือรุนแรง ซึ่งต่างจากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์
แต่ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่า ครอบครัวนี้มีปัญหาอะไรหนักหนาสาหัสถึงขนาดต้องใช้ปืนเป็นเครื่องตัดสิน เพราะนายวิโรจน์เองที่เก็บงำความลับพาติดตัวลงยมโลกไปด้วยแล้ว
ไพโรจน์ เกล็ดเงิน/มานิตย์ สนับบุญ
เรื่อง/ภาพ