เปิดหลักฐานคลี่คดีสยอง หนุ่มโหดทรมานน้องเมย์
สิ้นใจคาคอนโดเมืองทอง : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
เปิดหลักฐานคลี่คดีสยอง – ภาพที่ นายเกรียงไกร เพชรคุ้ม อายุ 37 ปี ร้องไห้ฟูมฟาย เขย่าร่างแฟนสาวว่า ทำไมจึงตายๆ ช่างดูเหมือนกับ เจ้าตัวกำลังเศร้าเสียใจอย่างสุดๆ โดยเจ้าตัวระบุว่าแฟนสาวฆ่าตัวตาย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งศพน้องเมย์ไปชันสูตร บวกกับหลักฐานที่ทางญาตินำมามอบให้ ความจริงก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที
พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภาค 1 สอบปากคำ
ย้อนไปเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 ต.ค. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภาค 1 พร้อม พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช. พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายเกรียงไกร เพชรคุ้ม อายุ 37 ปี ชาว ต.เอกราช อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ 400/2562 ลงวันที่ 11 ตุลาคม 2562 ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”
พล.ต.ท.อำพลเปิดเผยรายละเอียดที่มาที่ไปของ คดีนี้ว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุ น.ส.ปอณัฐฎา สายถนอม หรือน้องเมย์ อายุ 20 ปี เสียชีวิตที่ห้องพักในคอนโดมิเนียม ย่านเมืองทองธานี โดยนายเกรียงไกรที่เป็นแฟนผู้เสียชีวิต เป็นคนโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย โดยแจ้งว่าแฟนสาวฆ่าตัวตาย
น.ส.ปอณัฐฎา สายถนอม หรือน้องเมย์
ต่อมานายบุญมี สายถนอม พ่อผู้เสียชีวิตเข้าร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากสงสัยว่าลูกสาวตายผิดธรรมชาติ รวมทั้งมีข้อมูลที่ลูกสาวแช็ตเล่าเหตุการณ์ที่ถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกาย โดยข้อความสุดท้ายระบุว่า “เมื่อคืนพี่เกรียงเขาทำร้ายกู กูเกือบตาย กูกลัว กูจะโทร.หามึงตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่กูไม่กล้า กูกลัว เขานั่งทับกดคอกู กูหายใจไม่ออกเลย แล้วแผลอีกเต็มมือกู”
และอีกข้อความส่งถึงอีกคนว่า “มาดามขา ใครจะคิด เขาเหมือนโรคจิตไปเลย จะทิ้งโทรศัพท์หนูด้วย หนูกลัวแทบตาย หนูจะโทร.หาใครก็โทร.ไม่ได้” ซึ่งทางบิดาผู้ตาย ต้องการให้เรื่องดังกล่าวเกิดความกระจ่าง และหาความจริงที่เกิดขึ้นให้ได้
เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนรวบรวมหลักฐาน พร้อมสอบปากคำพยานเพิ่มเติม จนพบเบาะแสว่าก่อนน.ส.ปอณัฐฎาเสียชีวิต มีพยานยืนยันเห็นนายเกรียงไกรเดินทางมาที่คอนโดฯ ของผู้ตาย และยืนยันชัดเจนว่าเห็นผู้ตายออกจากห้องไปกับนายเกียงไกร ก่อนจะกลับมาที่ห้องตอนกลางดึกจนถึงช่วงเช้า
จากนั้นนายเกรียงไกรออกไปจากห้องไปซื้อโจ๊ก กลับเข้ามาสองถุง และในช่วงสายวันเดียวกันนายเกรียงไกรลงมาหา รปภ.เพื่อขอเบอร์โทร.อาสากู้ภัย และโทรศัพท์แจ้งให้มาช่วยเหลือแฟนสาวในห้องพักดังกล่าวด้วยอาการปกติ จากนั้นก็กลับขึ้นไปที่ชั้น 8 และเดินวนอยู่หน้าห้อง เมื่อกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงเปิดห้องพบศพแฟนสาว นายเกรียงไกรก็ร้องไห้ฟูมฟาย เขย่าร่างแฟนสาวว่า ทำไมจึงตาย
จากนั้นมีการระบุว่า น้องเมย์ฆ่าตัวตาย แต่หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำพยานใหม่เพิ่มอีกหลายปาก เพื่อหาความเกี่ยวข้องกับคดีแล้วได้เรียกให้นายเกรียงไกรมาพบเพื่อสอบปากคำ เพิ่มเติม พบว่านายเกรียงไกรให้การมีพิรุธ ขัดแย้งในหลายประเด็น
พล.ต.ท.อำพลเปิดเผยต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ผลยืนยันจากนิติวิทยาศาสตร์ พบว่านายเกรียงไกรเตรียมการวางแผนที่จะลงมือฆ่าผู้ตายไว้ก่อนแล้ว จึงไปขออนุมัติศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ก่อนจะเรียกตัวนายเกรียงไกรมาแจ้งข้อกล่าวหา
นายเกรียงไกรยังให้การปฏิเสธ ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของแฟนสาว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อในคำให้การจึงควบคุมตัวเข้าห้องขังเพื่อนำ ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรี พร้อมกับคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี
ขณะที่การสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบเบาะแสว่า ผู้ต้องหาคบหากับผู้ตายมาได้สักระยะ แต่มักเกิดอาการหึงหวงและทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง ฝ่ายหญิงจึงขอเลิกและตีตัวออกห่าง ทำให้นายเกรียงไกรเกิดความโกรธและทำร้ายร่างกาย ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะแยกทางกัน
กระทั่งวันที่ 29 ส.ค. นายเกรียงไกรทำทีขอนัดเจรจาอีกครั้งจนผู้ตายหลงเชื่อ และถูกทำร้ายร่างกายด้วยการใช้ข้อศอกกดที่ลำคอทรมานให้ยอมรับว่าคบกับชายคน ใหม่เป็นใคร อีกทั้งร่องรอยแผลที่มือก็เกิดจากนายเกรียงไกรหยิกและข่วน บังคับให้ผู้ตายสแกนลายนิ้วมือใส่รหัสผ่านมือถือ เพื่อเปิดดูข้อความแช็ตต่างๆ จนเป็นเหตุให้น.ส.ปอณัฐฎาขาดอากาศหายใจเสียชีวิตดังกล่าว
หลังเกิดเหตุนายเกรียงไกรยังทำท่าทางไม่รู้ เรื่อง และลงมาดูกล้องวงจรปิดที่คอนโดฯ ก่อนจะเรียกรถกู้ภัยมา จากนั้นพอเห็นกู้ภัยและรปภ.มาที่ห้องก็ทำทีร้องไห้กอดศพน้องเมย์ ซึ่งเรื่องนี้พ่อของผู้ตายเข้ามาร้องขอความเป็นธรรมจนนำไปสู่การจับกุมผู้ ก่อเหตุได้ ดังกล่าว
แม้นผู้ต้องหาจะยังปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ก็มั่นใจในพยานหลักฐาน สุดท้ายก็ต้องไปพิสูจน์กันในศาล
สันติ ประหร่ำภากรณ์
เรื่อง/ภาพ
