เกาะภารกิจตม.นครพนม รวบ2หนุ่มคาด่านตรวจ

นำรถกระบะส่งขายลาว : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

เกาะภารกิจตม.นครพนม รวบ2หนุ่มคาด่านตรวจ นำรถกระบะส่งขายลา – หน้าที่ของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไม่ได้มีแค่ตรวจสอบบุคคลต่างชาติที่จะเข้า-ออกประเทศ หรือสืบสวนจับกุมการกระทำผิดกฎหมายของชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศเท่านั้น ผู้กระทำผิดที่ขนของผ่านด่านออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านก็เป็นหน้าที่สำคัญของเจ้าหน้าที่ประจำด่านชายแดนด้วยเช่นกัน

สดจากสนามข่าว

ผนึกร่วมยึดรถ

ขบวนการโจรกรรมรถนำส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ก็เป็นปัญหาอาชญากรรมหนึ่งที่ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการกวดขันตรวจสอบจับกุมอย่างเต็มที่ เพราะแม้นประเทศเพื่อนบ้านจะมีมาตรการห้ามจดทะเบียนรถพวงมาลัยขวา แต่ก็ไม่ เกินความสามารถแก๊งโจรกรรมรถ ที่จะเปลี่ยนแปลงสภาพจนสามารถนำไปใช้ได้

เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ นรข.เขตนครพนม สถานีเรือ อ.บ้านแพง และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ผสานกำลังกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนครพนม นำโดย พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.ตม.จว.นครพนม พ.ต.ท.สมพัฒน์ อุ่นคำ รอง ผกก.ตม.จว.นครพนม พ.ต.ท.ดุสิต ภูหงส์เพชร พ.ต.ต.ปวิช อุราสาย สว.ตม.จว.นครพนม

ตรวจยึดรถยนต์ จำนวน 2 คัน บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านดอนแพง ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม

หลังจากเจ้าหน้าที่ นรข.เขตนครพนมสถานีเรือ อ.บ้านแพง ตรวจพบเมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ว่ามีเรือแพดัดแปลงติดเครื่องยนต์ 2 ลำ บรรทุกรถยนต์กระบะ 2 ตอน ยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีขาว และ รถยนต์ 7 ที่นั่ง ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ลักลอบออกจากท่าเรือธรรมชาติที่สร้างขึ้นเองออกไปในแม่น้ำโขง คาดว่าจะข้ามไปฝั่งประเทศลาว จึงนำเรือออกสกัดจับ

สดจากสนามข่าว

ลากกลับฝั่ง

แต่เมื่อเรือเจ้าหน้าที่เข้าใกล้ปรากฏว่า ผู้ต้องหาอาศัยความชำนาญพื้นที่กระโดดน้ำว่ายหลบหนีไปได้ จึงยึดรถนำกลับมายังฝั่ง และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบเพื่อสืบสวนติดตามเจ้าของรถ และติดตามจับกุมขบวนการลักลอบนำรถออกไปนอกราชอาณาจักรต่อไป

ส่วนที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ก็นำทีมพร้อมด้วยพล.ต.ต.ณัฐวัฒน์ การดี ผบก.ตม.4 พ.ต.อ.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ รอง ผบก.ตม.4 พ.ต.อ.นิธิศ ปิติธีรโชติ รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ตม.4 พ.ต.อ.ชัยยศ วรักษ์จุนเกียรติ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ปฏิบัติราชการ สตม. และ พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.4 พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.ตม.นครพนม พ.ต.ท.นรินท์โชติ พงศ์พิธานนท์ รอง ผกก.สส.บก.ตม.4 พ.ต.ต.ปวิช อุราสาย สว.ตม.จว.นครพนม แถลงผลจับกุมผู้ต้องหาลักลอบนำรถยนต์ออกไปขายยังประเทศลาว

สดจากสนามข่าว

จับกลางน้ำโขง

โดยสามารถจับกุมนายเชษฐ ไชมาตย์ อายุ 51 ปี และนายบัณฑิตย์ อิงอาจ อายุ 70 ปี พร้อมของกลางรถยนต์กระบยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ ทะเบียน กจ 5183 นครพนม ได้ที่ด่านพรมแดนนครพนม สะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม

พล.ต.ท.สมพงษ์เผยรายละเอียดคดีว่า เจ้าหน้าที่ ตม.จว.นครพนม พบ 2 ผู้ต้องหาขับรถผ่านด่านเพื่อข้ามไปประเทศลาว แต่จากการตรวจหนังสือเดินทางรถพบความน่าสงสัย เนื่องจากเป็นเล่มใหม่และได้มีการโอนกรรมสิทธิ์รถในวันเดียวกับที่จะเดินทาง

นอกจากนี้รถกระบะดังกล่าวยังมีลักษณะผิดปกติวิสัยที่จะใช้ในการเดินทาง เพราะในรถไม่มีข้าวของเครื่องใช้อย่างอื่นของผู้ขับขี่เลย ประกอบกับคู่มือรถที่มีการโอนและต่อทะเบียนรถมีลักษณะที่ผิดสังเกต เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบย้อนหลังไปในระบบ พบว่านายเชษฐมีประวัติการนำรถยนต์ออกนอกราชอาณาจักร ผ่านทางสะพานมิตรภาพ 3 จ.นครพนม แต่กลับเข้ามาทางท่าเทียบเรือนครพนม โดยไม่นำรถกลับเข้ามา จำนวน 2 คัน

สดจากสนามข่าว

จนมุมคาด่านตม.

จึงได้ประสานการปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรนครพนม เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด ก็พบว่าผู้ต้องหารายดังกล่าวมีการนำรถออกนอกราชอาณาจักรไปแล้วจำนวน 2 คัน คือทะเบียน กจ 2530 นครพนม นำออกเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2561 ตามใบขนสินค้าพิเศษ เลขที่ 3501-6611200872

และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ ทะเบียน กจ 2603 นครพนม นำออกเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2561 ตามใบขนสินค้าพิเศษ เลขที่ 3501-6611201260 แล้วเดินทางกลับมาทางเรือ โดยกำลังจะนำคันที่ 3 คันที่ตรวจพบต้องสงสัย คือรถยนต์ กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ ทะเบียน กจ 5183 นครพนม

พล.ต.ท.สมพงษ์กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนายเชษฐยอมรับว่าได้ขายรถยนต์ดังกล่าวให้ผู้ซื้อที่ประเทศลาวแล้ว และครั้งนี้จะนำรถยนต์ออกไปขาย ยังประเทศลาวอีก โดยโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ให้นายบัณฑิตเป็นเจ้าของแทน เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจพบ พฤติการณ์จึงเป็นความผิดตามข้อกล่าวหาดังกล่าว ในการสกัดกั้นจับกุมผู้ลักลอบนำรถยนต์ไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน

สดจากสนามข่าว

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. แถลง

ทั้งนี้ ตม.จว.นครพนมได้ดำเนินการขยายผลเพื่อจับกุมเครือข่ายผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง โดยมีการประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งศุลกากรจังหวัดนครพนม สำนักงานขนส่งจังหวัดนครพนม และ กก.สส.ภ.จว.นครพนม เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ลักลอบนำรถยนต์ออกไปนอกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” ก่อนนำตัวส่ง สภ.เมืองนครพนม ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ถือได้ว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือในการจับกุมการโจรกรรมรถ ซึ่งปลายทางคือการนำไปขายส่งประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อตัดช่องทางการกระทำผิดกฎหมายได้อีกทางหนึ่ง

สราวุฒิ ศรีเพ็ชรสัย

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน