ผ่าคดีสาวหายปริศนา3ด. ที่แท้ผัโหดทุบฆ่า-ฝัง!
ฝันตรงเป๊ะอยู่กลางสวน : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ผ่าคดีสาวหายปริศนา3ด.ที่แท้ผัโหดทุบฆ่า-ฝัง!ฝันตรงเป๊ะอยู่กลางสวน – “ผมไม่ได้ฆ่าเขา แต่มันเกิดอุบัติเหตุเขาพลัดตกรถตอนกลางวัน พอดึกคืนนั้นก็เสียชีวิต ผมไม่รู้จะทำยังไง ไม่กล้าบอกใคร เลยเอาศพไปฝังดินไว้ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนฆ่า แค่เอาศพไปฝังดินเท่านั้น” คำให้การที่ยากจะเชื่อของนายอนุชา คำพา อายุ 45 ปี หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่านางปราณี อินธิมา อายุ 54 ปี ภรรยา
ย้อนไปเมื่อวันที่ 8 ต.ค. พ.ต.ท.มนูญ ม่วงมิตร สารวัตร (สอบสวน) สภ.วังเจ้า จ.ตาก ได้รับแจ้งจาก นายทึ่ง ปิงขอด อายุ 81 ปี ชาว ต.คลองน้ำไหล อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ว่า นางปราณี อินธิมา อายุ 54 ปี ลูกสาว ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เป็นเวลานานกว่า 3 เดือน คาดว่าเสียชีวิตแล้ว และศพอาจถูกฝังดินอยู่ในบริเวณสวนลำไยของ นายอนุชา คำพา อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นสามี ในพื้นที่หมู่ 4 ต.นาโบสถ์ อ.วังเจ้า จ.ตาก
จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ณรงค์ คำทราย รอง ผกก.สภ.วังเจ้า, เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตาก โดยมีญาติของนางปราณีเดินทางมาจาก จ.กำแพงเพชร ประมาณ 50 คน ใช้รถกระบะ 7 คัน กลางสวนลำไยและมะนาว บนพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ พบเนินดินต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นที่ฝังศพนางปราณี อยู่ข้างเพิงพักกลางสวน
โดยก่อนหน้านี้ญาติได้เดินหาและใช้เหล็กแหลมทิ่มบริเวณเนินดินดังกล่าว ก็พบความผิดปกติ รวมทั้งมีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมา จึงใช้จอบขุดบริเวณหน้าดินกระทั่งพบชิ้นส่วนฟันกราม 2 ซี่ และเส้นผมสีดำ ยาวจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีกลิ่นเหม็นเน่าติดเส้นผมด้วย ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจขอรถไถจากชาวบ้านมาช่วยเปิดหน้าดินลึกประมาณ 1 เมตร แต่ก็ยังไม่พบศพ มีเพียงกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาเป็นระยะๆ
จากการสอบสวน นายทึ่งให้การว่า ลูกสาวได้แต่งงานอยู่กินกับนายอนุชา แล้วย้ายมาอยู่กินกันที่ จ.ตาก เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ทั้งคู่ชอบดื่มสุราและมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำ ฝ่ายชายชอบลงไม้ลงมือตบตีภรรยา ชาวบ้านใกล้เคียงทราบดี
กระทั่งช่วงก่อนที่นางปราณีจะหายตัวไป ได้โทร.ไปหาหลานสาวที่ทำงานอยู่ที่ กทม.บอกให้มารับตัวกลับบ้านด้วย เพราะนายอนุชาทำร้ายร่างกายจนทนไม่ไหว แต่หลานยังทำงานอยู่ไม่สามารถมารับตัวกลับบ้านที่ จ.กำแพงเพชร ได้ จนกระทั่งวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ญาติๆ ได้โทรศัพท์ไปหานางปราณี แต่ไม่สามารถติดต่อได้ พยายามโทร.หานายอนุชา ก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์ ญาติพยายามติดตามนานกว่า 3 เดือนก็ยังไม่พบ
ก่อนหน้านี้ประมาณ 15 วัน ญาติสงสัยว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับนางปราณี และสามารถติดต่อนายอนุชา ได้ และบอกว่าจะแจ้งความกับตำรวจว่านางปราณีหายไปไร้ร่องรอย หลังจากนั้นนายอนุชาก็ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ อ้างว่าจะไปทำงานอยู่ที่ กทม.
ระหว่างที่ญาติๆ ติดตามหานางปราณี หลานสาวของนางปราณีได้ฝันว่า นางปราณีถูกฆ่าฝังอยู่ในไร่ของสามี ใกล้สวนพริกสวนมะเขือ ซึ่งก็ตรงตามที่หลานสาวฝัน แต่ก็พบเพียงชิ้นส่วนฟันกรามและเส้นผม ยังไม่พบศพหรือชิ้นส่วนโครงกระดูกแต่อย่างใด คาดว่าศพอาจจะถูกเคลื่อนย้ายออกไปจากพื้นที่ก่อนหน้านี้
หลังหลักฐานชี้ว่านายอนุชาน่าจะมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าว ชุดสืบสวนแบ่งกำลังออกเป็น 3 ส่วน ติดตามไปยังแหล่งที่นายอนุชาหนีไปกบดานทางภาคใต้ ในกรุงเทพฯ และพื้นที่ ต.นาโบสถ์ อ.วังเจ้า ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ
วันที่ 11 ต.ค. พ.ต.อ.การุณ วงศ์จันทรมณี ผกก.สภ.วังเจ้า จ.ตาก ได้รับการประสานงานจากทหารพรานที่ 33 ประจำ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ว่าได้ควบคุมตัวนายอนุชา ผู้ต้องหา ตามหมายจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดย เจตนา และซ่อนเร้นอำพรางศพ ไว้ได้ จึงจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปยัง อ.บันนังสตา จ.ยะลา เพื่อรับตัวมาสอบปากคำ
เบื้องต้นทราบว่า หลังเกิดเหตุนายอนุชาก็ได้หลบหนีมาอยู่ที่ อ.บันนังสตา โดยทำงานเป็นลูกจ้างในสวนปาล์มแห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อราว 10 ปีที่แล้วนายอนุชาเคยมาทำงานที่นี่ จนกระทั่งพบทหารพรานขอตรวจบัตรประจำตัวประชาชน ทำให้ทราบว่านายอนุชาเป็นผู้ต้องหาที่หลบหนีหมายจับ สภ.วังเจ้า จ.ตาก จึงควบคุมตัวไว้ พร้อมประสานมาที่ สภ.วังเจ้า ให้มารับตัวไปดำเนินคดี
นายอนุชายังให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าเป็นคนฝังศพภรรยาจริง แต่ไม่ได้เป็นคนฆ่า ส่วนสาเหตุที่ภรรยาเสียชีวิตนั้นเนื่องจากภรรยาตกรถ พอตกกลางคืนภรรยาก็เสียชีวิต เลยไม่รู้จะทำอย่างไรจึงได้นำศพไปฝังบริเวณจุดที่เจอฟันกับเส้นผม จากนั้นก็มีหมามาคุ้ยศพ จึงได้ขุดศพขึ้นมาแล้วย้ายไปฝังตรงใต้กอไผ่กระทั่งมาพบศพดังกล่าว
หลังสอบสวนเจ้าตัวพาไปขุดศพภรรยา ที่นำไปฝังในไร่อ้อยของเพื่อนบ้านห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 150 เมตร ซึ่งเมื่อส่งศพไปชันสูตรความจริงก็ปรากฏว่า ผู้ตายถูกของแข็งตีเข้าที่ท้ายทอย จนกะโหลกยุบ ทำให้เสียชีวิต
เมื่อจำนนด้วยหลักฐานผัวโหดก็เปิดปากสารภาพว่าได้ทำร้ายนางปราณีจนเสียชีวิตจริง เพราะบันดาลโทสะ โดยใช้ท่อนไม้ตีที่ศีรษะและร่างกายนับไม่ถ้วนจนเสียชีวิต จากนั้นได้นำศพไปฝังดินห่างจากบ้าน 5 เมตร ไม่นานศพส่งกลิ่นเหม็นรุนแรง และมีสุนัขมาคุยเขี่ยศพ และกัดแทะศพ ตนโมโหสุนัขจึงฆ่าสุนัขตายอีกตัวหนึ่งก่อนนำไปทิ้ง
จากนั้นได้เคลื่อนย้ายศพนางปราณีไปฝังในไร่อ้อยของเพื่อนบ้านห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 150 เมตร ก่อนจะหนีไปหางาน แต่หางานไม่ได้ เลยไปทำงานกับนายจ้างเก่าที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ทำงานเป็นคนงานในสวนปาล์มแห่งหนึ่ง จนกระทั่งถูกทหารพรานที่ 33 จับได้ดังกล่าว
หลังผ่านมานาน 3 เดือน ในที่สุดครอบครัวของนางปราณีก็ได้รับความยุติธรรม
วิทยา ปัญญาศรี
เรื่อง/ภาพ