กองปราบฯ สานสัมพันธ์ตร.

บินจับมือตำรวจสิงคโปร์

รับมืออาชญากรข้ามชาติ

สดจากสนามข่าว

ธานี ทวีเกิด

กองปราบฯ – วิชาอาชญาวิทยาที่สอนกันในโรงเรียนตำรวจใน แต่ละประเทศ ก็มีหลักสูตรเนื้อหาไม่ต่างกันมากนัก แต่สิ่งหนึ่งที่เอามาสอนก็ไม่มีทางถ่ายทอดได้เต็มร้อย ย่อมเป็นประสบการณ์ในการสืบสวนจนนำมาสู่การคลี่คลายคดีอาชญากรรมของสุดยอด ปรมาจารย์นักสืบทั้งหลาย

เยือนสอบสวนกลางสิงคโปร์

ด้วยสภาพเศรษฐกิจ สังคม และความเจริญทางเทคโนโลยี รูปแบบการก่อเหตุอาชญากรรมก็พัฒนาไม่หยุดนิ่งตลอด การแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพให้ทัดเทียมกับรูปแบบการก่อเหตุ อาชญากรรมใหม่ๆ

หลายคดีที่การก่อเหตุอาชญากรรม กระทำเป็นขบวนการลักษณะเป็นแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ การแลกเปลี่ยนข้อมูล แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันของเจ้าหน้าที่ตำรวจในแต่ละประเทศจึงมีความสำคัญ

ฟังบรรยายสรุป

กองปราบปรามก็เป็นหัวหอกสำคัญหน่วยงานหนึ่ง ในการคลี่คลายคดีอาชญากรรมในเมืองไทย พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. จึงเดินหน้าเชื่อมสัมพันธ์ตำรวจอาเซียน ล่าสุดจับมือกับตำรวจสิงคโปร์ในการรับมืออาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมจับมือเฟซบุ๊ก แกะรอยอาชญากรทางเทคโนโลยี

ระหว่างวันที่ 6-9 ตุลาคมที่ผ่านมา พล.ต.ต.จิรภพ มอบหมายให้ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก. 5 บก.ป. พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ สว.กก.สนับสนุน บก.ป. พร้อมด้วยทีมงานปฏิบัติการด้านข่าวสารและแกะรอยทางเทคโนโลยี

พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.

เดินทางไปยังสำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง ประเทศสิงคโปร์ (Criminal Investigation Department : CID) เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดที่จะนำไปสู่การพัฒนาเขี้ยวเล็บของตำรวจทั้งสอง ประเทศ โดยมี สจ๊วต ไล ผู้กำกับการหัวหน้าฝ่ายประสานงานและฝึกอบรม สำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง ประเทศสิงคโปร์ (Stewart Lai : Superintendent of Police Head Liaison and Training) และ รอย ลิม ผู้กำกับการหัวหน้าฝ่ายคดีระเบิด แผนกคดีอาชญากรรมหลัก (Roy Lim : Head BOme and Explosives Branch) ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลแชร์ประสบการณ์กัน

พ.ต.อ.เนติ เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางของสิงคโปร์ รู้สึกดีใจมากที่กองปราบปราม เดินทางมาพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูล ทั้งนี้ตำรวจสอบสวนกลางของสิงคโปร์ ก็มีลักษณะการทำงานที่คล้ายกับกองบัญชาการสอบสวนกลาง หรือ บช.ก.ของประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ “ป้องกัน ขัดขวาง ปราบปรามอาชญากรรมผ่านงานสืบสวนที่มีประสิทธิภาพ” โดยมีหน้าที่หลักคือการสืบสวนคดีอาชญากรรมร้ายแรงและละเอียดอ่อน เป็นคดีพิเศษเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรม ฉ้อโกง ละเมิดลิขสิทธิ์ บ่อนการพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย คดีเกี่ยวกับเพศ คดีระเบิด คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่กำลังพุ่งสูงขึ้นเหมือนกันทุกประเทศทั่วโลก

ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์

พ.ต.อ.เนติ เปิดเผยต่อว่า ปัญหาอาชญากรรมของสิงคโปร์ ในตอนนี้ก็ไม่ต่างจากประเทศไทย คือ อาชญากรรมบนถนนหรือต่อบุคคลลดลง แต่กลับพบคดีโกงกันผ่านระบบอินเตอร์เน็ตที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น เช่น การฉ้อโกงออนไลน์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ทั้งสองประเทศจะได้ร่วมแก้ปัญหานี้ร่วมกัน พร้อมกันนี้ทางสิงคโปร์ก็พร้อมที่จะช่วยเชื่อมกับเฟซบุ๊กซึ่งมีสำนักงานใหญ่ ในเอเชียอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อในอนาคตจะได้มีแลกเปลี่ยนและการเข้าถึงข้อมูลระหว่างกันได้ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้การแก้ปัญหาอาชญากรรมทั้งสองประเทศนั้นเป็นไปได้ด้วยดี

ทั้งนี้ทางตำรวจสอบสวนกลางของสิงคโปร์ ก็ยังให้ความสนใจอย่างยิ่งในคดี “BANGKOKBOM” เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 ต่อเนื่องถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2562 ที่ตำรวจไทยสามารถคลี่คลายคดีระเบิดหลายจุดใจกลางกรุงเทพฯ ได้ในเวลาอันรวดเร็ว และทึ่งในศักยภาพของตำรวจไทยที่คลายปมคดีวินาศกรรมเมืองหลวงได้อย่างไร้ข้อ กังขา โดยใช้เวลาเพียง 6 ชั่วโมง ก็สามารถตามจับกุมผู้ต้องหาได้บางส่วน และยังขยายผลจับกุมไปยังผู้ร่วมขบวนการจนได้ในที่สุด

ขณะที่พล.ต.ต.จิรภพกล่าวเสริมว่า ตนให้ความสำคัญกับอาชญากรรมในโลกออนไลน์ ที่มีสถิติสูงขึ้นในทุกประเทศทั่วโลก จึงต้องขยายความร่วมมือไปยังประเทศต่างๆ โดยเริ่มจากกลุ่มประเทศอาเซียน และหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้องกับโลกออนไลน์ เพื่อสร้างความร่วมมือ ซึ่งที่ต้องเริ่มที่สิงคโปร์ ก็เพราะเป็นประเทศที่มีระบบป้องกันอาชญากรรมที่ดี นอกจากนี้ยังมีสำนักงานใหญ่ของเฟซบุ๊ก เครือข่ายสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่ระดับโลก เต็มไปด้วยผู้ชำนาญทางเทคโนโลยี

“คาดหวังว่าด้วยความร่วมมือในครั้งนี้ จะสามารถเดินหน้าช่วยกันลดอาชญากรรมประเภทนี้ลงได้อย่างรวดเร็ว” พล.ต.ต.จิรภพกล่าว

มอบของที่ระลึก

ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้นำ ผสานเข้ากับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ โลกก็แคบลงทุกทีแล้วสำหรับอาชญากร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน