สดจากสนามข่าว

สดจากสนามข่าว สมศักดิ์ ชฎารัตน์ อดิศร จิตตเสวี เรื่อง/ภาพ

“เบิ้ลมอ?ไซค์เสียงดัง เดี๋ยวก็โดนยิงหรอก” คำพูดลักษณะนี้คาดว่าคงมีหลายคนเคยอำกันขำๆ ในหมู่เพื่อนฝูง

แต่คงไม่มีใครคิดว่าจะดันเกิดเหตุฆาตกรรมสยองขวัญกลางเมืองกรุง ด้วยเรื่องแบบนี้ขึ้นมาจริงๆ

ย้อนกลับไปเมื่อกลางดึกวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เชิดชัย ศรีประเสริฐ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางมด รับแจ้งเหตุชายถูกยิงเสียชีวิตในบ้านเลขที่ 32/8 ม.4 ซ.สุขสวัสดิ์ 2 แขวงและเขตจอมทอง กรุงเทพฯ

 

หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชา แล้วรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมพ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รองผบก.น.9 พ.ต.อ.ภูวนาถ ฤทธาเวช ผกก.สน.บางมด พ.ต.ท.ภวิชช์ ปานธนนันท์ สว.สส. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ พฐ. แพทย์ร.พ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บริเวณเพิงเลี้ยงไก่ติดกับตัวบ้านพบศพนายธนพัฒน์ หรือ โล้น ทนาสอน อายุ 18 ปี สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้น สีเทา กางเกงขาสามส่วนสีกรมท่า นอนหงายจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .38 เข้าศีรษะ 1 นัด ต้นขาขวา 1 นัด

บริเวณหน้าบ้านพบว่ามีการตั้งเตาล้อมวงกินหมูกระทะ โดยไม่พบร่องรอยการทะเลาะวิวาทกันแต่อย่างใด

สอบสวนเพื่อนผู้ตายที่อยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายธนพัฒน์นั่งล้อมวงกินหมูกระทะกับกลุ่มเพื่อนจำนวนหนึ่ง

ต่อมานายธนพัฒน์ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปซื้อของที่ซอยปลั่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน

หลังกลับมาได้ไม่นานก็มีนายพรชัย หรือตี๋เล็ก ประจักษ์ศศิธร อายุ 33 ปี ลูกชายเจ้าของโรงงานแปรรูปไม้ย่านบางมด และเป็นขาใหญ่ประจำซอยปลั่ง ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มา โดยมีนายคเชนท์ คุณากรกุล เป็นผู้ขับขี่

เมื่อมาถึงนายตี๋เล็กก็ปรี่เข้าหานายธนพัฒน์ทันที พร้อมตะคอกถามว่า “เมื่อกี๊มึงขี่รถผ่านหน้าบ้านกูแล้วมึงเบิ้ลเครื่องทำไม”

นายธนพัฒน์ก็อ้างว่า ไม่ได้ตั้งใจเร่งเครื่อง แต่รถเกิดขัดข้องจึงต้องเร่งเครื่องตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นเครื่องจะดับ

เท่านั้นเองนายตี๋เล็กก็ชักปืนที่พกมายิงใส่ทันที โดยนัดแรกนายธนพัฒน์ใช้มือ ปัดปากกระบอกปืนทำให้ถูกยิงที่ขาขวา เมื่อเสียหลักล้มลง นายตี๋เล็กก็จ่อยิงศีรษะอีก 1 นัด จนเสียชีวิตคาที่ ก่อนจะเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนติดเครื่องรออยู่หลบหนีไป

โดยพฤติกรรมทั้งหมดถูกกล้องวงจรปิดในบริเวณดังกล่าว จับภาพไว้ได้อย่างชัดเจน

เช้าวันต่อมา พนักงานสอบสวนสน.บางมด ก็รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับนายตี๋เล็กจากศาลอาญาธนบุรี ในวันที่ 6 เม.ย. จากนั้นระดมกำลังออกติดตามจับกุม พร้อมประสานพ่อแม่ให้พาเข้ามอบตัว

หลังจากกบดานอยู่ 3 วัน ในวันที่ 9 เม.ย. นายตี๋เล็กก็ทนแรงกดดันจากตำรวจไม่ไหว ติดต่อขอเข้ามอบตัวที่ สน.บางมด ด้วยตัวเอง พร้อมปืนลูกโม่ขนาด .38 ที่ใช้ก่อเหตุ

โดยพ.ต.อ.ภูวนาถ ฤทธาเวช ผกก.สน.บางมด พร้อมพ.ต.ท.อดุลย์ ดอกพวง รองผกก.สส. พ.ต.ท.ภวิชช์ ปานธนนันท์ สว.สส.สน.บางมด รับมอบตัว และสอบปากคำร่วมกับพนักงานสอบสวน

นายตี๋เล็กสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายธนพัฒน์จริง เหตุเพราะบันดาลโทสะและความแค้นที่มีต่อกันมานานแล้ว

โดยระบุว่า ก่อนหน้านี้ตนและนายธนพัฒน์รู้จักกันดี เพราะเคยรับคนในครอบครัวของนายธนพัฒน์เข้าทำงานในธุรกิจโรงงานแปรรูปไม้หลายคน

แต่ระยะหลังพอนายธนพัฒน์โตเป็นวัยรุ่นกลับชอบทำตัวมีปัญหา ว่ากล่าวตักเตือนก็ไม่พอใจ จนถูกนายธนพัฒน์พาเพื่อนนับสิบคนมาล้อมบ้านพัก

กระทั่งคืนวันเกิดเหตุ ขณะนั่งดื่มสุรากับนายคเชนท์เพื่อนสนิทที่บ้าน ปรากฏว่านายธนพัฒน์ขี่รถจักรยานยนต์ แต่งซิ่งผ่านมาและเบิ้ลเครื่องรถใส่ จึงบันดาลโทสะเข้าไปคว้าอาวุธปืนที่ซื้อต่อมาจากเพื่อนภายในบ้าน แล้วซ้อนรถจักรยานยนต์ของนายคเชนท์ขี่ตามไปถึงบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อสอบถามเจ้าตัว ว่าเบิ้ลเครื่องรถหน้าที่พักตนนั้นต้องการอะไร

แต่แทนที่จะตอบคำถามแบบสุภาพ กลับชวนพรรคพวกเดินปรี่เข้ามาจะหาเรื่อง จึงต้องชักอาวุธปืนยิงเพื่อป้องกันตัว โดยหลังก่อเหตุไม่ได้หลบหนี ไปไหน แค่ไปตั้งหลักกับญาติก่อนตัดสินใจเข้ามอบตัวกับตำรวจในที่สุด

ไม่ว่าจะมีข้ออ้างแก้ตัวอย่างไร แต่ขาใหญ่ประจำซอยปลั่งและเพื่อนก็ถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และครอบครองอาวุธปืน ต้องเข้าไปใช้ชีวิตที่ไร้อิสรภาพ อยู่หลังมุ้งสายบัว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน